สวัสดีค่าาา วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในโตเกียวมาฝากกันอีกแล้วจ้ะ แต่ว่าคราวนี้ไม่ใช่การแนะนำสถานที่นะคะ แต่เป็นการแนะนำกิจกรรมที่เพื่อนๆ จะได้ทั้งความบันเทิงและได้ชมวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมถึงความก้าวล้ำของเทคโนโลยีไปในตัวอีกด้วยนะคะ
โดยกิจกรรมที่เราอยากจะแนะนำในวันนี้ก็คือ ศิลปะการแสดงแบบผสมผสานเรื่อง “SAKURA – JAPAN IN THE BOX” ซึ่งจัดแสดงที่โตเกียว ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2016 ถึง 31 มีนาคม 2017 ค่ะ
“SAKURA – JAPAN IN THE BOX” นั้นใช้การผสมผสานระหว่างศิลปะการแสดง การใช้เทคนิค และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น โดยแสดงออกมาในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับละครเวทีค่ะ เรียกได้ว่าเป็นทั้งมิวสิคเคิล อนิเมชั่น ศิลปะการตีกลองญี่ปุ่น การเต้น และการเล่นดนตรีญี่ปุ่น ศิลปะการใช้ดาบซามูไร นินจา ตลอดจนการเต้นร่วมสมัยทั้งบัลเล่ต์และสตรีทแดนส์เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังได้ใช้เทคนิคการสร้าง CG เนรมิตรฉากต่างๆ ด้วยการฉายภาพลงบนพื้นหลังของเวที และใช้คนจริงๆ แสดงร่วมกับอนิเมชั่นบนภาพอีกด้วยค่ะ
เนื่องจากวันที่เราไปดูนั้นเป็นการแสดงรอบแรกพอดี จึงมีสื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวกันมากมายทีเดียว ซึ่งเราจะขอรีวิวความประทับใจในแต่ละส่วนของการจัดการตั้งแต่สถานที่จนถึงเรื่องการแสดงเอาไว้ด้วยนะคะ
การแสดงนี้จัดที่ Meijiza Theater เรียกได้ว่าเป็นการจัดในสถานที่ที่สามารถเข้าถึงง่าย อยู่ในโตเกียวในย่านนิฮอมบาชิ ใกล้สถานีรถไฟ Hamacho โดยเดินจากสถานีเพียงแค่ 2 นาที เท่านั้น อีกทั้งในฮอลล์ยังมีการแสดงอื่นๆ นอกจากเรื่องที่เราไปดูอีกด้วยค่ะ ทั้งละครเวทีญี่ปุ่นโบราณ ละครเวทีคาบุกิ (นักแสดงชายล้วน) ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกดูได้ตามความชื่นชอบ ซึ่งจะสามารถซื้อบัตรได้หน้าโรงละครสดๆ เลยก็ได้ สะดวกมาก
รถไฟสาย Toei Shinjuku Line ลงสถานี Hamacho หากเดินทางมาจากสถานี Shinjuku จะใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้นค่ะ ส่วนตัวเราขึ้นจากสถานี Ichigaya ใกล้กว่า Shinjuku เล็กน้อย หรือหากเพื่อนๆ มาเที่ยวแถวๆ กินซ่า รบปงงิ โตเกียวทาวเวอร์ (ที่อยู่ใกล้กันแบบถัดๆ กันไปแบบสถานีต่อสถานีกันเลย) ก็สามารถเดินทางมายังสถานที่จัดงานได้ไม่ยากค่ะ อีกทั้งตอนเลิกงานคนก็ไม่แออัดจนกลับที่พักยากด้วย (ปกติเวลามีการจัดงานต้องรอคิวรถไฟเกือบ ชม. เพราะคนเยอะมาก)
พอลงจากรถไฟที่สถานี Hamacho เรียบร้อยแล้ว ให้ออกจากสถานีด้านทางออก A2 ค่ะ ซึ่งจะมีเขียนกำกับไว้ด้วยว่า Mejiza Theater ซึ่งก็คือสถานที่จัดงานของเรานั่นเอง
เพื่อนๆ สามารถจองบัตรเข้าชมได้ทั้งจากอินเทอร์เน็ต ส่วนตัวเราจองจาก www.govoyagin.com ค่ะ โดยหลังที่จองแล้ว ทางเว็บไซต์จะส่งอีเมลล์ยืนยันการจองพร้อมหมายเลขการจองมาให้เรา มีเรื่องแอบบอกนิดหนึ่งค่ะ ถ้าหากเพื่อนๆซื้อในช่วงไม่เกิน 7 ก่อนวันที่โชว์แสดง (Last minute offer) ราคาจะลดเหลือ 3,600 เยนราคาปกติก็อยู่ที่ประมาณ 6,000 เยน ลดอย่างเยอะ อิ อิ
