พิพิธภัณฑ์ศิลปะส่วนใหญ่นั้นจะให้เดินชมด้วยตา แต่ที่ teamLab Planets TOKYO แห่งนี้นั้น เราสามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งการมองเห็น การฟัง และการสัมผัสได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง ยิ่งไปกว่านั้นคือเราจะได้เดินชมนิทรรศกาลศิลปะดิจิทัลสุดตระการตาด้วยเท้าเปล่าและยังได้เดินลุยน้ำอีกด้วยนะคะ ขอบอกเลยว่าเป็นการเปิดประสบการณ์การชมงานศิลปะที่เพลินมาก

เกี่ยวกับ teamLab Planets TOKYO

สาระและเกร็ดน่ารู้

teamLab Planets TOKYO (チームラボプラネッツ TOKYO DMM) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่ตั้งอยู่ในเขตโทโยสุ (Toyosu) ของกรุงโตเกียว (Tokyo) โดยมีคอนเซ็ปต์ที่ให้ผู้เยี่ยมชมได้ดื่มด่ำกับงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเราสามารถชมด้วยตา ฟังด้วยหู และสัมผัสด้วยร่างกายแบบไร้สิ่งกั้นขวาง ให้เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับงานศิลปะเลยทีเดียว

❝Immerse your Body, and with Others, Become One with the World❞

ด้านในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็นโซนต่างๆ ซึ่งงานศิลปะที่จัดแสดงนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแสง สีและเสียงที่เกิดจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ แต่ยังประกอบไปด้วยงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติจริงๆ ที่สำคัญยังมีไฮไลท์อยู่ที่การเดินชมงานศิลปะด้วยเท้าเปล่าที่ไม่เหมือนพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ในโลกอีกด้วย

ล่าสุด teamLab Planets TOKYO ก็ยังได้รับเลือกให้เป็น “สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียประจำปี 2023” (Asia’s Leading Tourist Attraction 2023) ในงาน “World Travel Awards” ซึ่งถือเป็นรางวัลออสการ์สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเลยทีเดียว นับเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่สามารถคว้ารางวัลนี้มาได้ด้วยค่ะ

ข้อมูลการเยี่ยมชม

เวลาทำการ

โซนเวลาเปิด-ปิด
teamLab Planets TOKYO9:00 – 22:00 น.※
(เข้าก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง)
Vegan Ramen UZU Tokyo
teamLab Flower Shop & Art
11:00 – 20:30 น.
(Last Order ก่อนเวลาปิด 30 นาที)
※31 ธันวาคม – 2 มกราคม 9:00 – 21:00 น.
※17- 18 และ 21 มกราคม 9:00 – 16:00 น.

วันหยุด

  • 2 – 13 ธันวาคม 2024 , 20 ม.ค. 2025, 6 ก.พ. 2025 (ช่วงเวลาหลังจากนี้ต้องรอประกาศอีกครั้ง)

เว็บไซต์

วิธีการเดินทาง

  • Shin-Toyosu (รถไฟลอยฟ้า Yurikamome Line) จากสถานีเดินประมาณ 1 นาที
  • Shijo-mae (รถไฟลอยฟ้า Yurikamome Line) จากสถานีเดินประมาณ 5 นาที
  • Toyosu (รถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Yurakucho Line) จากสถานีเดินประมาณ 10 นาที

ค่าเข้าชม teamLab Planets TOKYO

การซื้อตั๋ว

  • สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ได้ที่ teamlabplanets.dmm.com หรือ klook.com
  • มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละรอบ (เปิดขายตั๋วล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือน)

ค่าเข้าชม (ถึงวันที่ 1 ธ.ค. 2024, 5-21 ม.ค. 2025)

ประเภทค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป)4,200 เยน
เด็กนักเรียนมัธยมต้น-ปลาย2,800 เยน
เด็ก (4-12 ปี)1,500 เยน
เด็ก (ต่ำกว่า 3 ขวบ)ฟรี
ส่วนลดคนพิการ (ที่มีเอกสารรับรอง)2,100 เยน

