เนื่องจากทริปใหญ่ระหว่างโตเกียวและโอซาก้าที่ผ่านมา แอดมินได้มีโอกาสใช้พาหนะชนิดต่างๆ เรียกว่าเยอะแยะตาแป๊ะไก่มาก และเนื่องด้วยในขณะนั้นเรามาเรียนที่ญี่ปุ่นจึงได้เป็นวีซ่าระยะยาว ทำให้ไม้ได้สิทธิในการท่องเที่ยวต่างๆ แบบนักท่องเที่ยวธรรมดา และไม่สามารถใช้ JR PASS ได้ การเดินทางไกลจากโตเกียวไปโอซาก้านั้นจึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ถี่ถ้วน เพราะค่าใช้จ่ายนั้นสูงมากเลยทีเดียว
วันนี้เราจึงอยากจะนำเสนอการเดินทางในหลายๆ รูปแบบ โดยเป็นเส้นทางระหว่าง โตเกียวและโอซาก้า (Tokyo – Osaka) ซึ่งเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มาดูกันเลยค่า ว่าจะมีวิธีการเดินทางระหว่าง 2 เมืองนี้อย่างไรบ้างที่ง่ายและรวดเร็ว
วิธีการเดินทางระหว่างโตเกียว – โอซาก้า
1. รถไฟชินคันเซ็น
ชินคันเซ็น (Shinkansen) หรือรถไฟความเร็วสูงนั้นถือว่าเป็นยานพาหนะในฝันของใครหลายๆ คนที่อยากจะนั่งกัน เพราะเป็นรถไฟที่วิ่งได้เร็วมาก ในเส้นทางโตเกียว (สถานี Tokyo) – โอซาก้า (สถานี Shin-Osaka) ก็มี 3 ขบวนให้บริการ ได้แก่ NOZOMI (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เร็วสุด จอดน้อยที่สุด), HIKARI (จอดบางสถานี) หรือ KODAMA (ช้าที่สุด เพราะจอดทุกสถานี)
สำหรับ JR PASS ที่ใช้นั่งชินคันเซ็นในเส้นทางนี้ได้นั้น จะมีอยู่แบบเดียวแบบ All Area ที่สามารถใช้ได้ทั่วญี่ปุ่น (ราคาพาสเริ่มต้นที่ 29,650 เยนสำหรับผู้ใหญ่) โดยสามารถขึ้นชินคันเซ็นขบวน HIKARI (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) หรือขบวน KODAMA (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง) ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย (※ยกเว้นขบวน NOZOMI)
เปรียบเทียบระยะเวลาในการในการเดินทาง
ขบวน | ระยะเวลา |
---|---|
NOZOMI※ | ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที |
HIKARI | ประมาณ 3 ชั่วโมง |
KODAMA | ประมาณ 4 ชั่วโมง |
※หากใช้ JR PASS ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2023 กับขบวน NOZOMI สามารถซื้อตั๋วเพิ่มเพียง 4,960 เยน
ส่วนกรณีที่ไม่ได้ซื้อ JR PASS ก็ต้องจ่ายราคาเต็มๆ ไม่ว่าจะขึ้นขบวนเร็วแค่ไหน ราคาตั๋วก็เท่ากันค่ะ ซึ่งค่าโดยสารทั่วไปจะแบ่งเป็น Basic Fare 8,910 เยน + Express Fee 4,960 เยน + ค่าจองที่นั่งต่างหาก ถึงแม้จะมีโซนสำหรับไม่ต้องจองที่นั่งก็ใช้ต้องเงินจำนวนหนึ่งอยู่ดี รวมค่าใช้จ่ายแล้ว ถ้าขึ้นชินคันเซ็นจะเสียเที่ยวละ 13,870 เยน (ราคานี้เป็นแบบไม่จองที่นั่ง) หากเป็นแบบ Green Car นี่สามารถจองตั๋วเครื่องบินไทยมาโอซาก้าได้เลยค่าาา
ค่าโดยสารชินคันเซ็น Tokyo – Shin-Osaka
ประเภท | ค่าโดยสาร |
---|---|
Non-Reserved Seat | ทุกขบวน 13,870 เยน |
Reserved Seat | KODAMA, HIKARI 14,600 เยน NOZOMI 14,920 เยน |
Green Car | KODAMA, HIKARI 19,470 เยน NOZOMI 19,790เยน |
