[รีวิว] SUSUKINO ICE WORLD งานเทศกาลน้ำแข็งใจกลางเมืองซัปโปโร

สวัสดีค่า วันนี้เราจะพาเที่ยวในเมืองซัปโปโร (Sapporo) กันนะคะ โดยกิจกรรมการท่องเที่ยววันแรกในทริปท่องเที่ยวฮอกไกโดช่วงฤดูหนาวของเราก็คือ เทศกาลน้ำแข็ง SUSUKINO ICE WORLD บนถนนหน้าสถานี Susukino ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของพื้นที่จัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ค่ะ

เมื่อในตอนก่อน เราได้รีิวิวการเข้าพักที่เกสต์เฮาส์ The STAY Sapporo ซึ่งอยู่ใกล้กับงาน SUSUKINO ICE WORLD นี้เลยค่ะ พอเก็บของเรียบร้อยแล้วก็ออกมาเดินเล่นในงานได้เลย ซึ่งเราจะพาไปรีวิวและหาของอร่อยๆ ทานกันด้วยจ้ะ ไปชมกันเล้ย!

เกี่ยวกับงาน SUSUKINO ICE WORLD

สาระและเกร็ดน่ารู้

SUSUKINO ICE WORLD เป็นงานเทศกาลน้ำแข็งซึ่งมักจัดเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ บริเวณย่าน Nishi 4-chome Avenue ถนนใกล้กับสถานี Susukino ของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) โดยเป็นหนึ่งในงานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ที่จะจัด 3 สถานที่ใหญ่ๆ ได้แก่ Odori Park, Tsudome และ Susukino

ในส่วนของงานเทศกาลที่ Susukino นั้นเป็นการจัดแสดงงานจิตรกรรมน้ำแข็งสวยงามมากกว่า 60 ชุด มีการประดับไฟตามถนนอย่างสวยงาม และมีร้านขายอาหาร รวมถึงไอซ์บาร์สำหรับอุ่นร่างกายอีกด้วยค่ะ

กำหนดการจัดงาน

• ปี 2024: 4 – 11 กุมภาพันธ์ 2024
• ปี 2023: 4 – 11 กุมภาพันธ์ 2023
• ปี 2022: ยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส
• ปี 2021: ยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส
• ปี 2020 : วันที่ 4 – 11 กุมภาพันธ์ 2020
• ปี 2019 : วันที่ 4 – 11 กุมภาพันธ์ 2019
• ปี 2018 : วันที่ 5 – 12 กุมภาพันธ์ 2018
• ปี 2017 : วันที่ 6 – 12 กุมภาพันธ์ 2017

บริเวณจัดงาน

Nishi 4-chome Avenue (ถนนใกล้กับสถานี Susukino)
*ตั้งอยู่ระหว่าง Minami 4 Jo-dori และ Minami 7 Jo-dori ( Ekimae-dori) )

วิธีการเดินทาง

• นั่งรถไฟ Sapporo Subway Nanboku Line (สายสีเขียว) มาลงที่สถานี Susukino
• นั่งรถไฟสาย Sapporo Subway Toho Line (สายสีน้ำเงิน) มาลงที่สถานี Hossuisusukino

รีวิวงาน SUSUKINO ICE WORLD

เอาล่ะค่ะ เราจะเริ่มกันที่หัวงานเลย! คืนที่ไปนั้นถือว่าอากาศบายๆอยู่ที่ -2 องศา (นี่สาบานว่าสบายๆ ==”) ด้านหน้าเราก็จะเห็นรูปน้ำแข็งแกะสลักตั้งตระหง่านอยู่กลางถนนพร้อมป้ายเขียนว่า SUSUKINO ICE WORLD ส่วนป้ายโปสเตอร์ต่างๆ ก็เป็นผู้สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ค่า