ค่าเข้าชม (14-20 ธ.ค. 2024)

ประเภทค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป)4,400 เยน
เด็กนักเรียนมัธยมต้น-ปลาย2,800 เยน
เด็ก (4-12 ปี)1,500 เยน
เด็ก (ต่ำกว่า 3 ขวบ)ฟรี
ส่วนลดคนพิการ (ที่มีเอกสารรับรอง)2,200 เยน

ค่าเข้าชม (21 ธ.ค. 2024 – 4 ม.ค. 2025)

ประเภทค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป)4,800 เยน
เด็กนักเรียนมัธยมต้น-ปลาย2,800 เยน
เด็ก (4-12 ปี)1,500 เยน
เด็ก (ต่ำกว่า 3 ขวบ)ฟรี
ส่วนลดคนพิการ (ที่มีเอกสารรับรอง)2,400 เยน

ค่าเข้าชม (ตั้งแต่ 22 ม.ค. 2025)

ประเภทค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป)3,600 เยน~
เด็กนักเรียนมัธยมต้น-ปลาย2,700 เยน~
เด็ก (4-12 ปี)1,700 เยน~
เด็ก (ต่ำกว่า 3 ขวบ)ฟรี
ส่วนลดคนพิการ (ที่มีเอกสารรับรอง)1,800 เยน~
※ตั้งแต่ 22 ม.ค. 2025 ราคาจะเปลี่ยนไปตามวันที่เข้าชม
Klook.com

รีวิวเที่ยว teamLab Planets TOKYO

teamLab Planets TOKYO นั้นตั้งอยู่ใกล้กับตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu Fish Market) ซึ่งเป็นตลาดปลาแห่งใหม่ของโตเกียว เพื่อนๆ สามารถแวะทานอาหารเช้าที่นี่แล้วค่อยมาชมพิพิธภัณฑ์ต่อได้เลยค่ะ ห่างกัน 1 สถานี ถ้าเดินมาก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ เราเองก็ไปแวะหาไรทานที่ตลาดปลาก่อนมาที่นี่เหมือนกันค่ะ

สำหรับคนที่เดินทางมาด้วยรถไฟสาย Yurikamome Line ก็ให้ลงที่สถานี Shin-Toyosu ได้เลย อยู่ตรงหน้าทางเข้าพิพิภัณฑ์พอดี

เราสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ทางเว็บไซต์ teamlabplanets.dmm.com หรือ klook.com จะได้มาเป็น QR Code โดยสามารถเลือกรอบที่จะเข้าได้ หรือจะมาซื้อที่หน้างานก็ได้ แต่ถ้ารอบไหนเต็มก็ต้องรอรอบถัดไปนะคะ

สำหรับคนที่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ตรงบริเวณด้านหน้าก็มีที่ให้ล็อคกระเป๋าด้วยค่ะ ส่วนพวกเป้และสัมภาระเล็กๆ แนะนำให้ไปฝากไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์ด้านใน

แอดมินมาถึงตั้งแต่ 10 โมง พิพิธภัณฑ์เพิ่งเปิดเลย ช่วงเช้าๆ คนรอคิวเข้าค่อนข้างเยอะ แต่ตอนที่เราออกมาตอนบ่าย คือแถวโล่งโจ้งแล้วค่ะ

พอสแกนตั๋วมาแล้วก็มาเข้าแถวตามล็อคๆ ที่กำหนดไว้ จากนั้นจะมีการฉายเกี่ยวกับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ค่ะ โดยข้อหลักๆ ที่ควรทราบไว้ก่อนมีดังนี้