โดยเพื่อนๆ สามารถจองตั๋วผ่านทางเว็บไซต์ได้จนถึง 18:00 น. ในวันที่แสดงค่ะ โดยการแสดงจะเริ่มตั้งแต่ 19:00 น. หรือ 20:30 น. (แล้วแต่วัน) และการรับตั๋วก็ไม่ยากแต่อย่างใด เพียงแค่โชว์หมายเลขการจองเพื่อรับบัตรหน้างานที่ชั้น 1 ซึ่งจะมีโต๊ะประชาสัมพันธ์ติดป้ายเว็บไซต์ที่เราได้ทำการจองเอาไว้ค่ะ หาไม่ยาก แล้วพนักงานจะยื่นตั๋วให้
ตั๋วที่ได้มาหน้าตาเป็นแบบข้างบนนี้ค่ะ กระดาบปริ้นสีเป็นเหมือนไกด์ไลน์แนะนำตัวละคร การแสดง และเรื่องราวคร่าวๆ เป็นภาษาญี่ปุ่น กระดาษสีขาวแผ่นสั้นคือตั๋วค่ะ ซึ่งจะชั้น แถว และเลขที่นั่งตามลำดับค่ะ เนื่องจากโรงละครที่จัดการแสดงมี 3 ชั้นจึงควรระมัดระวังเรื่องที่นั่งเป็นพิเศษ แต่พนักงงานจะคอยบอกเราตอนตรวจตั๋ว ในส่วนกระดาษยาวนั้นเป็นซองใส่ตั๋วค่ะ
สำหรับผู้ที่ต้องการซับไตเติลเป็นภาษาอังกฤษ สามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นที่ sakura-meijiza-app.com ได้ค่ะ เพื่อจะได้เข้าใจการแสดงให้มากขึ้น รวมทั้งยังมีการแนะนำตัวละครต่างๆ บนเวทีเมื่อปรากฎตัวอีกด้วย เรียกว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีลูกเล่นกับสภาพแวดล้อมบนเวทีได้ อีกทั้งซับไตเติลเหล่านี้ ก็ยังมีลูกเล่นที่ลิงค์กับ CG บนเวทีอีกด้วยค่ะ
เรื่องราวโดยรวมของ “SAKURA – JAPAN IN THE BOX”
เป็นการเล่าเรื่องแบบอนิเมชั่น โดยมีเด็กสาวมัธยมคนหนึ่งได้พบกับสัตว์เทพในตำนาน (ดูแล้วคิดว่าเป็นจิ้งจอก) และได้พาเด็กสาวคนนั้นเดินทางผ่านมิติเข้าไปผจญภัยในดินแดนของเจ้าหญิงซากุระ ซึ่งจะมีตัวละครอยู่ 4 ตัว ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันตามสี่ฤดูของญี่ปุ่น และเด็กสาวคนนี้ก็ได้เข้าไปทำความรู้จักและเรียนรู้จากตัวละครจนค้นพบความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่
การเล่าเรื่องจะคล้ายกับการแนะนำคาแรคเตอร์ของตัวละคร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศ อารมณ์ และจุดเด่นๆ ของแต่คาเรคเตอร์ออกมาโดยการแสดงแบบญี่ปุ่น แดนส์ร่วมสมัย และการแสดงอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วย
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการแสดงชุดนี้เป็นการแสดงโชว์เพื่อให้ชาวต่างชาติได้เข้าถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้อย่างสร้างสรรค์เลยทีเดียว โดยได้นำอนิเมชั่นที่เป็นจุดเด่นของญี่ปุ่นและวัฒนธรรมเข้ามาผสมผสานกัน เพราะในรายละเอียดได้สอดแทรกความเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นไว้อย่างหนาแน่นมาก ทั้งการตีกลอง การเล่นชามิเซน (เครื่องดนตรีสามสาย) การโชว์ศิลปะการใช้ดาบ ฉากต่อสู้ระหว่างนินจาและซามูไร ตลอดจนมีการแสดงของมิโกะ การแต่งกายชุดเจ้าสาวแบบญี่ปุ่น การเป่าขลุ่ย การเล่นคาบุกิ การเต้นในเทศกาลหน้าร้อน
