สวัสดีค่า บทความนี้เป็นอีกหนึ่งบทความสำหรับของกินอร่อยๆ ที่เกิดจากกระเพาะแบคโฮวของเราในช่วงนี้ ก็เลยตั้งใจหาของทานอยู่เรื่อยๆ ตามร้านข้างทาง
ช่วงก่อนหน้านี้โทรทัศน์รายการญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งร้านอาหารต่างๆ ได้มีการบรรจุผักชีเข้าสู่เมนูร้านด้วย และผักชียังได้รับความนิยมในหมู่คนญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ (สืบทราบมาว่า ขายดีมาก อิ อิ) วันนี้เราเลยลองเกาะกระแสผักชีฟีเวอร์ในญี่ปุ่นโดยการไปทานราเมงที่ใส่ผักชีกันดู ไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ปล. คนญี่ปุ่นเรียก “ผักชี” ว่า “Pakuchi” (パクチー) นะคะ
รีวิวร้าน Taiyo no Tomato-men (太陽のトマト麺)
Taiyo no Tomato-men เป็นร้านราเมงที่มีอยู่หลายสาขาในญี่ปุ่นค่ะ ร้านที่เราจะพาไปวันนี้เป็นสาขา Otsuka North Exit (大塚北口支店) ในโตเกียวนะคะ
ราเมง: เป็นร้านราเมงน้ำซุปสไตล์อิตาเลียน รวมกับการประยุกต์เครื่องปรุงหลายๆ แบบให้เข้ากันจนได้เป็นราเมงแบบใหม่ เน้นที่น้ำซุปมะเขือเทศเป็นหลัก
ราคาอาหาร: ประมาณ 900 -1,000 เยน
การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาที จาก Yamanote Line Otsuka st. [North Exit] ดูแผนที่ Google Map
เว็บไซต์ของร้าน: taiyo-tomato.com
เวลาเปิด-ปิดของร้าน
วันธรรมดาและวันอาทิตย์ร้านเปิดทำการ 11:00 น. – 24:00 น.
วันหยุด(พิเศษ)ละวันเสาร์เปิดทำการ:11:00 น. – 25:00 น.
ทุกครั้งที่เดินผ่านหน้าร้านเราจะได้กลิ่นซุปมะเขือเทศโชยมาให้ท้องร้องด้วยล่ะ เวลาเดินหาร้านถ้าเดินเลยร้านนี่รู้เลยค่ะ ดมกลิ่นกลับมาถูกแน่นอน (เว่อร์ 555)
หรืออีกแมนูหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือ Tori Paitan (ราเมงไพตันไก่) นั่นเอง ส่วนเครื่องปรุงอาจจะแตกต่างจากร้านราเมงปกติค่ะ ร้านนี้มีซอสพริกทาบัสโก้ (รสเผ็ดออกเปรี้ยว) พริกไทยดำ และน้ำมันพริกคั่ว
ส่วนตัวเราสั่งราเมงมะเขือเทศผักชีไปค่ะ เนื่องจากเป็นเมนูแนะนำของช่วงนี้ เห็นคนญี่ปุ่นเขามีเทรนด์ทานผักชีกัน ก็เรียกว่าเยอะจนเรียกได้ว่าเป็นทอปปิ้งมากกว่าโรยหน้าให้สวยแบบบ้านเรา แต่เป็นราเมงที่เหมือนในรูปมากจริงๆ ทั้งหน้าตา การจัดวางปริมาณเป๊ะมาก โดยเฉพาะสีสัน อิ อิ ส่วนกลิ่นนั้นไม่ต้องพูดถึง ได้กลิ่นซุปมะเขือเทศ พริกคั่วและผักชีโชยมาเลยค่ะ น้ำลายสอทันใด อิ อิ
มาลองราเมงรสชาติแปลกๆ กันได้นะคะ บางทีลองทานที่ไม่มีในหนังสือนำเที่ยวบ้างเราจะได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครค่ะ ^^
บทความรีวิวร้านราเมงอื่นๆ ในโตเกียว
[รีวิว] ราเมงจากร้าน AFURI RAMEN HARAJUKU ความอร่อยที่ลงตัวหาตัวจับยาก!
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com