สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินจะมาแนะนำพร้อมรีวิวเว็บไซต์ตัวแทนจองรถเช่าในญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า ToCoo! พร้อมด้วยการเช่าบัตร TEP (ToCoo! Expressway Pass) ที่แอดมินรักมากเป็นพิเศษ เป็นบัตรเหมาทางด่วนในประเทศญี่ปุ่น ราคาสุดคุ้มสำหรับคนที่จะใช้ขับรถเที่ยวหลายๆ เมือง
ก่อนหน้านี้แอดมินได้ใช้บริการของบริษัทรถเช่าหลากหลายบริษัท เรียกว่าใช้มาครบเกือบทุกบริษัทแล้ว ครั้งนี้ได้มีโอกาสลองใช้บริการจองรถเช่ากับ ToCoo! ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับความไว้วางใจจนได้รับความร่วมมือกับบริษัทให้เช่ารถใหญ่ๆ ที่เราอาจจะรู้จักกัน อาทิ Toyota Rent A Car, Nippon Rent-A-Car, ORIX Rent a Car และ NISSAN Rent a Car เป็นต้น
เกี่ยวกับ ToCoo!
ToCoo! เป็นเว็บไซต์จองรถเช่าในญี่ปุ่น ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติหลากหลายประเทศ โดยมีจุดแข็งเด่นๆ ที่เหมาะกับคนไทยอย่างมาก ได้แก่
- รองรับหลายภาษา: เว็บไซต์ของ ToCoo! รองรับทั้งภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี และภาษาไทย ซึ่งเนื้อหาภาษาไทยนั้นค่อนข้างละเอียด ครอบคลุม อ่านเข้าใจได้ และใช้งานง่าย ช่วยให้จองได้สะดวก
- มีสาขาจำนวนมาก: ToCoo! มีสาขารถเช่าประมาณ 3,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านเช่ารถตามสนามบิน ตามสถานีรถไฟที่มีชินคังเซ็น และสถานีใหญ่ๆ ยอดนิยม ช่วยให้รับและคืนรถได้สะดวก
- บริการตัวกลาง: ToCoo! เป็นตัวกลางในการจองรถเช่าในญี่ปุ่น ช่วยให้การติดต่อประสานงานและการแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องง่ายกว่าการติดต่อบริษัทเช่ารถโดยตรง โดยเฉพาะกับบริษัทที่ไม่รองรับภาษาไทย
- ราคาคุ้มค่า: นอกจากจะได้ความสะดวกแล้ว ยังได้ราคาที่คุ้มค่ามากกว่าอีกด้วย บางครั้งอัตราค่าบริการถูกว่าเจ้าอื่น และยังมีส่วนลดต่างๆ เพิ่มอีกด้วย
จองรถเช่ากับ ToCoo! ได้ที่ » https://www2.tocoo.jp/th/
1,000.-
OFF※
คูปองส่วนลด ToCoo!
เช่ารถกับ ToCoo! ตั้งแต่ 10,000 เยนขึ้นไป กรอกรหัสคูปองในขั้นตอนการจองเพื่อรับส่วนลด 1,000 เยน
🎫 รหัสคูปอง: TCTJT1
🏢 สาขาที่ใช้งานได้ : ทุกสาขา
📅 ระยะเวลา: ไม่จำกัด
※ค่าใช้จ่ายสำหรับ ToCoo! Option ไม่สามารถใช่ร่วมกับโปรโมชันนี้ได้
การเตรียมตัวก่อนเช่ารถในญี่ปุ่น
ก่อนจะไปเลือกรถเช่า แอดมินขอแนะนำข้อมูลที่ควรเตรียมไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเลือกรถเช่าและบริการเสริมที่เหมาะกับเราได้ รวมถึงป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย
- จำนวนคนที่แน่นอน: เพื่อเลือกประเภทรถได้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร
- วันและเวลาการเดินทางที่แน่นอน: เพื่อตรวจสอบราคารถและรถที่ว่างในช่วงเวลานั้น
- สถานที่ที่เดินทางไป: เพื่อให้เลือกแพลนเช่ารถที่เหมาะสม เช่น หากเดินทางไปบริเวณที่มีหิมะ ควรเช่ารถแพลนยางหิมะ
- ใบขับขี่สากลที่ถูกต้อง: สำหรับกรณีที่ต้องการขับรถที่ต้องใช้ใบขับขี่ประเภทอื่นที่มากกว่า 10 ที่นั่ง
- การคำนวณระยะทางและค่าทางด่วน: เพื่อตัดสินใจว่าควรจะเช่าแพคเกจอื่นๆ เพิ่มเติมอย่างบัตรเหมาทางด่วนหรือไม่
- บริการตัวแทนบริษัทเช่ารถ: ตรวจสอบว่าตัวแทนที่ใช้บริการรองรับภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยหรือไม่ เพื่อความสะดวกในการสื่อสาร
- การเตรียมเอกสารผู้ขับขี่และผู้ขับขี่สำรอง: ควรมีเอกสารครบถ้วน และเตรียมผู้ขับขี่สำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน
การจองรถกับทาง ToCoo!