※จองตั๋วชินคันเซ็นแบบรายเที่ยวล่วงหน้าทางออนไลน์ได้ที่ » klook.com (ภาษาไทย)
จองรถไฟ & พาสในญี่ปุ่น
ใส่โค้ด BDOCTJPTRAIN ลดเพิ่ม 7%
สูงสุด 650.- เมื่อจองขั้นต่ำ 7,500.-
ใช้ได้ทั้ง JR Pass, Shinkansen, Keisei Skyliner และรถไฟด่วนต่างๆ
จองได้ตั้งแต่ 18 – 31 ต.ค. 2024
※โค้ดมีจำนวนจำกัด
หากคิดจะขึ้นชินคันเซ็นในเส้นทางโตเกียว – โอซาก้า ถ้าซื้อ JR PASS แบบ 7 วัน คิดว่ายังไงก็คุ้มอยู่แล้วค่ะ แค่นั่งรถไฟขาเดียวก็ปาไปครึ่งนึงของราคาพาสแล้ว แถมยังใช้เดินทางได้อีกตั้ง 7 วัน
ราคา JR PASS สำหรับซื้อนอกประเทศญี่ปุ่น (ถึง 30 ก.ย. 2023)
ประเภท | ราคาพาส (Ordinary) | ราคาพาส (Green Car) |
---|---|---|
แบบ 7 วัน | 29,650 เยน | 39,600 เยน |
แบบ 14 วัน | 47,250 เยน | 64,120 เยน |
แบบ 21 วัน | 60,450 เยน | 83,390 เยน |
※ถ้าใครมีแพลนจะใช้พาสในช่วงนี้ แนะนำให้ซื้อไว้ก่อนที่จะปรับขึ้นราคาได้เลย โดยสามารถซื้อไว้ แล้วไปแลกรับพาสจริงได้ภายใน 90 วัน
ราคา JR PASS สำหรับซื้อนอกประเทศญี่ปุ่น (ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2023)
ประเภท | ราคาพาส (Ordinary) | ราคาพาส (Green Car) |
---|---|---|
แบบ 7 วัน | 50,000 เยน | 70,000 เยน |
แบบ 14 วัน | 80,000 เยน | 110,000 เยน |
แบบ 21 วัน | 100,000 เยน | 140,000 เยน |
※หากต้องการขึ้นรถไฟขบวน NOZOMI จะต้องต้องซื้อตั๋วเพิ่มต่างหาก 4,960 เยน (จะมีการจำหน่ายตั๋ว NOZOMI พิเศษสำหรับผู้ที่ใช้ JR PASS ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2023)
โดยส่วนตัวแล้วไม่แนะนำให้นั่งรถไฟธรรมดาแบบรวดเดียว เพราะต้องต่อรถประมาณ 6 เที่ยว ใช้เวลาอย่างต่ำคือ 8 ชั่วโมง ใช้ค่าเดินทางทั้งหมดประมาณ 8,910 เยน ถือว่าประหยัดค่าโดยสารไปได้ยังไม่ถึงครึ่งอีกด้วยค่ะ
※ซื้อ JR PASS ทางออนไลน์ได้ที่ » klook.com (ภาษาไทย)
※เช็คเที่ยวรถไฟได้ที่ » japantravel.navitime.com (ภาษาอังกฤษ)
หมายเหตุ:
ตั้งแต่พฤษภาคม 2020 หากใช้บริการ Tokaido Shinkansen เส้นทางระหว่างสถานี Tokyo – Shin-Osaka จะต้องจองที่วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ (เกิน 160 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 250 เซนติเมตร) โดยสามารถจองได้ฟรีที่เคาน์เตอร์ของรถไฟ JR ตามสถานีต่างๆ รวมไปถึง Smart EX และ Shinkansen Express Ride app
- วิธีคำนวณขนาดของกระเป๋าเดินทาง ให้เอาความยาว (C) + ความกว้าง (B) + ความสูง (A)
- กระเป๋าเดินทางที่เล็กว่า 160 เซนติเมตร สามารถเอาขึ้นรถไฟได้โดยไม่ต้องจองที่วางล่วงหน้า
- กระเป๋าเดินทางที่ใหญ่กว่า 250 เซนติเมตร ไม่สามารถเอาขึ้นรถไฟได้
- หากไม่จองที่วางกระเป๋าขนาดใหญ่ล่วงหน้า จะมีการเรียเก็บเรียกเก็บเงินเพิ่ม 1,000 เยน + ภาษี
※ดูรายละเอียดได้ที่ » jnto.or.th (ภาษาไทย)
2. เครื่องบินในประเทศ
