Born to be a Flower ซีรีย์ญี่ปุ่นสุดโรแมนติก นำแสดงโดย ซาโตมิ อิชิฮะระ

13135
Born to be a Flower

“จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสาวผู้เลอโฉมมาตกหลุมรักหนุ่มบ้านๆ หน้าตาอัปลักษณ์” ความแตกต่างทั้งทางรูปร่างหน้าตา และสถานะทางสังคมจะทำให้พวกเขาต้องเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง? รักครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน….

Born to be a Flower เป็นเรื่องราวของ โมโม่ ซึคิชิม่า (รับบทโดย ซาโตมิ อิชิฮะระ) หญิงสาวรูปงามสุดเพอร์เฟกต์ เธอเพรียบพร้อมไปด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานที่สมบูรณ์แบบ, มาจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยและมีหน้ามีตาในสังคม และความสามารถพิเศษที่โดดเด่น แต่กลับผิดหวังในความรักครั้งใหญ่จากชายในฝัน จนทำให้งานแต่งของเธอนั้นต้องล่ม จนกระทั่งได้มาเจอและตกหลุมรักกับนาโอโตะ คาซาม่า (รับบทโดย คาซุโนบุ มิเนตะ) เจ้าของร้านจักรยานบ้านๆ ที่ไม่มีอะไรเทียบเท่าเธอได้เลย เพราะความแตกต่างอย่างสุดขั้วของเขาทั้งสอง ทำให้เกิดเรื่องราวสุดโรแมนติกราวกับนิทานเก่าแก่ในตำนานเรื่อง ‘Beauty and the Beast’

ซาโตมิ อิชิฮะระ นางเอกสาวสุดสวยได้เผยว่า เรื่อง Born to be a Flower นี้แต่งโดยนักเขียนบทละครแนวรักโรแมนติกและละครแนวชีวิตชื่อดังอย่าง โนจิม่า ชินจิ ซึ่งเธอเองได้ใฝ่ฝันมานานแล้วว่าในชีวิตหนึ่ง เธออยากได้มีโอกาสเล่นละครของเขาบ้าง ในที่สุดฝันเธอก็เป็นจริง มันเลยทำให้เธอรู้สึกภูมิใจและตื่นเต้นมากที่ได้รับโอกาสนี้

นอกจากนี้เธอยังได้เผยอีกว่า ซีรีย์เรื่อง Born to be a Flower เป็นซีรีย์เป็นละครโรแมนติกที่มีความเข้มข้นมาก ขนาดเธอเองยังรู้สึกอินแบบสุดๆเมื่อได้อ่านบท เพราะในบทนั้นมีเรื่องราวที่คอยเซอร์ไพรส์ผู้ชมตลอดเวลา ส่วนบุคคลิกของโมโม่ (นางเอก) ที่เธอได้รับนั้น เป็นสาวที่ชอบหว่านเสน่ห์ด้วยการโปรยสายตาให้กับพระเอกของเรื่องตลอดเวลา เพราะนั่นเป็นเทคนิคมัดใจชายของเธอ ซึ่งหมายความว่า ตัวซาโตมิ อิชิฮะระ เองก็ต้องทำการบ้านหนักเพื่อเล่นบทนี้ออกมาให้ดีพอที่จะมัดใจหนุ่มนาโอโตะและผู้ชมทางบ้าน

ซาโตมิยอมรับว่าบทนี้ได้สร้างความกดดันให้เธอเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ขอสัญญาว่าจะทำมันให้ดีที่สุด และอยากขอให้แฟนๆทุกคนช่วยติดตามผลงานเรื่อง Born to be a Flower เพื่อเป็นกำลังใจให้เธอ ทั้งนี้แฟนๆชาวไทยสามารถติดตามซีรีย์รักโรแมนติกเรื่อง Born to be a Flower ได้ทุกวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.00 น. ออกอากาศเป็นตอนแรกในวันอังคารที่ 21 สิงหาคมนี้ ทางช่อง GEM ทรูวิชั่นส์ 244

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com