คลิก “เพิ่มเงื่อนไขเพิ่มเติม”
เพื่อค้นหารถที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้แอดมินจองรถเช่าจากเว็บไซต์ ToCoo! ซึ่งถ้าใครกำลังหาพวกส่วนลดต่างๆ อยู่แล้ว บอกเลยว่าการจองจากเว็บไซต์ตัวแทนที่รวบรวมบริษัทหลายๆ บริษัทเอาไว้ด้วยกัน มีโอกาสที่จะได้ราคาที่ถูกกว่าจากการจองกับบริษัทรถเช่าโดยตรง แน่นอนว่าแอดมินเคยใช้บริการกับบริษัทเช่ารถมาเกือบทุกเจ้าแล้ว รอบนี้ก็ลองเช่ากับทาง ToCoo! ค่ะ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ไม่ซับซ้อนเลยค่ะ และเว็บไซต์ก็รองรับภาษาไทยที่เป็นภาษาไทยจริงๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจ ไม่ใช่ภาษาไทยที่เป็นการประมวลผลจากฟังก์ชันการแปลภาษาเท่านั้น
- การค้นหารถทั่วไป: เพียงแค่ระบุวันที่รับ/คืนรถ สถานที่รับ/คืนรถ ทางเว็บไซต์จะหาสาขาใกล้ๆ ของทุกบริษัทที่เขามีให้เราเลือกได้เลย
- การค้นหาระบุเงื่อนไข: เช่น คนที่ต้องการเลือกชนิดรถพร้อมออฟชั่นยางหิมะ หรือเลือกแพลน เช่น แพลนระบุรุ่นรถ (รายละเอียดแพลนแนะนำอยู่ในหัวข้อถัดไป) ให้คลิกคลิก “เพิ่มเงื่อนไขเพิ่มเติม” แล้วเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ระบบจะแสดงรถเช่าที่ตรงกับเงื่อนไขให้ได้เลย
การเลือกบริษัทรถเช่าและรุ่นรถที่ต้องการเช่า
ตัวอย่างผลลัพธ์การค้นหาแพลนรถเช่า ระยะเวลา 3 วัน
มีการเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของแต่ละบริษัท
การเลือกบริษัทรถเช่าและรุ่นรถที่เราต้องการ สามารถดูเปรียบเทียบกันได้เลย จุดนี้ผู้เช่าสามารถตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ได้ เช่น ชนิดของรถ ตัวอย่างรุ่นรถ จำนวนคนและจำนวนกระเป๋าที่รองรับได้ อีกทั้งยังบอกจำนวนรถที่เหลืออีกด้วย
เมื่อเลือกแแพลนได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการจอง โดยจะมีออฟชั่นให้เลือกเพิ่มได้อีก เช่น คาร์ซีท (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) พร้อมทั้งให้กรอกข้อมูลผู้ใช้บริการและบัตรเครดิตที่ใช้ชำระเงิน
💡ถ้าใครเช่ารถเกิน 10,000 เยน อย่าลืมใส่โค้ดคูปอง TCTJT1 จะได้ส่วนลดอีก 1,000 เยนนะคะ
📌 ทริคน่ารู้
- จากการเลือกรถเช่าหลายๆ บริษัท Nippon Rent-A-Car ราคาสบายกระเป๋ากว่าบริษัทรถเช่าอื่นๆ ค่ะ
- รองมาก็ NISSAN Rent a Car ส่วน ORIX Rent a Car ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา บางครั้งก็ได้ราคาดี บางครั้งก็แพงกว่าเจ้าอื่นๆ
- ส่วนของ Toyota Rent A Car ราคาจะสูงกว่าเจ้าอื่น แต่ในบางพื้นที่ราคาก็ถูกกว่าร้านเช่ารถของท้องถิ่น (เฉพาะบางพื้นที่)