เมื่อพูดถึงการเดินทางจากโตเกียวมาโอซาก้าโดยเครื่องบินแล้ว แน่นอนว่าเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที สำหรับจากสนามบินฮาเนดะ (HND) มายังสนามบินอิตามิ (ITM) แต่หลายคนอาจคิดว่าค่าตั๋วต้องแพงอย่างแน่นอน อย่ากระนั้นเลยค่ะ ค่ารถไฟแพงกว่าอีก (เศร้าแป๊บ…)
แต่จะบอกว่าจริงๆ แล้ว ขึ้นอยู่กับสายการบินมากกว่า ถ้าใช้บริการของ ANA (ได้ยินคนญี่ปุ่นเขาเรียกว่า…อะนา) หรือ JAL (แจล) ซึ่งเป็น Full Service ราคาก็พุ่งกระฉูดไปที่ 10,000 – 20,000 เยนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สายการบิน Low Cost ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีให้บริการเช่นกัน เช่น Jetstar และ Peach เปรียบเทียบก็คล้ายๆ กับ AirAsia, Nokair ของบ้านเราค่ะ ราคาตั๋วก็ประมาณ 5,000 – 10,000 เยนค่ะ
จากที่เคยใช้บริการสายการบิน Peach จากโตเกียวมาโอซาก้าในเส้นทางสนามบินนาริตะ (NRT) – สนามบินคันไซ (KIX) เราเคยจองได้ราคา 6,000 เยนโดยประมาณ เป็นราคายังไม่รวมโหลดกระเป๋า และถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 กิโลกรัม เก้าอี้รู้สึกว่าจะกว้างกว่า AirAsia บริการอื่นนอกจากนี้จะคล้ายๆ กับ Low Cost ทั่วไปค่ะ แต่แอร์โฮสเตสจะตัวเล็กๆ ซึ่งที่เก้าอี้จะมีที่ให้เหยียบปีนขึ้นไปเก็บกระเป๋าด้วย ตอนแรกแอบตกใจนะคะ แต่ว่าเข้าใจเขาค่ะด้านบนมันสูงจริงๆ และแอร์ทุกคนสวมกางเกง การบริการถือว่าโอเคสำหรับ Low Cost (มารตฐานการบริการแบบญี่ปุ่น)
ตัวอย่างสายการบินระหว่างโตเกียว – โอซาก้า
สายการบิน | เส้นทางบิน | ระยะเวลา | ราคาตั๋วเครื่องบิน |
---|---|---|---|
Jetstar | NRT – KIX | 1 ชั่วโมง 45 นาที | 5,000 – 10,000 เยน |
Peach | NRT – KIX | 1 ชั่วโมง 40 นาที | 5,000 – 10,000 เยน |
JAL | HND – KIX | 1 ชั่วโมง 20 นาที | 10,000 – 20,000 เยน |
JAL | HND – ITM | 1 ชั่วโมง 10 นาที | 10,000 – 20,000 เยน |
ANA | HND – KIX | 1 ชั่วโมง 25 นาที | 10,000 – 20,000 เยน |
ANA | HND – ITM | 1 ชั่วโมง 10 นาที | 10,000 – 20,000 เยน |
ถึงแม้ว่าสายการบินจะเร็วกว่าแต่ก็ต้องอย่าลืมเรื่องระยะเวลาในการรอขึ้นเครื่องอีกประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้แม้ว่า Low Cost ราคาถูกกว่าก็จริง แต่สนามบินคันไซนั้นอยู่ออกมานอกตัวเมืองมากกกว่าสนามบินอิตามิ ก็ต้องเผื่อเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าเมืองด้วยนะคะ
※ข้อมูลเพิ่มเติม: สนามบินคันไซ (Kansai Airport) และวิธีเดินทางเข้าเมืองโอซาก้า
3. รถบัสกลางคืน
รถบัสกลางคืนหรือส่วนใหญ่จะเรียกทับศัพท์ว่า “Night Bus” เป็นรถบัสวิ่งระหว่างเมืองในตอนกลางคืน เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความประหยัดและไม่มี JR PASS การเดินทางด้วยรถบัสนี้เราได้ใช้บริการตอนขากลับจากโอซาก้าค่ะ ราคาถูกกว่าเครื่องบินเล็กน้อย อยู่ที่ประมาณ 4,500 – 5,500 เยน จริงๆ แล้วจะมีราคาตั้งแต่ประมาณ 3,500 เยนขึ้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับรูปแบบที่นั่งและเวลาเดินทางด้วยค่ะ
