สวัสดีค่า หลังจากที่แอดมินอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับการเดินทางและการตั๋วของ Tokyo DisneySea (โตเกียวดิสนีย์ซี) จากในรีวิวแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะพาเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการกันแล้วนะคะ โดยเริ่มต้นที่ โซน Mediterranean Harbor แล้วก็ต่อด้วย American Waterfront
การรีวิวครั้งนี้อาจจะไม่ได้เล่นเครื่องเล่นได้ครบถ้วน เนื่องจากว่าแอดมินมีเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ทำให้เราเลือกเล่นเฉพาะบางอย่างเท่านั้นค่ะ แต่ก่อนที่จะพาไปเยี่ยมชมตามโซนต่างๆ ในสวนสนุกนั้น แอดมินขอแนะนำตัวช่วยในการเล่นเครื่องเล่นก่อนนะคะ ซึ่งก็คือ Disney FASTPASS หรือตั๋วด่วนของดิสนีย์นั่นเอง เป็นบริการฟรีจากทางสวนนะคะ
รีวิวการกดตั๋ว Disney FASTPASS
หมายเหตุ: (ข้อมูล ณ 4 ตุลาคม 2022) ทางสวนสนุกได้งดให้บริการ Disney FASTPASS ในการจองคิวเครื่องเล่น หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
Guide Map ที่ได้มาตอนซื้อตั๋ว
หลังจากผ่านโซน DisneySea Plaza (บริเวณลูกโลก) มาแล้ว สิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรกคือการกางแผนที่ออกดู! (หรือจะเตรียมตัวทำการบ้านมาล่วงหน้าก็แล้วแต่เพื่อนๆ นะคะ) เพื่อตรวจสอบพิกัดของเครื่องเล่นที่มี Disney FASTPASS ซึ่งมีสัญลักษณ์ [FP] อยู่หลังชื่อแต่ละเครื่องเล่นค่ะ
สัญลักษณ์ต่างๆ ที่ควรรู้ (สังเกตสัญลักษณ์ [FP] หลังชื่อเครื่องเล่น)
Disney FASTPASS นี้ก็คือตั๋วจองคิวเล่นเครื่องเล่นล่วงหน้า โดยเราไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวกับแถวปกติค่ะ ถ้าเราต้องการจะเล่นเครื่องเล่นไหนมากที่สุด ก็รีบไปกดตั๋ว FASTPASS เอาไว้เลยค่ะ หลังจากกดตั๋วด่วนแล้วก็สามารถไปเล่นเครื่องเล่นอื่นได้ เมื่อถึงเวลาค่อยย้อนมาเล่นเครื่องที่กดตั๋วไว้ค่ะ
หมายเหตุ
- ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2019 สามารถจอง FASTPASS ได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Tokyo Disney Resort App
หลายคนอาจจะกลัวว่าไปกดตั๋ว FASTPASS หน้าเครื่องเล่นแล้วถ้าได้เล่นในไม่กี่นาทีข้างหน้าล่ะ “แบบนี้จะเดินทันเหรอ?” บอกได้เลยว่า “เป็นไปไม่ได้” กล่าวคือ “ไม่มีทางที่เราได้เล่นภายในเวลาไม่กี่นาทีค่ะ” รอบที่ไปมานั้นแอดมินกดบัตรคิวของ Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull ไปตอน 11 โมงครึ่ง ได้เวลาเล่นตอน 5 โมงเย็น! ฉะนั้นกดไปเถอะค่ะ ไปตั้งแต่เช้าเลย ^^ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ลิงค์นี้นะคะ » Disney FASTPASS และวิธีการใช้
ตัวอย่างตั๋ว FASTPASS
แอดมินก็ใส่สปีดเดินไปตามแผนที่เพื่อไปจองบัตรด่วนค่ะ สถานที่ใกล้ๆ ก็เดินไป ในส่วนที่ต้องข้ามเขตไปไกลๆ ก็นั่งเรือข้ามฟากหรือนั่งรถไฟฟ้าไป ส่วนหน้าตาของตั๋ว FASTPASS ก็ตามรูปด้านบนค่ะ เป็นกระดาษใบเล็กๆ ที่ระบุเวลาเล่นเอาไว้ให้เรียบร้อย