ถัดมาก็จะมีงานจิตกรรมน้ำแข็งอีกหลายชิ้น เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอเต้นท์ Information ของงานค่ะ สามารถสอบถามการท่องเที่ยวได้เลย แน่นอนว่าเป็นงานเทศกาลน้ำแข็งทั้งที แม้แต่เต้นท์ก็ต้องเป็นน้ำแข็ง อิ อิ แต่ด้านในมีเครื่องทำความร้อนเครื่องเล็กๆ ที่สามารถช่วยเหลือพวกเราชาวเมืองร้อนได้บ้าง แต่ก็นิดเดียวเท่านั้นจริงๆ ฮือออ T T

ถึงแม้จะเป็นช่วงที่หนาวมาก ขนาดที่ว่าสามารถตั้งน้ำแข็งเอาไว้ได้โดยไม่ต้องทำอะไรกับมันเลยก็ไม่ละลาย ก็ยังมีเด็กๆ ที่นุกสนานกับความเย็นระดับจุดเยือกแข็งนี้ได้ การไปนั่งบนสกีที่แกะจากน้ำแข็ง คงไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสำหรับคนแก่ขี้หนาวอย่างแอดมินแน่ๆ

และแล้วก็มาถึงจุดที่แอดมินชื่นชอบเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีการกระจายตัวของร้านค้า มีของทะเลย่างเอาไว้คอยบริการสำหรับทานอาหารแก้ความหนาวในอุณหภูมิติดลบแบบนี้ ส่วนราคาก็อาจจะเรียกว่าแพงเอาเรื่อง แต่ในบรรยากาศแบบนี้มันต้องจัดค่ะ อย่าให้เสียของ เสียบรรยากาศ! โหะๆ

แถ่นแทน แท๊นนน! มาแล้วค่าา ตัวบิ๊กเบิ้ม สนนราคาอยู่ที่ 3 ตัว 1,000 เยน โอ้ยย แพงยิ่งกว่าข้าวทั้งจานอีกนะคะเนี่ย แต่ว่าเป็นอะไรที่ฟินมากกก เพียงแค่ย่าง เหยาะโชยุอุ่นๆ ทานเนื้อหอยแล้วตามด้วยน้ำซุปหอย ซู้ดดังๆ ด้วยนะคะ โอยยย อยากกินนอีกก

นอกจากมุมอาหารแล้ว ที่พลาดไม่ได้ก็คือเครื่องดื่มในบาร์น้ำแข็ง (ICE BAR) ที่อยากจะลองสักครั้งในชีวิต คือคนเราจะนั่งกินอะไรแบบนี้ในพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยน้ำแข็งได้จริงๆ เหรอ? ใครสนใจก็มาลองดูนะคะ ส่วนแอดมินของผ่านเพราะยังไม่อยากนอนเร็ว อิ อิ

ว่าด้วยเรื่องของกินของอร่อยกันมามากแล้ว ก็มาดูเรื่องของความงามวิจิตรตระการตากันบ้างว่างานแกะสลักน้ำแข็งของเขานั้นเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าสวยมากกก ยิ่งมีการแสดงไฟในเวลากลางคืน ยิ่งทำให้น้ำแข็งใสๆ มีสีสันขึ้นมาอย่างน่าสนใจ คนที่มาชมกันก็ค่อยๆ ซึมซับความสวยงามไปกันทีละผลงาน

นอกจากการชมผลงานที่ตั้งโชว์แล้ว ก็ยังมีคุณลุงที่เขามาแกะสลักน้ำแข็งให้ดูกันสดๆ เลยนะคะ แกะตัวขนาดเล็กแล้ววางโชว์ตรงนั้นเลย ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความสนใจมากจากเด็กๆ ที่มาเที่ยว

นอกจากงานน้ำแข็งแล้วก็ยังมีการผสมผสานการใช้ไฟประดับที่เรามักเห็นช่วงปลายปีมาทำศิลปะบนหิมะ ผสมก้อนน้ำแข็ง เป็นจุดที่นิยมในการถ่ายรูปได้สวยๆ มากอีกแห่งหนึ่งค่ะ

บรรดาผู้คนที่มาท่องเที่ยวจะเดินชมงานเทศกาลน้ำแข็งอยู่ 2 ข้างทางซึ่งมีน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตรงกลางถนนเลยค่ะ งานนี้ก็เที่ยวกันแบบเย็นๆ สบายๆ และก็อบอุ่นไปด้วยผู้คนที่มาท่องเที่ยวกันอย่างเต็มถนน