ข้อดีของการนั่ง Night Bus นั้น คือประหยัดค่าโรงแรมและประหยัดค่าเดินทางไกลได้อีกด้วย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมงค่ะ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกของ รวมถึงการโหลดสำภาระใต้ท้องรถได้ด้วยคล้ายๆ เครื่องบินค่ะ ยิ่งจองล่วงหน้าไว้นาน ราคาจะยิ่งถูก รถบัสมีหลากหลายประเภทให้เลือกมากมาย
รถบัสญี่ปุ่นนี่สบายมากจริงๆ ซึ่งบริษัทที่ให้บริการนั้นมีอยู่มากมาย แต่ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวมากที่สุดน่าจะเป็น Willer Express เนื่องจากเว็[ไซต์มีภาษาอังกฤษ สามารถจองล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ได้ 3 เดือน และชำระผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตได้ ซึ่งนั่นจะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถจองล่วงหน้าได้อย่างสะดวก
ตัวอย่างค่าโดยสาร Tokyo Station – Osaka Station
ประเภท | ค่าโดยสาร |
---|---|
STANDARD (เก้าอี้มาตรฐาน) | 4,100 – 8,500 เยน |
Relax (เก้าอี้มีที่กั้น) | 5,500 – 9,000 เยน |
Comodo (เก้าอี้เดี่ยว) | 7,600 – 9,900 เยน |
※จองตั๋วได้ที่ » willerexpress.com (ภาษาอังกฤษ)
4. รถไฟกลางคืน
รถไฟกลางคืน หรือ Night Train หรือ Sleeper Train ที่มีตู้นอนในปัจจุบันมีให้บริการเพียงสายเดียวในญี่ปุ่นเรียกว่า “Sunrise Express” โดยสามารถแบ่งย่อยได้เป็น “Sunrise Izumo” และ “Sunrise Seto” ค่ะ ทั้งคู่นี้จะเริ่มวิ่งจากสถานี Tokyo ไปด้วยกัน แล้วไปแยกขบวนกันที่สถานี Okayama ในภูมิภาคชูโกกุ เพื่อไปยังสถานีปลายทางของแต่ละขบวน
ทั้งนี้เส้นทางที่รถไฟกลางคืนให้บริการนั้นมีแค่จากฝั่งโอซาก้าไปโตเกียวเท่านั้น (※ถ้ามาจากโตเกียว รถไฟจะไม่จอดที่โอซาก้า จะไปจอดที่ฮิเมจิแทน) โดยรถไฟจะออกจากสถานี Osaka ตอน 0:33 น. และจะมาถึงสถานี Tokyo ตอน 7:08 น. ซึ่งเป็นตอนเช้าพอดี รวมใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงครึ่ง หลับสนิทและสบายเหมือนอยู่โรงแรมเลยค่ะ อิ อิ
หน้าตาของรถไฟกลางคืนนี้จะเหมือนหุ่นหนักๆ แน่นๆ สูงกว่ารถไฟปกติ และท้องรถโหลดต่ำกว่ารถไฟทั่วไป ด้านในมี 2 ชั้น ประกอบด้วย ห้องนอน ห้องนั่งเล่น โซนนั่งพักผ่อน ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องทานอาหาร ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ (ไม่มีขายอาหาร ควรเตรียมมาเอง)
ในส่วนของห้องนอนมีหลายประเภทค่ะ ทั้งตู้นอนรวม ห้องนอนส่วนตัว ซึ่งมาพร้อมกับความไฮโซและราคาที่สูงลิบลิ่ว โดยสามารถแบ่งค่าตั๋วโดยสารเป็น Basic Fare 8,910 + Limted Express Fee 2,960 เยน + Researved Seat 530 เยน + Accomodation Fee เพิ่มเติมดังนี้
ประเภท | Accomodation Fee |