การเลือกแพลนแนะนำ
สำหรับคนที่ต้องใช้ Option ต่างๆ เป็นพิเศษก็ไม่ต้องหาเมนูอื่นๆ ให้ยาก เราแค่คลิกเลือกแพลนใน “Recommended Plans” ที่เขามีให้เลือกด้านล่างในหน้าหลักของเว็บไซต์ จากนั้นค่อยทำการจองในหน้าจอนั้นๆ ได้เลย
📌 แนะนำแพลนต่างๆ
- แพลนยางหิมะ: เหมาะกับการเดินทางไปโซนที่มีหิมะตก [ดูรายละเอียดแพลนที่นี่]
- แพลนระบุรุ่นรถ: สามารถเลือกรุ่นรถที่ต้องการได้เลย เหมาะกับคนที่รู้จำนวนผู้โดยสารแล้ว และมีกระเป๋าหลายใบ รวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุที่ต้องการพื้นที่นั่งสบายๆ [ดูรายละเอียดแพลนที่นี่]
- Early Bird Pay Now: ได้ส่วนลดสูงสุดถึง 15% เมื่อจองล่วงหน้า เหมาะกับคนที่มีแพลนแน่นอน จองล่วงหน้านานๆ ได้ [ดูรายละเอียดแพลนที่นี่]
- ToCoo! Japan Traveler Support Plan: มาพร้อมทั้งระบบซัพพอร์ตข้อมูลและประกันเดินทาง เหมาะกับทุกคนที่เช่ารถ เพื่อความสบายใจ [ดูรายละเอียดแพลนที่นี่]
ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือก “แพลนยางหิมะ” หลังจากคลิกแล้ว ก็ใส่ข้อมูลการจองในหน้าต่างของหน้าจองนั้นได้เลย ข้อมูลจะแสดงข้อมูลให้เราดูว่ามีรถของบริษัทใดบ้าง รวมถึงระบุว่าเป็นแพลนที่เราเลือกเอาไว้ด้วยค่ะ ทั้งนี้หากเลือกเช่าในพื้นที่ที่มีหิมะตก รถเช่าทุกคันจะติดตั้งยางหิมะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จึงไม่จำเป็นต้องจองแยกหรือจองแพลนยางหิมะ แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนตรวจสอบแพลนและข้อมูลรถก่อนจองทุกครั้งนะคะ
หมายเหตุ:
- ในช่วงหิมะตก อุบัติเหตุเกิดขึ้นง่ายมากๆ น้ำแข็งบนถนนลื่นมาก จึงไม่ควรนำรถที่ไม่เหมาะกับสภาพการขับขี่ไปใช้งานในบริเวณเสี่ยง
- จากประสบการณ์สดๆ ร้อนๆ ของแอดมิน แม้ใส่ยางหิมะ ยังมีบางครั้งที่รถลื่นเพราะพื้นเป็นน้ำแข็งค่ะ ยังโชคดีที่มีคนญี่ปุ่นเข้าช่วยบอกวิธีขับรถประคองบนพื้นลื่นๆ จึงขับขี่ได้อย่างปลอดภัย
การเช่าบัตร TEP (บัตรเหมาทางด่วน)
จากที่แอดมินบอกให้ทุกคนเตรียมจุดหมายปลายทางแต่ละที่เพื่อคำนวณระยะทางและค่าทางด่วน เพื่อตัดสินใจว่าควรจะเลือกเช่าบัตร ETC ซึ่งเป็นบัตรเหมาทางด่วนหรือไม่ ซึ่งทาง ToCoo! ก็มี Option ที่เรียกว่า TEP (ย่อมาจาก ToCoo! Expressway Pass) ให้ด้วย สามารถใช้ขึ้นทางด่วนตามพื้นที่ที่กำหนด โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามระยะเวลาที่เลือก ซึ่งมีตั้งแต่ 1-30 วันเลยค่ะ
ตัวอย่างราคา TEP บัตรเหมาทางด่วนญี่ปุ่น
