วันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับ “ตัวอักษรญี่ปุ่น” แบบเบื้องต้นมากฝาก เรียกกว่าเป็นการเริ่มต้นขั้นแรกที่จะทำให้เราพัฒนาการเรียนภาษาญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งก็คล้ายๆ กับการเรียน A-Z ในภาษาอังกฤษนี่แหละค่ะ เพียงแต่ว่าภาษาญี่ปุ่นไม่ได้มีตัวอักษรแค่ชุดเดียว แต่มีถึง 3 ชุดด้วยกัน! โดยประกอบด้วย ฮิรางานะ (Hiragana), คาตาคานะ (Katakana) และ คันจิ (Kanji)
นอกจากนี้ก็ยังมี โรมาจิ (Romaji) ที่เป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษซึ่งใช้แทนการอ่านออกเสียงภาษาญี่ปุ่น หรือที่หลายคนอาจเรียก “ภาษาคาราโอเกะ” นั่นเอง เป็นอีกรูปแบบของระบบการเรียนภาษาญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติที่ใช้กันอย่างแพร่หลายค่ะ สำหรับกาเรียนตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นนี้ แอดมินจะขอแนะนำเฉพาะตัวอักษรฮิรางานะ (Hiragana) และ คาตาคานะ (Katakana) ซึ่งมีทั้งหมดอย่างละ 46 ตัวนะคะ ส่วนตัวคันจิที่เป็นตัวอักษรแบบจีนนั้นมีเป็นพันๆ ตัวเลยค่ะ (ฟังแล้วจะเป็นลม ฮ่าๆ)
นอกจากนี้ เรายังมีเคล็ดลับในการจำตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเทคนิคที่คุณครูสมัยก่อนของเราสอนมาค่ะ จนตอนนี้ผ่านมาเป็นสิบกว่าปีแล้วก็ยังคงใช้ได้อยู่ สำหรับในบทความแรกนี้จะขอเริ่มกันที่ตัวอักษรฮิรางานะกันก่อนนะคะ ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่า!
เกี่ยวกับตัวอักษรฮิรางานะ
ตัวอักษรฮิรางานะ (Hiragana) หรือ ひらがな (ฮิระงะนะ) ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “อักษรพยางค์สามัญคาด” เป็นตัวอักษรญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นโดยใช้ตัวอักษรคันจิ (ตัวอักษรจีน) เป็นพื้นฐาน มีมาตั้งแต่สมัยเฮอันหรือประมาณ ค.ศ. 800 ในสมัยก่อนฮิรางานะนั้นเป็นตัวอักษรที่ผู้หญิงใช้เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันนั้นได้ใช้กันโดยทั่วไป โดยใช้ในคำที่ไม่มีคันจิ และยังใช้ในคำช่วยและส่วนท้ายของคำกริยา และยังเป็นอักษรพื้นฐานในการเรียนภาษาญี่ปุ่นขั้นต้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ตัวอักษรฮิรางานะยังใช้ในการเขียนกำกับไว้กับตัวอักษรคันจิ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ฟุริงานะ (Furigana) เพื่อช่วยบอกเสียงคำอ่านของคันจินั้นๆ โดยเขียนเป็นตัวหนังสือเล็กๆ อยู่ด้านบนหรือด้านข้างของตัวอักษรคันจิแล้วแต่กรณี
ข้อมูลทั่วไป
- จำนวนตัวอักษร: มีทั้งหมด 46 ตัว
- เสียงสระ: 5 เสียง ได้แก่ あ(อะ), い(อิ), う(อุ), え(เอะ), お(โอะ)
- เสียงพิเศษ: ん(อึน) ใช้เป็นตัวสะกดหรือส่วนประกอบเสียงกับพยัญชนะอื่นๆ
- วรรคที่ไม่มีตัวอักษรครบทั้ง 5 เสียง:
- วรรค や(ยะ) มีตัวอักษรเพียง 3 ตัว
- วรรค わ(วะ) มีตัวอักษรเพียง 2 ตัว
หมายเหตุ: を(โอะ) ออกเสียงเหมือนกับ お(โอะ) แต่ を(โอะ) จะใช้เป็นคำช่วยในภาษาญี่ปุ่น
ตารางตัวอักษรและการออกเสียง
あ | い | う | え | お |
อะ (a) | อิ (i) | อุ (u) | เอะ (e) | โอะ (o) |
か | き | く | け | こ |
คะ (ka) | คิ (ki) | คุ (ku) | เคะ (ke) | โคะ (ko) |
さ | し | す | せ | そ |
ซะ (sa) | ชิ (shi) | ซุ (su) | เซะ (se) | โซะ (so) |
た | ち | つ | て | と |
ทะ (ta) | จิ (chi) | ทสึ (tsu) | เทะ (te) | โทะ (to) |
な | に | ぬ | ね | の |
นะ (na) | นิ (ni) | นุ (nu) | เนะ (ne) | โนะ (no) |
は | ひ | ふ | へ | ほ |
ฮะ (ha) | ฮิ (hi) | ฟุ (fu) | เฮะ (he) | โฮะ (ho) |
