เคยไหม? ฝันอยากมีบ้านสไตล์มินิมอล แต่จบลงที่มินิมาร์ทเพราะว่าข้าวของกองพะเนินไปหมด อันนู้นก็ต้องมี อันนี้ก็ต้องใช้ จัดบ้านใหม่ทีไรไม่เคยเป็นระเบียบได้อย่างใจหวัง วันนี้จึงอยากชวนทุกคนมาสำรวจ 6 เทคนิคการจัดบ้านให้เรียบร้อยด้วย KonMari Method ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และทำให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น ตามแบบฉบับนักจัดระเบียบบ้านชาวญี่ปุ่น “Kondo Marie (คนโดะ มาริเอะ)”
Kondo Marie คือใคร?
Kondo Marie (คนโดะ มาริเอะ) เป็นผู้เชี่ยวชาญและนักจัดระเบียบบ้านชื่อดังชาวญี่ปุ่น หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของเธอมาจากหนังสือ ‘The Life-Changing Magic of Tidying Up’ หรือในชื่อภาษาไทย ‘ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านเพียงครั้งเดียว’ ที่ขายดีถล่มทลายและได้รับความนิยมอย่างมากจากหลายประเทศทั่วโลก ไม่เพียงเท่านั้น เคล็ดลับการจัดบ้านเพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสงบสุขและแรงบันดาลใจของเธอยังถูกถ่ายทอดอย่างแพร่หลายผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Netflix อีกด้วย
คุณมาริเอะชื่นชอบการจัดข้าวของให้เป็นระเบียบมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งเป็นอุปนิสัยที่ถอดแบบมาจากคุณแม่ของเธอ เมื่ออายุได้ 19 ปี เธอก็เริ่มผันตัวมาเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการจัดระเบียบบ้านอย่างจริงจัง และได้เผยแพร่แนวคิด “Spark Joy” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของวิธีการจัดบ้านที่เธอคิดค้นขึ้นเอง เรียกว่า “KonMari Method”
KonMari Method คืออะไร?
KonMari Method เป็นวิธีการจัดระเบียบบ้านที่คุณมาริเอะคิดค้นและพัฒนาขึ้นจากความหลงใหลในการจัดบ้านของเธอ ซึ่งให้ความสำคัญกับทั้ง ‘การเก็บไว้’ และ ‘การทิ้งไป’ ของสิ่งของทุกชิ้น เธอได้ให้ไอเดียที่ว่า หากสิ่งของชิ้นไหนยัง ‘จุดประกายความสุข’ หรือ ‘Spark Joy’ ทุกครั้งที่เราหยิบจับ ก็ให้เก็บของชิ้นนั้นไว้
ส่วนของชิ้นไหนที่อาจไม่ได้ให้ความสุขแก่เราแล้ว ก็ให้เอ่ยขอบคุณของชิ้นนั้นก่อนที่เราจะตัดใจทิ้งไปหรือส่งต่อให้กับผู้อื่น กล่าวก็คือ เป็นแนวคิดการจัดบ้านที่เน้นสร้างพื้นที่ที่โอบล้อมไปด้วยความสุขและแรงบันดาลใจ จากการเก็บสิ่งของที่มีความหมายกับเราเท่านั้นนั่นเอง
โดยแนวคิด KonMari Method นี้มีทั้งหมด 6 เทคนิคง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับบ้านและพื้นที่อยู่อาศัยของตัวเองได้ทุกรูปแบบ จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย!
6 เทคนิคในการจัดระเบียบบ้านตามแบบฉบับ Kondo Marie
ข้อที่ 1: มุ่งมั่นที่จะจัดระเบียบตัวเอง
จุดเริ่มต้นที่ดี คือ การมีความตั้งใจที่มั่นคง คุณมาริเอะแนะนำให้เราเริ่มจากการตั้งปณิธานกับตัวเองก่อนว่า เราจะทำภารกิจจัดบ้านครั้งนี้ให้สำเร็จให้ได้ เพราะการมีความตั้งใจอันแน่วแน่ จะทำให้เรามีพลังและแรงบันดาลใจในการจัดระเบียบบ้านมากยิ่งขึ้น
ข้อที่ 2: จินตนาการถึงวิถีชีวิตในอุดมคติ
เมื่อมีความตั้งใจแล้ว ลองวาดภาพในจินตนาการดูว่าเราอยากอาศัยอยู่ในบ้านแบบไหน รวมถึงวางตัวเองลงไปในภาพฝันนั้นว่าเราใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือมุมพักผ่อนสุดโปรด เพื่อให้ความสุขของการได้อยู่ในบ้านในฝันนี้ ช่วยให้เรามองเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการจัดบ้านให้สำเร็จได้อีกด้วย