(ราคาจะยิ่งถูกลงเมื่อเลือกจำนวนวันเพิ่มขึ้น)
พื้นที่ใช้งาน | ราคา 1 วัน | ราคา 3 วัน |
---|---|---|
ทั่วประเทศญี่ปุ่น | 10,130 เยน~ | 14,130 เยน~ |
สำหรับฮอกไกโด | 6,030 เยน~ | 6,030 เยน~ |
สำหรับคิวชู | 5,830 เยน~ | 7,730 เยน~ |
สำหรับโอกินาว่า | 2,100 เยน~ | 3,700 เยน~ |
ดูรายละเอียดบัตร TEP เพิ่มเติมได้ที่ » TOCOO! Expressway Pass
📌 ทริคน่ารู้
ใครที่อยากคำนวณความคุ้มค่าการเช่าบัตร TEP แบบง่าย ๆ เราจะแนะนำข้อมูลเบื้องต้นดังนี้
- ค่าทางด่วนประเทศญี่ปุ่นโดยทั่วไป เฉลี่ยอยู่ที่ 25 เยน/กม.
- ค่าบัตรทางด่วนแบบเหมาทั่วประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นที่ 1 วัน 10,130 เยน หากขับเกิน 405 กม./วัน ใช้บัตรเหมาคุ้มกว่า
- หากใช้บัตรทางด่วนแบบเหมาทั่วประเทศญี่ปุ่น 3 วัน 14,130 เยน หารแล้วจะเหลือเพียง 4,710 เยน/วัน ถ้าขับวันละ 188 กม./วัน หรือรวมแล้วประมาณ 566 กม. ก็คุ้มค่าบัตรเหมาแล้วค่ะ
แอดมินได้ลองคำนวณจาก Google Map แล้ว ทริปนี้จะต้องขับรถ 3 วัน ระยะทางประมาณ 600 กม. ราคาบัตร TEP แบบทั่วประเทศญี่ปุ่นก็อยู่ที่ 14,130 เยน คุ้มค่าแน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้ใช้ทางด่วนทั้งนอกเมืองและในเมืองค่ะ ในเมืองแนะนำให้ใช้ทางด่วนมาก เพราะค่าทางด่วนแพงมาก ถ้ามีบัตรเหมาแล้วก็อยากให้ใช้งานกันเยอะๆ ช่วยเลี่ยงติดไฟแดงถี่ๆ ด้านล่าง อีกทั้งยังใช้งานบัตรได้คุ้มค่าอีกด้วย
หากใครต้องการเที่ยวเฉพาะที่ ก็มีโซนอื่นๆ ให้เลือกด้วย ได้แก่ ฮอกไกโด และโอกินาว่า โดยทั่วไปแล้ว บางพื้นที่ยอดนิยมจะมีบัตรเหมาทางด่วนเช่นกัน แต่ว่าบัตรที่เป็นทั่วประเทศเรายังคงเชียร์ให้ใช้บริการกับ ToCoo! เพราะรับและส่งคืนง่ายมาก (รายละเอียดอยู่ในหัวข้อการรับของอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง)
การรับรถเช่าและอุปกรณ์เสริม
การรับรถเช่า
ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 5 คน เราจึงเลือกรถขนาด 6 ที่นั่งได้รถเป็น NISSAN SERENA Highway Star คันใหม่เอี่ยมค่ะ โดยเลือกจองแบบแพลนหิมะและแพลนระบุรุ่นรถ ส่วนการรับรถคล้ายกับการเช่ารถอื่นๆ เจ้าหน้าที่จะมีการอธิบายข้อควรรู้ต่างๆ เช่น
- รุ่นรถที่ได้ ประกันรถ แพลนที่เราจอง
- วันและเวลาการคืนรถ
- กฎการใช้งานต่างๆ (มีภาษาไทยรองรับ)
- ปั๊มน้ำมันใกล้สถานที่คืนรถ
- การใช้ ETC (ถ้าใช้ของบริษัทเช่ารถจะมีค่าเช่าบัตรแยกต่างหาก)
- การเติมน้ำมัน
💡 การเช่ารถขับในฤดูหนาว เราเชียร์ให้ใช้ทุก Option ที่มี ยกเว้น ETC หากเรามีบัตรแยกอยู่แล้ว