วิธีการกดตั๋ว FASTPASS นั้นไม่ยากเลยค่า แค่เอาตั๋วส่วนที่มี QR Code สอดเข้าไปในเครื่องสแกน แล้วตั๋ว FASTPASS จะออกมาด้านล่าง ซึ่งระบุเวลาที่สามารถเข้าเล่นได้ค่ะ อย่างไรก็ตามตั๋วชนิดนี้มีจำกัด หากเครื่องเล่นไหนหมดโควต้าแล้วก็ต้องต่อเล่นเครื่องเล่นในแถวปกติค่ะ
ทั้งนี้เราสามารถกด FASTPASS ได้ครั้งละ 1 ใบต่อ 1 คน หากต้องการจะใช้กับเครื่องเล่นอื่น จะต้องรอให้เลยเวลาที่ระบุไว้บนตั๋วคิวไปก่อน ซึ่งปกติแล้วเราสามารถขอได้อีกครั้งประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากที่กดจองไปรอบก่อนค่ะ
รีวิวโซน Mediterranean Harbor
หลังจากที่กดตั๋ว FASTPASS เรียบร้อยแล้ว แอดมินก็นั่งเรือกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง เพื่อเดินเที่ยวอย่างสบายใจละค่า (มันดีตรงนี้!) ขอเริ่มต้นจากด้านหน้าสุดของสวนสนุกเลยนะคะ กับโซน Mediterranean Harbor ที่เป็นโซนแรกของสวนสนุกซึ่งมาในธีมของท่าเรือสไตล์อิตาลีค่ะ
เครื่องเล่นในโซน Mediterranean Harbor
- Venetian Gondolas
- Soaring: Fantastic Flight (เปิดให้บริการ 23 กรกฎาคม 2019) [FP]
สำหรับร้านส่วนใหญ่ในโซนนี้เป็นจุดขายของที่ระลึกและของฝาก แนะนำว่าขาเข้าให้ซื้อของที่จะสวมใส่เพื่อให้เข้าบรรยากาศ ส่วนของฝากอยากให้ซื้อขากลับ เพราะร้านค้าจะปิดเป็นลำดับสุดท้ายและจะได้ไม่ต้องแบกของไปมาทั้งวันค่ะ
แอดมินและเดอะแก๊งค์ของเรานั้นเริ่มจาการหาซื้อของที่จะใส่ให้เข้ากับบรรยากาศค่ะ พวกร้านรวงทั้งหลายจะอยู่ละแวกเดียวกับ Hotel/Park Gateway (ตามที่เห็นในแผนที่) ซึ่งเป็นทางลอดที่มีร้านขายของฝากทั้งสองข้างทาง
หลังจากถูกลากเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ เลือกอยู่นานก็ได้มาเป็นกระเป๋าใส่บัตรระยิบระยับ เอาไว้ห้อยคอและใส่ตั๋วเข้าดิสนีย์เอาไว้ค่ะ ไม่ต้องหยิบเข้าๆ ออกๆ ให้เสี่ยงต่อการสูญหาย
บริเวณ Hotel/Park Gateway
เดินผ่านโซนซื้ออุปกรณ์เสริมต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านโรงแรม Tokyo DisneySea Hotel MiraCosta เราจะเจอมวลมหาประชาชนเต็มพื้นที่ นี่ขนาดไปช่วงสายๆ แต่คนเยอะมาก จึงขอแนะนำว่ามาตั้งแต่สวนสนุกเปิดจะดีที่สุดค่ะ
เดินผ่านฝูงชนมายังบริเวณริมทะเลสาบ มองไปด้านหน้ามองเห็นวิวภูเขาไฟและปราสาทสไตล์อาราเบียน อีกทั้งเป็นช่วงเวลาพอดีกับการแสดงโชว์ ที่มีตัวการ์ตูนออกมาทักทาย เดินไปดูไป ได้ยินเสียงเด็กๆ กรี๊ดกร๊าดบ้างประปราย ถือเป็นการเริ่มต้นของความสนุกค่า
Palazzo Canal
ถัดจากโชว์ก็เริ่มเข้าสู่โซนเดินเล่นในเมืองจำลองที่ด้านในเป็นร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และการแสดงต่างๆ อาทิ ด้านซ้ายมือของตนเองเป็น Palazzo Canalคลองจำลองคล้ายเมืองเวนิส มีล่องเรือกอนโดล่า Venetian Gondolas ชมอาคารบ้านเรือนโดยรอบไปตลอดเส้นทางไปจนถึงโรงละครเก่าที่มีการจัดโชว์ด้วย (ใครชอบดูพวกนี้ ก็ต้องมาต่อแถวกันแต่เช้าค่ะ)
รีวิวโซน American Waterfront
มาต่อกันที่โซนถัดไปกับ American Waterfront ซึ่งมาในธีมเมืองนิวยอร์กและนิวอิงแลนด์ของอเมริกาในบรรยากาศย้อนยุคค่ะ
เครื่องเล่นในโซน American Waterfront
- Turtle Talk
- Toy Story Mania! [3D] [FP]
- Tower of Terror [FP]