ま | み | む | め | も |
มะ (ma) | มิ (mi) | มุ (mu) | เมะ (me) | โมะ (mo) |
や | ゆ | よ | ||
ยะ (ya) | ยุ (yu) | โยะ (yo) | ||
ら | り | る | れ | ろ |
ระ (ra) | ริ (ri) | รุ (ru) | เระ (re) | โระ (ro) |
わ | を | |||
วะ (wa) | โอะ (o) | |||
ん | ||||
อึน (n) |
เทคนิควิธีการจำตัวอักษร
- ควรจำเสียงอ่านขึ้นต้นของแต่ละวรรคให้ได้ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 10 แถว แล้วจำเสียงอ่านตัวอักษร ซึ่งมีจำนวนวรรคละ 5 ตัว โดยการอ่านจากซ้ายไปขวา จะช่วยให้สามารถจำทั้ง 46 ตัวอักษรได้ไม่ยากนัก
- เสียงอ่านขึ้นต้นแต่ละวรรค: ได้แก่ あ(อะ), か(คะ), さ(ซะ), た(ตะ), な(นะ), は(ฮะ), ま(มะ), や(ยะ), ら(ระ), わ(วะ)
- เสียงอ่านจากซ้ายไปขวา: เช่น
- วรรค あ(อะ) ก็อ่าน あ(อะ), い(อิ), う(อุ), え(เอะ), お(โอะ)
- วรรค か(คะ) ก็อ่าน か(คะ), き(คิ), く(คุ), け(เคะ), こ(โคะ)
- หมายเหตุ: ในบางวรรคจะมีบางตัวอักษรที่ออกเสียงที่ต่างไป เช่น ち(จิ) และ つ(ทสึ) ในววรค た(ทะ)
- ฝึกจำเป็นเซตอักษรคล้ายกันโดยเฉพาะ เช่น あ(อะ) – お(โอะ), は(ฮะ) – ほ(โฮะ), る(รุ) – ろ(โระ)
- ฝึกคัดตัวหนังสือบ่อยๆ และหมั่นทบทวนจนกว่าจะจำได้แม่น หากยังติดขัดตรงตัวไหน ให้เน้นคัดตัวนั้นเป็นพิเศษ
- ใช้บัตรคำศัพท์ช่วยจำ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือ หรือสามารถประดิษฐ์เองก็ได้
ตัวอย่างคำศัพท์
คำศัพท์ | โรมาจิ | เสียงอ่าน | คำแปล |
---|---|---|---|
いぬ | inu | อินุ | สุนัข |
かわいい | kawaii | คาวาอี | น่ารัก |
さくら | sakura | ซะคุระ | ซากุระ |
はな | hana | ฮะนะ | ดอกไม้ |
みかん | mikan | มิคัง | ส้ม |
หมายเหตุ: เสียงสั้นในญี่ปุ่นสามารถออกเสียงได้ทั้งสั้นและสั้นกึ่งยาวในภาษาไทย บางครั้งเมื่อเขียนในภาษาไทยจึงแทนด้วยสระเสียงยาว เช่น ซากุระ (さくら) ทำให้เวลาคนไทยเวลาพูดภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงยาวกว่าปกติ
ส่งท้าย
ทั้งฮิรางานะ (Hiragana) และคาตาคานะ (Katakana) นั้นมีจำนวนตัวอักษร 46 ตัวเหมือนกัน แต่มีรูปแบบของตัวหนังสือและลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน หากสังเกตจากลักษณะการเขียน ตัวฮิรางานะจะมีความมนๆ ส่วนตัวคาตาคานะจะออกเหลี่ยมๆ ยกตัวอย่างคำว่า かわいい VS カワイイ(kawaii) ซึ่งแปลว่าน่ารัก น่าจะแยกกันได้ไม่ยากใช่ไหมคะ
ในตอนหน้าเราจะพาไปรู้จักกับตัวอักษรคาตาคานะให้มากขึ้นพร้อมเทคนิควิธีการจำอีกเช่นเคย หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับคนที่เริ่มหัดเขียนตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่นไม่มากก็น้อย สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า
อ่านตอนต่อไป » ตัวอักษรญี่ปุ่น คาตาคานะ (Katakana) 46 ตัว พร้อมตาราง+เทคนิควิธีจำ
บทความเรียนภาษาญี่ปุ่น ดูทั้งหมด »
- คําทักทายภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวัน สวัสดี แนะนำตัว พูดอย่างไรดี?
- คำขอบคุณภาษาญี่ปุ่น ‘อาริกาโตะ’ ありがとう (Arigatou) ใช้อย่างไรดี?
- ลาก่อนภาษาญี่ปุ่น ‘ซาโยนาระ’ さようなら (Sayonara) ใช้อย่างไรดี?
- คำขอโทษภาษาญี่ปุ่น Sumimasen VS Gomennasai ใช้อย่างไรดี?
- รวมคำศัพท์รถไฟภาษาญี่ปุ่น & การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น
- คำแนะนำเริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง & เรียนภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียน
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com