📌 เอกสารที่ใช้ตอนรับรถ
- ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ (ตามอนุสัญญาเจนีวา 1949)
- หนังสือเดินทาง
- บัตรเครดิตที่ใช้ชำระเงินได้
- สำเนาอีเมลยืนยันการจอง (พิมพ์เป็นเอกสาร หรือแสดงจากหน้าจอโทรศัพท์ก็ได้)
การรับบัตร TEP
เนื่องจากแอดมินใช้ Option อื่นๆ คือการเช่าบัตร TEP ซึ่งเป็นบัตร ETP หรือเหมาทางด่วนของทาง ToCoo! ค่ะ เมื่อเราจองทางออนไลน์เสร็จแล้ว ก่อนวันเดินทาง ทางบริษัทจะส่งลิงก์สำหรับเข้ารับบัตร TEP ที่สนามบินค่ะ เขาจะดูว่าเที่ยวบินของเราลง Terminal ไหน จากนั้นจะส่งของไปให้เรารับได้ที่สนามบินค่ะ
เราลงเครื่องที่สนามบิน Haneda Airport Terminal 2 ทางบริษัทจะส่งไปที่แฟมมิลี่มาร์ทใน Terminal ตอนที่จะรับของก็เปิดลิงก์ที่ทางเว็บไซต์ให้มา แล้วรับของภายใน 30 นาทีค่ะ
⚠️ ไม่ควรเปิดลิงก์หรือกดรับของก่อนจะเข้ารับพัสดุจริง เพราะลิงก์มีอายุการใช้งาน 30 นาทีเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนออกรถ
เมื่อรับรถแล้วให้ตรวจสอบหน้าจอระบบ GPS เกียร์ ฮีทเตอร์ น้ำมัน เจ้าหน้าที่จะอธิบายปุ่มต่างๆ ของรถค่ะ หากมีคำถามสงสัยก็ถามตอนนี้เลย
อีกอย่างที่ลืมไม่ได้คือ ก่อนออกรถอย่าลืมเสียบบัตร TEP ที่ได้มาที่ช่องเสียบ ETC (ไม่เสียบใช้ไม่ได้นะคะ) เป็นการ์ดที่เสียบกลางทางไม่ได้ด้วย และที่สำคัญก็ต้องเช็คสถานะไฟ ETC ด้วยนะคะ
- ถ้าไฟขึ้นสีส้ม ดังติ๊ดคือใช้งานได้
- ถ้าไฟขึ้นสีแดง ต้องดูว่าเครื่องเสียบเสียหรือว่าเราเสียบผิดหรือไม่
ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนออกจากที่เช่ารถนะคะ เสียบบัตรทุกอย่างเรียบร้อย ตั้ง GPS ให้พร้อมค่ะ รถบางรุ่นจะไม่ทำงานขณะรถวิ่งบนถนน ต้องตั้งพิกัดตอนรถหยุดเท่านั้น ตรวจเช็คทั้งหมดแล้วก็ออกรถได้ค่ะ
การขับขี่รถยนต์ในญี่ปุ่น
กฎจราจรที่ควรทราบ
จากการขับขี่รถในญี่ปุ่นไม่มีปัญหาเลยค่ะ ส่วนเรื่องกฎจราจรที่ต้องคำนึงมากๆ มีอยู่ไม่กี่ข้อที่อยากให้ทุกคนปฏิบัติตามเสมอ สิ่งต่างๆ ที่เราลิสต์เอาไว้นี้เป็นสิ่งที่ได้ใช้งานจริงค่ะที่ทุกคนต้องเจอแน่นอนค่ะ
- คาดเข็มขัดก่อนออกรถทุกที่นั่งที่มีเข็มขัด
- ห้ามคุยโทรศัพท์ขณะขับขี่
- อย่าหยุดรถเหยียบทับทางม้าลาย
- เมื่อพบว่ามีคนยืนรอข้างถนน ไม่ว่าจุดนั้นจะมีทางม้าลายหรือไม่ ต้องหยุดรถให้คนข้ามถนนโดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ
- ตอนข้ามทางรถไฟต้องหยุดที่จุดหยุดรถ มองซ้าย-ขวา-ซ้าย แล้วค่อยข้ามทางรถไฟ
