[รีวิว] เที่ยวชินงู (Shingu)#1 : การเดินทางมาเมืองชินงู & ชมสวนโจฟุกุ (Jofuku Park)

เนื่องจากทาง JapanKakoii ได้รับเชิญจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองชินงู (Shingu) ในจังหวัดวากายามะ (Wakayama) เพื่อบอกเล่าเรื่องราวดีๆ จากเมืองที่น่ารักแห่งนี้ให้แฟนๆ ชาวไทยได้รู้จักกัน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งและขอบคุณสำหรับโอกาสดีๆ มา ณ โอกาสนี้ครับ

อย่างแรกเลยผมขอเล่าคร่าวๆ เกี่ยวกับความเป็นมาและเสน่ห์ของเมืองชินงูเพื่อทำความรู้จักกับเมืองนี้ก่อน สำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวสวยๆ ชมวัฒนธรรมเก่าแก่ และเงียบสงบ ผมก็ขอแนะนำเมืองนี้เลยครับ

เกี่ยวกับเมืองชินงู (Shingu)

เมืองชินงู (Shingu / 新宮) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่บนคาบสมุทรคิอิ (Kii Peninsula) ในจังหวัดวากายามะ (Wakayama) ของภูมิภาคคันไซ (Kansai) โดยอยู่ทางใต้ของจังหวัดโอซาก้า (Osaka) สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟด่วนโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

ชินงูเป็นเมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยชายฝั่ง ภูเขา และแม่น้ำ ซึ่งแน่นอนว่าเต็มไปด้วยความงามที่ธรรมชาติสร้าง เป็นเมืองต้นกำเนิดของความเชื่อแบบคุมาโนะ (Kumano Faith) ซึ่งมีรากฐานมาจากการบูชาธรรมชาติที่สืบทอดมาเป็นร้อยๆปี และเป็นเมืองของเส้นทางแสวงบุญที่มีชื่ออยู่ในมรดกโลกของ UNESCO ในชื่อ “แหล่งศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางจาริกแสวงบุญในทิวเขาคิอิ (Sacred Sites and Pilgrimage Routes in the Kii Mountain Range)” เรียกได้ว่า สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้หลายๆ แห่งก็คือ “มรดกของโลก” เลย

การเดินทางมายังเมืองชินงู (Shingu)

จากโอซาก้า (Osaka)

• นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express KUROSHIO จากสถานี Shin-osaka มาลงที่สถานี Shingu (ใช้เวลาประมาณ 250 นาที)

จากโตเกียว (Tokyo) หรือ นาโกย่า (Nagoya)

• นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo มาลงที่สถานี Nagoya (ใช้เวลาประมาณ 100 – 160 นาที)
• นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express (Wide View) NANKI จากสถานี Nagoya มาลงที่สถานี Shingu (ใช้เวลาประมาณ 200 นาที)

รีวิวเที่ยวเมืองชินงู (Shingu)

หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเมืองชินงูไปแล้ว จากนี้ไปคือบันทึกการเดินทางสู่เมืองแห่งนี้นะครับ โดยขอเริ่มต้นรีวิวด้วยการเดินทางจากโตเกียว ไปชมกันเลยครับ!

เริ่มจากไปพบตัวแทนนำกรุ๊ปของเราตามนัดที่สถานี Tokyo เพื่อนั่งชินคันเซ็นไปลงที่สถานี Nagoya ครับ

ตั๋วชินคันเซ็น Tokyo – Nagoya

ขบวนรถไฟนี้เป็น NOZOMI ซึ่งเป็นรถไฟชินคันเซ็นที่ด่วนที่สุด ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 100 นาทีก็ถึงเมืองนาโกย่าแล้วครับ

หมายเหตุ: สำหรับผู้ที่ถือ JR PASS จะไม่สามารถใช้กับขบวน NOZOMI ได้ ต้องขึ้นขบวน HIKARI แทนครับ

บรรยากาศภายในขบวนชินคันเซ็น

ที่ขึ้นรถตรงสถานี Nagoya

มาถึงเมืองนาโกย่าก็ถือว่ามาได้ครึ่งทางแล้วครับ ที่นี่เรามาพบคนขับรถของกรุ๊ปเพื่อจะพาเราไปสู่เมืองชินกูจุดหมายปลายทางของเรา สำหรับคนที่มาเที่ยวด้วยตัวเอง จากสถานี Nagoya ก็สามารถต่อรถไฟ Limited Express (Wide View) NANKI เพื่อไปลงที่สถานี Shingu โดยจะใช้เวลาประมาณ 200 นาทีครับ

บทความรีวิวเที่ยวเมืองชินงูนี้จะขอแบ่งเป็นตอนย่อยๆ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ตอน เพื่อความสะดวกในการอ่านนะครับ วันนี้ก็มาชมตอนแรกกันก่อนเลย!

ตอนที่ 1: เยี่ยมชมอนุสรณ์สถานบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ “สวนโจฟุกุ (Jofuku Park)”

สถานที่แรกของทริปที่อยู่ไม่ห่างจากสถานี Shingu ซึ่งเป็นสถานีหลักของเมืองนั่นก็คือ สวนโจฟุกุ (Jofuku Park / 徐福公園) [ดูแผนที่] โดยเป็นสวนที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่โจฟกุ ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองชินงูแห่งนี้

ประวัติความเป็นมานั้นเริ่มที่เมื่อ 2,200 ปีก่อน ปราชญ์ชาวจีนนามว่า “โจฟุกุ” ได้เดินทางมายังถิ่นนี้เพื่อตามหายาอายุวัฒนะตามคำสั่งของจักรพรรดิจีน โดยเขาได้พาผู้ติดตามมาด้วย 3,000 คน และได้ส่งต่อองค์ความรู้ต่างๆ เช่นการปลูกข้าว ตกปลา ทอผ้า ผลิตกระดาษ วิศวกรรมโลหการ โจฟุกุได้ตกหลุมรักสถานที่แห่งนี้และอยู่ที่นี่จนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

ร่างของโจฟุกุได้ฝังไว้ที่สวนแห่งนี้

ใบเทนไดอุยากุ (Tendaiuyaku / 天台烏薬 [(Lindera Strychnifolia)]) ที่โจฟุกุเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ แต่ก็มีสรรพคุณช่วยเรื่องไต ไขข้อ และโรคเกี่ยวกับท้อง

ของฝากที่มีขายในสวนแห่งนี้ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับชาโจฟุกุ และหนังสือเกี่ยวกับโจฟุกุ สำหรับวันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า ซึ่งจะเป็นการล่องเรือชมธรรมชาติกันครับ

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวเมืองชินงู (Shingu)#2 : ทัวร์ล่องเรือแม่น้ำคุมาโนะ (Kumano-gawa Boat Tour)