---|---|
Nobinobi (Reserved Seat) (ตู้นอนรวม) | – |
Private Solo (ตู้นอนเดี่ยว) | 6,600 เยน |
Private Single (ห้องนอนเดี่ยว) | 7,700 เยน |
Private Single Twin (ห้องนอนเดี่ยว เตียงสองชั้น) | 9,600 เยน (สำหรับ 1 คน) 15,100 เยน (สำหรับ 2 คน) |
Private Single Deluxe (ห้องนอนเตียงเดี่ยว) | 13,980 เยน |
Private Sunrise Twin (ห้องนอนเตียงแฝด) | 15,400 เยน (สำหรับ 2 คน) |
สำหรับคนที่มี JR PASS สามารถใช้กับ Nobinobi (ตู้นอนรวม) โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ราคาปกติ 8,910 + 2,960 + 530 = 12,400 เยน) แต่วันที่เราจองบวนนี้มันเต็ม จึงต้องจองแบบห้องนอนสำหรับคนเดียว Private Single (ราคาปกติ 8,910 + 2,960 + 530 + 7,700 = 20,100 เยน) แทน
หน้าตาของที่นอนแบบ Nobinobi
ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวของเราเมื่อสมัยที่มาเที่ยวญี่ปุ่นหลายปีก่อน ห้องนอนแบบ Private Single สามารถใช้ JR PASS แสดงได้โดยไม่ต้องเสียค่าตั๋วโดยสาร แต่ต้องเสียค่าจองห้องนอนเพิ่มอีก 7,700 เยน ถ้าไม่มี JR PASS นะคะ คิดดู ปาไป 20,000 เยน โหววว =[]=!
หน้าตาของที่นอนแบบ Single
อันนี้เป็นห้องแบบ Private Single ที่เราเคยนอนค่ะ ห้องนี้เป็นโซนด้านบน มีของจำเป็นครบสำหรับการนอน สามารถดึงม่านลงมาปิดได้ และประตูล็อคได้ บางทีจะมีนายสถานีจะมาเคาะตรวจตั๋วรถด้วย ส่วนความสบายนั้นไม่ต้องถามถึง หลับเต็มอิ่มมาก
การเดินทางโดย Night Train นี้จริงๆ แล้ว เราได้นั่งโดยบังเอิญแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยเมื่อหลายปีก่อน เมื่อมองย้อนไปแล้วคิดว่าดีมากๆ ที่ได้มีโอกาสนั่ง เพราะหากเป็นตอนนี้คงไม่ได้นั่งกันง่ายๆ เพราะมีตัวเลือกที่ถูกกว่าอย่าง Night Bus และ สายการบิน Low Cost (แบบว่าใจไม่ถึงที่จะเสียเงินเพิ่ม ฮาาา)
※ดูรายละเอียดได้ที่ » jprail.com (ภาษาอังกฤษ)
ตารางเปรียบเทียบวิธีการเดินทาง
วิธีการเดินทาง | ระยะเวลา | ค่าโดยสาร |
---|---|---|
1. รถไฟชินคันเซ็น ※ใช้ JR PASS ได้ | 2 ชั่วโมง 30 นาที – 4 ชั่วโมง | 13,870 – 19,270 เยน |
2. เครื่องบินในประเทศ | 1 ชั่วโมง 10 นาที – 1 ชั่วโมง 45 นาที | 5,000 – 20,000 เยน |
3. รถบัสกลางคืน | ประมาณ 9 ชั่วโมง | 4,100 – 9,900 เยน |
4. รถไฟกลางคืน ※เส้นทาง Osaka → Tokyo ※ใช้ JR PASS ได้ | 6 ชั่วโมง 35 นาที | 12,400 – 27,800 เยน |
ถ้าจะถามว่าการเดินทางระหว่างโตเกียว – โอซาก้า วิธีไหนดีที่สุด เราก็ขอสรุปดังนี้
- ถ้าสะดวกสุดก็ขอยกให้ “รถไฟชินคันเซ็น” ยิ่งคนมี JR PASS ยิ่งสบายค่ะ
- ถ้าเร็วสุดก็ต้องเป็น “เครื่องบินในประเทศ” แต่อย่าลืมเผื่อเวลาก่อนและหลังขึ้นเครื่องด้วยนะคะ
- ถ้าประหยัดสุดก็เป็น “รถบัสกลางคืน” นี่แหละค่ะ แถมยังช่วยเซฟค่าโรงแรมไปได้อีกคืนนึงด้วย
- ถ้าอยากลองความแปลกใหม่ก็ต้อง “รถไฟกลางคืน” ที่มีเพียงสายเดียวในญี่ปุ่นนี่เลย!