- เมื่อถึงสี่แยก ไม่ว่าจะมีทางม้าลายหรือไม่ ต้องชะลอรถมอง มองซ้าย-ขวา-ซ้าย แล้วจึงเดินหน้าต่อ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากสี่แยกเล็กๆ มักไม่มีสัญญาณไฟจราจร
- หากมีสัญญาณไฟจราจรซ้อนกัน 2 แผง เป็นสัญญาณไฟแยกกันระหว่างที่ตรงกับทางเลี้ยว (สี่แยก) หากมีแค่ 1 แผง ใช้สัญญาณเดียวกัน ทางเลี้ยวให้ไปรอจุดรอเลี้ยวกลางแยก จะมีจุดให้รอเลี้ยว ต้องหาจังหวะไปเอง
- ขับรถตามความเร็วที่จำกัดของถนนเส้นนั้นๆ โดยตรวจสอบได้ที่หน้าจอรถ จะระบุความเร็วสูงสุดเอาไว้
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาก่อนขับรถ ตามกฎหมายญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ขับรถ และไม่มีการกำหนดแอลกอฮอล์ขั้นต่ำ
การใช้บริการที่จอดรถ
ตัวอย่างที่จอดรถอัตโนมัติในญี่ปุ่น
พอเข้าจอดแล้วจะมีตัวล็อคยกขึ้นมา
ที่จอดรถในต่างจังหวัดของญี่ปุ่นหาไม่ยาก มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบฟรีและเสียค่าธรรมเนียม ที่จดในอาคาร กลางแจ้ง ริมถนน รวมถึงที่จอดแบบจอดรถอัตโนมัติ
- หากเป็นต่างจังหวัด ในชนบทมากๆ มักเป็นที่ส่วนตัวแบบไม่เป็นทางการ จะมีคุณป้าหรือคุณลุงเดินมาเก็บทที่จอดรถ ข้อดีคือไม่มีระยะเวลาเหมือนที่จอดอัตโนมัติ และชำระเมื่อเข้าจอดเท่านั้น จะออกเมื่อไหร่ก็ได้
- หากเป็นในเมือง ต้องจอดรถในที่จอดที่กำหนดไว้เท่านั้น และมีการคิดค่าจอดรถคำนวณเป็นจำนวนชั่วโมง
การเติมน้ำมัน
รถเช่าในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นการเติมน้ำมันแบบ Regular หรือแบบธรรมดา และต้องเติมเต็มถังเท่านั้น แนะนำให้เติม 2 รอบหากต้องเดินทางไกล และผู้ขับขี่ต้องเก็บใบเสร็จเอาไว้ทุกครั้ง เพราะบริษัทรถเช่าจะตรวจสอบใบเสร็จเติมน้ำมันตอนคืนรถด้วย
เติมน้ำมันครั้งที่ 1 ป้องกันน้ำมันหมดระหว่างทริป
รอบแรกจะเป็นช่วงที่ใช้งานไปประมาณครึ่งถัง ให้แวะปั๊มเติมน้ำมันในช่วงเวลาทำการ เนื่องจากปั๊มปิดเร็วและต่างจังหวัดหาปั๊มได้ยากกว่ามาก อีกทั้งยังมีราคาแพง บางที่รองรับแต่เงินสด ข้อจำกัดมีมากกว่าในเมือง หากมีโอกาสก็แนะนำให้เติมเอาไว้เมื่อใช้ไปประมาณครึ่งถัง
เติมน้ำมันครั้งที่ 2 เติมให้เต็มถังก่อนส่งคืนรถ
บริษัทรถเช่าจะมีการแนะนำปั๊มที่อยู่ใกล้กับสถานที่คืนรถ ทว่าผู้เช่าต้องดูเวลาที่จะคืนรถด้วย
- กรณีที่คืนรถช่วงกลางวัน จะไม่ค่อยมีปัญหา สามารถเติมตามปั๊มใกล้ๆ ที่บริษัทเช่ารถแนะนำได้เลย
- กรณีที่คืนรถตอนเย็น หลัง 5 โมงเป็นต้นไป แนะนำให้หาปั๊มที่เปิด 24 ชั่วโมงแบบเติมเองใกล้ๆ ที่สถานที่คืนรถ (หาจาก Google Map ได้)