เมื่อข้ามมาโซนนี้เราจะเจอกับร้าน McDuck’s Department Store รอกวักเรียกเงินในกระเป๋าตังค์ก่อน ร้านนี้จำหน่ายสินค้าของ Duffy, ShellieMay และผองเพื่อน นอกจากนี้ยังมีของหวานและอื่นๆ จัดจำหน่ายอีกด้วยค่ะ ใครเป็นขวัญใจน้องหมีฟรุ๊งฟริ้งต้องมาร้านนี้ มีแต่ของน่ารัก เหมาะกับเด็กผู้หญิงเป็นอย่างมากค่ะ
ฝั่งตรงขามกันเป็นร้าน New York Deli จำหน่าย อาหารง่ายๆ จำพวกแซนด์วิชและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ด้านในเป็นที่นั่งแบบเคาท์เตอร์ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น (อายุเกิน 20 ปี) ที่อยากนั่งชิลๆ มีข้อดีตรงที่คนไม่เยอะเหมือนร้านอาหารปกติ
เดินต่อมาอีกหน่อยมีจุดให้ถ่ายรูปกับรถโบราณคันใหญ่ และในบริเวณติดกันก็เป็นสถานีรถไฟภายในเรียกว่า DisneySea Electric Railway เป็นรถที่รับส่งระหว่างทางออกไปจนถึงท่าเรือ Discovery Port ในโซนเกือบลึกสุดของ Tokyo DisneySea ค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการนั่งรถไฟควรเผื่อเวลาไว้สัก 10 นาที เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจำนวนผู้โดยสารจะมากหรือน้อย คิดว่าต้องเผื่อเวลารอคิวไว้สักหน่อยค่า
ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ ของสถานีรถไฟเป็น Broadway Music Theater แน่นอนว่าด้านในต้องเป็นโรงละคร มีการจัดรอบการแสดงหลายรอบต่อวันค่ะ
ขณะที่เดินผ่านเห็นคนต่อแถวทั้งรอยืนรอยาวเหยียด เรียกว่าได้รับความนิยมมากพอสมควรค่ะ (จริงๆ แอดมินก็อยากดู Broadway สักครั้งเหมือนกัน ฮือ~)
ถัดจากโรงละครฝั่งเดียวกันเป็นโซนที่อยู่ในมุม ด้านหน้าเป็นสวน Toyville Trolley Park มีภาพวาดตลอดจนมุมถ่ายรูปน่ารักๆ ของ Toy Story อยู่ค่ะ ส่วนด้านในสุดของบริเวณเป็น Toy Story Mania! เครื่องเล่นแบบ 3D ที่จะทำให้เราหลุดเข้าไปในโลกของ Toy Story ด้วยการนั่งบนรถราง เครื่องเล่นนี้มี FASTPASS ด้วยนะคะ กดโล้ดดด~
ด้านหน้า Toy Story Mania! มีร้าน Slinky Dog’s Gift Trolley ที่ขายของฝากเกี่ยวกับ Toy Story และตัวละครอื่นๆ แอดมินไปลองหมวกมากแล้วปรากฎว่า ไม่เข้ากับหน้าอย่างแรง…เก็บไว้ที่เดิมอ่ะดีแล้ว 555 ความสนุกของการเที่ยวสวนสนุกคือได้ลองอะไรติงต๊องๆ นี่แหละค่ะ เอาล่ะไปกันต่อดีกว่า…
ทางเดินหน้า Toy Story Mania! ซ้ายมือเป็น Tower of Terror
ออกจาก Toyville Trolley Park มาแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไปเราจะเห็นว่ามีหอคอยสูง (มาก) และได้ยินเสียงคนกรี๊ดเป็นระยะๆ ด้านล่างมีคนรอมากมายก่ายกอง ด้านหน้าเขียนว่ารอ 120 นาที หมายถึงรออย่างน้อย 120 นาทีค่ะ (จะได้เล่นมั้ย~)
เครื่องเล่นยอดนิยมนี้คือ Tower of Terror หรือหอคอยอาถรรพ์ เครื่องเล่นนี้ก็มี FASTPASS นะคะ คิดว่าน่าจะเป็นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดของ Tokyo DisneySea ความน่ากลัวคือมันจะเหมือนเราอยู่ในลิฟต์ที่สายพานขาดในระดับที่คนเรารู้สึกหวาดเสียวที่สุด
เดินเลยหอคอยอาถรรพ์มาแล้วจะเจอ Dockside Diner เป็นร้านอาหารที่จำหน่ายจำพวก แซนด์วิช ไก่ทอด และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หลายคนที่กดบัตรด่วนได้แล้วมานั่งชิลรอที่ร้านก็มีค่ะ จะเห็นได้ว่าคนเข้าแถวรอเยอะเลย