ข้อที่ 3: ทิ้งของให้เสร็จก่อน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านของเรารกน้อยลง คือ การรู้จักคัดของทิ้งไปบ้าง การเลือกทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นหรือไม่ใช้แล้ว ไม่เพียงแต่ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยในบ้านเพิ่มขึ้น ยังช่วยให้เรารู้ว่าจะจัดระเบียบของที่เลือกเก็บไว้อย่างไรต่อไปได้เช่นกัน
ข้อที่ 4: จัดระเบียบตามหมวดหมู่
หลายคนคงคุ้นเคยกับการจัดระเบียบบ้านไปทีละห้อง ซึ่งอาจพบว่าเรามีสิ่งของแบบเดียวกัน หรือของที่ใช้ซ้ำอยู่บ่อย ๆ วางไว้หลายที่ และทุกครั้งที่จัดบ้านใหม่ก็ต้องเก็บสิ่งเหล่านี้วนไป ดังนั้น ใน KonMari Method จึงเสนอแนวคิดให้จัดระเบียบสิ่งของตามหมวดหมู่มากกว่า เพราะการที่เรารวบรวมของแต่ละประเภทมาไว้ที่เดียวกันทั้งหมด และจัดการให้เรียบร้อยในคราวเดียว นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้ว ยังช่วยให้เราคัดของซ้ำออก และเลือกเก็บไว้แต่ของที่จำเป็นง่ายขึ้น โดยคุณมาริเอะแนะนำการจัดหมวดหมู่สิ่งของไว้ทั้งหมด 5 อย่างด้วยกัน
หมวดเสื้อผ้า
เสื้อผ้าถือว่าเป็นสิ่งของที่เริ่มจัดได้ง่ายที่สุด โดยให้เรารวบเสื้อผ้าที่มีทั้งหมดในบ้านมาคัดพร้อมกันทีเดียว ชุดไหนที่ยังใส่ได้ หรือ Spark Joy ที่ได้ใส่ก็เก็บไว้ ส่วนชุดไหนที่ใส่ไม่ได้หรือไม่ได้ชอบแล้วนั้น ก็สามารถทิ้งไปหรือบริจาคให้กับผู้อื่นได้ รวมถึงเลือกคัดเสื้อผ้าจากส่วนบนไปส่วนล่าง เสื้อไปกางเกง หมวกไปถุงเท้า ก็ช่วยให้เราเห็นภาพตัวเองที่จะได้ใส่เสื้อผ้าแต่ละชิ้นง่ายขึ้น และพับเก็บเข้าที่ได้เป็นระเบียบยิ่งขึ้น
หมวดหนังสือ
หนอนหนังสือหลายคนอาจทำใจได้ยากเมื่อถึงเวลาที่ต้องบอกลาหนังสือกองโต ดังนั้น การใช้หลัก Spark Joy จะช่วยให้เราจัดการกับกองดองได้อยู่หมัดมากขึ้น โดยเริ่มต้นแบบเดียวกันกับการคัดเสื้อผ้า เอาหนังสือที่มีทั้งหมดมาไล่ดูทีละเล่มว่า เล่มไหนที่อ่านแล้วยังคงประทับใจก็เก็บไว้ ส่วนเล่มไหนที่ยังไม่มีวี่แววจะได้อ่าน หรือไม่อยากอ่านซ้ำแล้ว ก็สามารถขายต่อและบริจาคให้กับคนที่น่าจะได้ใช้ประโยชน์มากกว่าได้ เช่นนี้แล้ว ชั้นหนังสือของเราก็จะเป็นมุมโปรดที่มีแต่ความสุขเรียงกันไว้อย่างเป็นระเบียบ
หมวดเอกสาร
เอกสารอาจเป็นสิ่งของจุกจิกที่สร้างความวุ่นวายได้หากเราไม่จัดการให้เป็นระเบียบ คุณมาริเอะแนะนำว่า ให้เลือกเก็บไว้เฉพาะอันที่สำคัญและจำเป็นต้องใช้จริง ๆ เท่านั้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- เอกสารที่กำลังใช้ เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจิปาถะต่างๆ ที่ต้องจ่ายเป็นประจำ
- เอกสารที่ต้องใช้ในระยะเวลาหนึ่ง เช่น เอกสารยื่นภาษี
- เอกสารที่ต้องเก็บติดตัวไว้ตลอดชีวิต เช่น ใบทะเบียนสมรส พาสปอร์ต
สำหรับเอกสารอื่น ๆ นอกเหนือจากข้างต้นนี้คัดทิ้งได้หมด เพราะโดยทั่วไปสามารถขอใหม่ได้ เช่น เอกสารราชการต่าง ๆ หรือบางอย่างก็สามารถดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตได้ ดังนั้น ให้ตัดความกังวลว่าเราจะมีเอกสารนั้น ๆ เก็บไว้หรือไม่ ด้วยการหาใหม่เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้จะสะดวกรวดเร็วกว่า
หมวดของใช้จิปาถะ
ของใช้จิปาถะเป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้านที่จัดการได้ยากไม่แพ้กัน เช่น ของใช้ในห้องน้ำ อุปกรณ์ทำครัว อุปกรณ์สำนักงาน เราสามารถใช้หลักการ Spark Joy ในการจัดระเบียบสิ่งของเหล่านี้ได้เช่นกัน รวมถึงการจัดของเก็บใส่กล่อง เช่น กล่องพลาสติก หรือกล่องกระดาษเหลือใช้ ก็จะช่วยแบ่งข้าวของเป็นสัดส่วนและหยิบใช้ได้ง่ายมากขึ้น
หมวดของมีค่า