เมื่อเติมน้ำมันครั้งที่ 2 เสร็จแล้ว ให้เก็บใบเสร็จและนำรถส่งคืนทันที หากไม่สามารถหาจุดเติมน้ำมันได้จริงๆ ให้ยื่นใบเสร็จการเติมน้ำมันครั้งแรกให้กับเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทเช่ารถจะประเมินปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไปแล้วคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
การคืนรถเช่าและอุปกรณ์เสริม
การคืนรถเช่า
การคืนรถค่อนข้างง่ายและแตกต่างจากประเทศไทยเล็กน้อย ทางบริษัทรถเช่าจะเน้นดูเวลาที่คืนรถ รอยขีดข่วน และปริมาณน้ำมันพร้อมใบเสร็จเติมน้ำมัน บางครั้งจะดูว่าเติมสาขาใกล้ๆ ที่เช่าและเวลาใกล้ๆ ช่วงที่คืนรถหรือไม่ เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
⚠️ กรณีที่ใช้บัตร ETC แยกโดยไม่ใช่ของบริษัทเช่ารถ อย่าลืมถอดบัตรออกจากรถก่อนคืน
การคืนบัตร TEP
แอดมินใช้บริการบัตร TEP (บัตร ETC แบบเหมาจ่ายของ ToCoo!) เพียงแค่ดึงบัตรออกจากรถตอนใช้เสร็จ แล้วก็นำใส่ซองส่งจดหมาย ที่บริษัทจะให้มาพร้อมกับบัตร TEP ที่เราได้รับตอนแรก ปิดผนึก แล้วหย่อนตู้ไปรษณีย์ใดก็ได้ ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ความประทับใจหลังใช้บริการกับ ToCoo!
จากการใช้บริการรถเช่าในญี่ปุ่น ตั้งแต่การจองผ่านเว็บไซต์ของทาง ToCoo! จนถึงการรับ-คืนรถ และรวมถึงบัตร TEP ส่วนตัวมองว่าขั้นตอนการจองค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ
- ข้อมูลในเว็บไซต์ก็ครบถ้วน ทั้งรายละเอียดที่จำเป็นในการใช้รถ และส่วนอื่นๆ ก็ดูง่าย
- มีการแนะนำแพคเกจต่างๆ ให้โดยที่เราไม่ต้องอ่านรายละเอียดเยอะๆ
- การสอบถามข้อมูลหลังบ้านก็ได้รับการตอบรับดี สามารถสื่อสารเป็นภาษาไทย ง่ายต่อการประสานงานหรือขอความช่วยเหลือต่างๆ
- บริษัทเช่ารถที่อยู่ในเว็บไซต์ ToCoo! เป็นบริษัทใหญ่ๆ ของญี่ปุ่น วางใจได้ว่าเราจะได้รับรถที่ตรงกับสิ่งที่เราจองไปอีกด้วย
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในญี่ปุ่น
บทความเกี่ยวกับการเดินทาง
- อยากเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เตรียมตัวอย่างไร มีวิธีการอย่างไร?
- [รีวิว] เช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง การจองรถเช่า การรับและคืนรถ
- [รีวิว] เช่ารถในญี่ปุ่นกับ ToCoo! พร้อม TEP บัตรทางด่วนแบบเหมา
- 15 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
- 9 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่น
- 5 เรื่องราวบนท้องถนนและรถยนต์ในโตเกียว
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com