ผู้ชมสามารถเข้าถึงการศิลปะญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย และสามารถถ่ายรูประหว่างการแสดงและนำไปโพสตามโซเชี่ยลได้อีกด้วย ปกติการแสดงต่างๆ ในญี่ปุ่นจะห้ามถ่ายภาพเลยค่ะ (เค้าคงอยากให้ช่วยโปรโมทวัฒนธรรมบ้านเค้าเต็มที่ อิ อิ)
ในด้านของการนำเทคนิค CG เข้ามาผสมผสานกับการนำเสนอวัฒนธรรมก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดีทีเดียว เพราะแทนที่จะใช้ฉากจริงๆ แบบละครเวทีแบบทั่วไป แต่เมื่อดึงเทคนิค CG เข้ามาช่วย ทำให้สามารถเล่นกับตัวฉากได้มากขึ้น การสลับสับเปลี่ยนฉากไม่มีปัญหา พอรรวมเข้ากับการแสดง ก็ทำให้มีความสมจริงมากขึ้น ทั้งฉากดาวบนท้องฟ้า ฉากจำลองโลกใต้ทะเล ฉากต่อสู้ต่างๆ ก็ทำได้ดี แม้จะนั่งอยู่ไกลแต่ก็สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ได้อย่างเต็มเปี่ยมเลยค่ะ
ในเรื่องการแสดงศิลปะร่วมสมัยนั้นได้มีการนำเข้ามาเพื่อเล่าเรื่อง การสร้างบรรยากาศที่เป็นสามมิติสามารถชักจูงอารมณ์ของคนดูให้เป็นไปในทางเดียวกัน เช่น การแสดงฉากต่อสู้ของนินจาที่มีการนำการแสดงของหน้ากากแดนส์เข้ามา แสดงความลึกลับของนินจา การใช้การเต้นบัลเล่ต์ประกอบความอ่อนช้อย อ่อนนุ่มของท้องทะเล เป็นต้น
แม้จะแสดงออกด้านบรรยากาศการแสดงและการโชว์ได้ดีก็ตาม แต่ตลอดทั้งเรื่อง มีบทพูดไม่เกิน 10 ประโยค จึงรู้สึกว่ายังไม่เห็นความเกี่ยวของของตัวละครอย่างชัดเจน แต่หากมองในด้านของการแสดงโชว์เพื่อชาวต่างชาติแล้ว การแสดงออกโดยไม่ต้องพูดอาจจะเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมแล้วก็เป็นได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วหากมีบทพูด การสื่ออารมณ์ การผูกเรื่องราวจะมีความลึกซึ้งมากขึ้น จะทำให้รู้สึกอินมากกว่านี้ก็ได้ค่ะ
ข้างต้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนของเรานะคะ สำหรับนักท่องที่ยวแล้ว ส่วนตัวคิดว่าคุ้มมากๆ ค่ะ เรียกได้ว่าสามารถรับชมความเป็นญี่ปุ่นได้รอบด้านจากการแสดงเดียวเลยค่ะ (แบบการแสดงของญี่ปุ่นในพิธีปิดโอลิมปิกที่ผ่านมาเลย)
อีกทั้งการแสดงนี้ยังจัดแสดงจนถึงปลายเดือนมีนาคม 2017 เอง ซึ่งมีแค่เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวโตเกียวระหว่างนี้ ก็หาโอกาสมาชมให้ได้นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยากชมวัฒนธรรมญี่ปุ่นในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เราเชียร์เต็มที่เลยค่ะ
แต่สำหรับผู้ที่ชอบละครเวทีจ๋า มีบทพูดด้วย เราแนะนำคาบุกิหรือไม่ก็ทาการาสึกะไปเลยค่ะ ซึ่งพวกนี้จะเป็นด้านละครเวทีโดยเฉพาะ
ในส่วนของด้านล่างนี้เป็นภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งของการแสดงบนเวที พร้อมกับคลิปภาพประกอบสักเล็กน้อยที่เอามายั่วน้ำลายกันค่าาา
สำหรับวันนี้ขอแบ่งปันเรื่องราวดีๆ กันเพียงเท่านี้ เพื่อนๆ คนไหนมีข้อสงสัยหรือต้องการจองตั๋ว สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.govoyagin.com นะคะ
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ บ๊ะบายยย ^^
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com