เดินเล่นเหนื่อยแล้วก็หาอาหารเย็นทานกันค่า และร้าน Keyashi Ramen ที่เรามองหาก็ไม่ใกล้ไม่ไกลจากถนน Susukino ซึ่งเป็นร้านราเมงเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงทางด้านซุปมิโสะมายาวนาน! และมีชื่อเสียงถึงขนาดที่ว่ามีขายเป็นราเมงกล่องแบบพกกลับบ้านได้ในสนามบินด้วยนะ

• ชื่อร้าน:
  • Keyashi Ramen สาขา Susukino (にとりのけやき すすきの本店)
• เวลาเปิด – ปิด:
  • 10:30 น. – 4:00 น. (วันอาทิตย์ เปิดถึง 3:00 น.)
• ราคา:
  • ประมาณ 900 – 1,000 เยน
• พิกัด:
  • อยู่แถว 3 Chome [ดูแผนที่]

นี่คือหน้าตาตัวอย่างของราเมงที่ร้าน Keyaki Ramen ค่ะ จะเห็นว่ามีราคาไม่แพงเลย และจะมีบางเมนูที่มีขายเฉพาะช่วงอาหารกลางวันด้วย (ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเสริมหรือมีขายเป็นเซ็ตทั้งข้าวและของหวาน)

การจ่ายเงินใช้ระบบแบบตู้หยอดเหรียญ คือให้หยอดเหรียญจ่ายเงินและเลือกเมนูที่ตู้กดเลย แล้วจึงนำใบเล็กๆ มายื่นที่เค้าเตอร์ค่ะ ส่วนชิ้นส่วนเล็กๆ ที่แอดมินถืออยู่นี้ เป็นชิ้นส่วนที่เหลือครึ่งหลังที่เขาฉีกออกเพื่อทำตามออร์เดอร์ของเราค่า รอสักพักก็ได้ทานราเมนร้อนๆ แล้ววว

*เนื่องจากทางร้านมีคนเข้าแถวรอค่อนข้างมาก รวมถึงมีแขกในร้านด้วย เพื่อรักษามารยาทแอดมินจึงไม่ถ่ายรูปด้านในร้านหรือหน้าตาราเมงมาให้เพื่อนๆ ดูนะคะ

ทานข้าวเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินกลับที่่พักกัน และก็ถือโอกาสเดินเล่นชมบริเวณรอบๆ เราจะได้เจอกับการเปิดไฟประดับตามถนนค่ะ ไฟสีฟ้าตัดกับหิมะสีขาวก็เป็นบรรกาศที่คล้ายๆ กับช่วงปีใหม่และคริสต์มาสเหมือนกันนะคะ โรแมนติกเลยทีเดียว

ส่วนรถคันเล็กๆ นี้เป็นรถรางที่วิ่งไปรอบๆ เมืองซัปโปโรค่ะ สำหรับคนที่ไม่อยากนั่งแต่รถไฟใต้ดิน ก็สามารถนั่งรถรางตัวนี้ชมเมืองด้านบนได้เช่นเดียวกันนะคะ ซึ่งรางจะมีทิศทางการวิ่งไปตามถนนค่ะ

นอกจากถนนที่ประดับประดาด้วยแสงไฟและรถรางรอบเมืองแล้ว ก็ยังมีป้ายไฟ ป้ายโปสเตอร์ต่างๆ ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะได้ไม่น้อยเลยค่าาา วันนี้แอดมินก็ขอจบรีวิวงานเทศกาลน้ำแข็ง SUSUKINO ICE WORLD ไว้เพียงเท่านี้ และขอลาไปพร้อมกับความหนาวเย็นของหิมะแห่งเมืองซัปโปโรค่า แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] Sapporo Snow Festival งานเทศกาลหิมะซัปโปโรแห่งเกาะฮอกไกโด

เขียนเมื่อ : Feb 2, 2018 
อัพเดทล่าสุด : Feb 3, 2021