ของมีค่าหรือสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจเป็นสิ่งที่คุณมาริเอะแนะนำให้จัดเป็นลำดับสุดท้าย เพราะหัวใจและความรู้สึกที่ค่อย ๆ ถูกขัดเกลามาจากการจัดระเบียบของที่ไม่สำคัญ จนมาถึงของสำคัญที่สุดนั้น จะช่วยให้เรารับมือกับการจัดของประเภทนี้ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มรูปถ่าย ของที่ระลึกต่าง ๆ ชิ้นไหนที่ยังคงจุดประกายความสุขให้เราเสมอก็เก็บไว้ ส่วนชิ้นไหนที่อาจไม่สำคัญกับตัวเราในปัจจุบันแล้วก็ต้องยอมบอกลากันไป
ข้อที่ 5: จัดระเบียบตามลำดับ
KonMari Method ไม่เพียงให้ความสำคัญกับการจัดของในบ้านตามหมวดหมู่เท่านั้น แต่การไล่เรียงลำดับหมวดหมู่ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น โดยเริ่มจากการจัดเสื้อผ้า ตามด้วยหนังสือ เอกสาร ของจิปาถะ และปิดท้ายด้วยของที่มีคุณค่าทางใจ ล้วนเป็นวิธีการที่คุณมาริเอะร้อยเรียงอย่างประณีตตั้งใจ เพื่อให้เจ้าของบ้านทุกคนประหยัดเวลามากขึ้น และสามารถจัดบ้านให้เป็นระเบียบได้อย่างแท้จริง
ข้อที่ 6: ถามตัวเองว่าสิ่งนี้ได้จุดประกายความสุข (Spark Joy) หรือไม่?
เนื่องจากความสุขของเราในปัจจุบันนั้นยิ่งใหญ่ที่สุด แนวคิด Spark Joy จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถจัดการดูแลบ้านให้มีแต่สิ่งของที่สร้างประกายความสุขและเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งยังช่วยให้เราจัดการกับความรู้สึกต่อสิ่งของต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราหยิบของมาพิจารณาว่า สิ่งนี้ยังคงสร้างความสุขให้กับเราหรือไม่ จะช่วยให้เราได้ทบทวนตัวเองและเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งของนั้นที่มีต่อเราชัดเจนมากขึ้น และตัดสินใจได้ในที่สุดว่าจะเก็บไว้หรือทิ้งไป
ทั้งหมดนี้ก็คือ 6 เทคนิคจัดบ้านด้วย KonMari Method ตามแบบฉบับ Kondo Marie ที่จะช่วยให้การจัดระเบียบบ้านของทุกคนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ใครที่กำลังมีแพลนจัดบ้านสไตล์มินิมาร์ทให้ดูมินิมอลมากขึ้น ลองให้แนวคิด Spark Joy ได้พาเราเดินทางทำความรู้จักกับข้าวของทุกชิ้น เพื่อเนรมิตชีวิตที่มีความสุขกับบ้านในฝันกันนะ
เริ่มต้นการจัดระเบียบด้วยการออกแบบบ้านให้น่าอยู่
“บ้าน” เป็นทั้งที่พักอาศัยและพื้นที่ปลอดภัยที่เราได้พักผ่อนและเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ การสร้างบ้านในฝันจึงไม่เพียงเริ่มต้นจากการจัดข้าวของให้เป็นระเบียบ แต่การออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ผู้อาศัยก็สำคัญเช่นกัน ให้ บริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน dooDeco ช่วยรังสรรค์บ้านให้ตรงใจคุณ ไม่ว่าจะเป็นแนว Minimal Muji หรือสไตล์อื่น ๆ
ด้วยบริการรับออกแบบและตกแต่งภายในแบบครบวงจร ทั้งบริการออกแบบตกแต่งบ้านและคอนโด สามารถเลือกได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และ Fit-in ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด โดยช่างผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์
- รับออกแบบและบิ้วอินบ้าน จัดสรรพื้นที่ในบ้านหลังโปรดให้ถูกใจทุกจุด ไม่ว่าจะห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยออกแบบให้ใช้งานง่ายและสวยถูกใจทุกคนในครอบครัว
- รับออกแบบและบิ้วอินคอนโด เนรมิตพื้นที่น้อยให้ใช้สอยได้มาก แบ่งสันปันส่วนทุกมุมห้องให้ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานสไตล์คนเมือง ครบจบทั้งทำงานและพักผ่อนได้ในที่เดียวกัน
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com