ถัดมาเป็น S.S. Columbia เรือสำราญขนาดใหญ่ (มากกก) ด้านในมีร้านอาหารที่เราจะได้บรรยากาศของการรับประทานอาหารบนเรือสำราญโดยที่ไม่ต้องออกทะเลจริงๆ ค่ะ ถ้าเป็นเด็กก็คงอยากขึ้นไปเล่นค่ะ แต่เผอิญว่าแก่แล้ว (ฮา) ก็เดินเล่นชื่นชมแทนแล้วกัน
ภายในเรือนั้นก็มีร้านอาหารอยู่ 2 ร้าน ได้แก่ S.S. Columbia Dining Room ที่มีโต๊ะให้นั่ง มีเมนูเป็นเซ็ต และเครื่องดื่มจาก Kirin จำหน่าย และร้าน The Teddy Roosevelt Lounge จำหน่ายอาหารง่ายๆ จำพวกแซนด์วิช เครื่องดื่มคอกเทล และเบียร์สด เหมาะสำหรับพักเหนื่อยเป็นที่สุด
บริเวณใกล้เคียงเรือสำราญประกอบด้วยท่าเรือ จุดขึ้นรถและจุดแวะพักต่างๆ อาทิ เครื่องเล่น Turtle Talk (คุยกับเต่าทะเล) ร้าน Barnacle Bill’s (จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์), Papadakis Fresh Fruit (ร้านผลไม้สด), Big City Vehicles (รถคลาสิครอบๆ โซน American Waterfront), Liberty Landing Diner (จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์) เป็นต้น
เมื่อมองออกไปในทะเลสาบจะเห็นเรือโดยสารที่วิ่งภายในสวนสนุกค่ะ มีวิวเป็นสะพานกลาทะเลสาบและร้านค้า Rimembranze เป็นฉากหลังสวยงามไปอีกแบบ
ด้านซ้ายมือจะเห็นว่ามีสะพานสีแดงอยู่ด้าน จากตรงนี้เป็นทางเชื่อที่เชื่อมไปสู่โซนของ Port Discovery ค่ะ (ภาพนี้ถ่ายหลังจากข้ามฝั่งมาแล้ว)
ระหว่างทางเชื่อมก็มีทั้งร้านของฝาก ร้านอาหาร (อีกแล้ว) ร้านขนม และท่าเรือด้วย แต่หลายๆ คนยังเลือกเดินค่ะเพราะจุดนี้ยังไม่ไกลจากโซนด้านหน้าของสวนสนุกมากนัก วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน หมวกและร่มจึงขายดีเป็นพิเศษค่ะ
วันนี้แอดมินขอจบการรีวิว Tokyo DisneySea ในโซน Mediterranean Harbor และ American Waterfront ไว้เพียงเท่านี้ คราวหน้าเราจะข้ามไปโซน Port Discovery กันบ้างค่ะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า
อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] Tokyo DisneySea #3: โซน Port Discovery & ตามล่าถังป๊อปคอร์นคาแรคเตอร์ที่ชอบ
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในโตเกียว
บทความเที่ยว Tokyo Disney Resort ดูทั้งหมด »
› Tokyo Disneyland
- [รีวิว] Tokyo Disneyland พร้อมแนะนำเครื่องเล่นห้ามพลาด!
- [รีวิว] ขบวนพาเหรดโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
- [รีวิว] Tokyo Disneyland “Disney Christmas” ชมโชว์ช่วงเทศกาล
› Tokyo DisneySea
- [รีวิว] Tokyo DisneySea พร้อมแนะนำเครื่องเล่นห้ามพลาด!
- [รีวิว] Tokyo DisneySea #1: วิธีการเดินทาง & การซื้อตั๋วเข้าชมที่หน้าสวนสนุก
- [รีวิว] Tokyo DisneySea #2: โซน Mediterranean Harbor & American Waterfront
- [รีวิว] Tokyo DisneySea #3: โซน Port Discovery & ตามล่าถังป๊อปคอร์น
- [รีวิว] Tokyo DisneySea #4: โซน Mysterious Island & Arabian Coast
- [รีวิว] Tokyo DisneySea #5: โซน Mermaid Lagoon & Lost River Delta
บทความแนะนำ
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com