ส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 4 วิธีการเดินทางระหว่างโตเกียวและโอซาก้าที่นำมาแนะนำนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนเที่ยวไม่มากก็น้อย สำหรับวันนี้เราต้องลากันไปเพียงเท่านี้ ขอให้เพื่อนๆ เที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกนะคะ การเดินทางหลายๆเมืองอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็เป็นความสนุกและสีสันของการท่องเที่ยวนะคะ สวัสดีค่ะ ^^
เขียนเมื่อ Feb 12, 2016
อัพเดทล่าสุด Jul 12, 2023
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในโอซาก้า
บทความเที่ยวโอซาก้า (Osaka)
การเดินทาง
› วิธีเดินทาง
- สนามบินคันไซ (Kansai Airport) และวิธีการเดินทางเข้าเมือง
- วิธีการเดินทางระหว่างโตเกียว – โอซาก้า ทั้งแบบมีและไม่มี JR PASS
- [รีวิว] รถไฟ JR HARUKA เดินทางเข้าเมืองจาก Kansai Airport
- [รีวิว] สายการบินไทย (Thai Airways) กรุงเทพ – โอซาก้า
- [รีวิว] สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) กรุงเทพ – โอซาก้า
› บัตรเหมาจ่ายสุดคุ้ม
- Osaka Amazing Pass พาสนั่งรถไฟ & เข้าที่เที่ยวในโอซาก้าฟรี 1 – 2 วัน
- JR Kansai Wide Area Pass พาสนั่งรถไฟเที่ยวทั่วคันไซ 5 วัน
สถานที่ท่องเที่ยว
› Highlight
› Universal Studios Japan
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) พร้อม Express Pass+ทริคท่องเที่ยว
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) กับบรรยากาศช่วงคริสต์มาส
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) ตอนกลางคืน ชมโชว์ & ขบวนพาเหรด
- [รีวิว] 10 เครื่องเล่นสุดฮิตใน Universal Studios Japan (USJ) ที่ไม่ควรพลาด!
› Osaka Bay
- [รีวิว] Osaka Aquarium KAIYUKAN พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังแห่งเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Santa Maria Bay Cruise ล่องเรือชมอาทิตย์อัสดงที่อ่าวโอซาก้า
- [รีวิว] Tempozan Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน เมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Tempozan Market Place แวะกินมื้อเที่ยงที่ห้างริมอ่าวโอซาก้า
- [รีวิว] Sakishima Cosmo Tower ชมวิวอ่าวโอซาก้ามุมสูงบนตึกระฟ้า
› Umeda
- [รีวิว] Umeda Sky Building จุดชมวิวเมืองโอซาก้าบนตึกสูงระฟ้า
- [รีวิว] HEP FIVE Ferris Wheel นั่งชิงช้าสรรค์ชมวิวเมืองโอซาก้ายามค่ำ
› Namba
- [รีวิว] Dotonbori เดิน กิน เที่ยว ไปหากูลิโกะในโอซาก้า
- [รีวิว] Kuromon Ichiba Market ตลาดสดแหล่งของกินในเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Namba & Shinsaibashi ย่านละลายทรัพย์แห่งโอซาก้า
› Tennoji
- [รีวิว] HARUKAS 300 จุดชมวิวเมืองโอซาก้าบนตึก ABENO HARUKAS
- [รีวิว] วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) วัดเก่าแก่แห่งเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Shinsekai & Tsutenkaku Tower เที่ยวย่านชินเซไก ชมวิวจากหอคอย
› Sumiyoshi
- [รีวิว] Sumiyoshi Taisha ศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Osaka Museum Of Natural History ชมวิวัฒนาการเมืองโอซาก้า
› เที่ยวนอกเมือง
โรงแรมที่พัก
- [รีวิว] remm Shin-Osaka โรงแรมทำเลดีในโอซาก้า ติดสถานีรถไฟ
- [รีวิว] Residential Hotel Hare Shin-Osaka โรงแรมในบรรยากาศบ้านญี่ปุ่น
ของกินของฝาก
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com