  • ต้องเดินเท้าเปล่า โดยมีตู้ล็อคเกอร์ให้เก็บรองเท้าพร้อมสัมภาระต่างๆ และจะได้กุญแจเป็นสายคล้องไว้กับข้อมือ
  • ต้องลุยน้ำสูงประมาณหัวเขาผู้ใหญ่ สามารถพับขากางเกงขึ้นได้ หรือจะขอยืมกางเกงขาสั้นมาเปลี่ยนก็ได้ค่ะ (บริการฟรี)
  • ต้องเดินผ่านพื้นที่เป็นกระจกสะท้อน คนที่ใส่กระโปรงหรือกางเกงขาบานๆ ต้องระวังเห็นกกน.นะจ๊ะ
  • สามารถพกสมาร์ทโฟนหรือกล้องถ่ายรูปเข้าไปได้ แต่ห้ามใช้แฟลชและขาตั้งกล้อง
  • ด้านในพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างมืด ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกลัวที่มืดค่ะ

หลังจากชมการนำแนะนำแล้ว เราก็ถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน ล็อคเกอร์สำหรับฝากของมีให้เลือกเยอะมาก ตู้ที่ว่างจะมีกุญแจเสียบอยู่ค่ะ สามารถเอารองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า และเสื้อกันหนาวเก็บไว้ในตู้แล้วล็อคให้เรียบร้อยได้เลยค่ะ

เก็บของแล้วก็ลุยกันได้เลย! ด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นแบ่งทางเดินไว้สำหรับ 2 โซน คือ Water Area และ Garden Area เราก็ไปเริ่มกันที่โซนแรกกันก่อนนะคะ

Water Area

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอทางเดินมืดตื๋อเลย

❝Waterfall of Light Particles at the Top of an Incline❞

ผลงานชิ้นแรกที่จะได้ชมนั้นก็คือ “น้ำตกแห่งแสง” เราจะได้เริ่มลุยน้ำกันเป็นโซนแรกตรงนี้ค่ะ น้ำสูงประมาณข้อเข่า จะมีกลิ่นคลอรีน เป็นการล้างเท้าและฆ่าเชื้อไปในตัว

พอเดินขึ้นเนินมาเราก็จะได้ชมน้ำตกแบบชัดๆ

น้ำตกไหลซู่ๆ เลยค่ะ

ลุยน้ำแล้วก็ต้องเช็ดให้แห้งก่อนไปยังโซนถัดไปนะคะ

❝Soft Black Hole – Your Body Becomes a Space that Influences Another Body❞

ขอเรียกว่า “ห้องหลุมดำ” นะคะ พื้นด้านล่างจะนิ่มๆ และยวบไปตามน้ำหนักการเดินของเรา เป็นผลงานที่ให้เราตระหนักถึงร่างกายของเรา เนื่องจากในปัจจุบันนั้นเราเดินกันแต่พื้นเรียบๆ ค่ะ

❝The Infinite Crystal Universe❞

“ห้องจักรวาลคริสตัล” สวยงามอลังการดาวล้านดวงด้วยไฟคริสตัลห้อยลงมาทั้งห้องพร้อมด้วยเพลงประกอบ ไฟยังเปลี่ยนสีได้โดยใช้แอปฯ ของผู้เยี่ยมชม พื้น ผนังและเพดานเป็นกระจกสะท้อนเหมือนจักรวาลที่ไม่มีที่สิ้นสุดเลยค่ะ

ไฟคริสตัลระยิบระยับแบบใกล้ๆ

ข้างในค่อนข้างใหญ่ เดินวนราวกับอยู่ในเขาวงกตเลยทีเดียว

❝Drawing on the Water Surface Created by the Dance of Koi and People – Infinity❞

“ห้องปลาคาร์ป” ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์กราฟิก เหมือนกับมีปลาแหวกว่ายอยู่ในน้ำจริงๆ บวกกับความเป็นแฟนตาซีด้วยเส้นสายหลากสีสัน เป็นห้องที่เราชอบมากเลยค่ะ เดินในน้ำอุ่นๆ ชมแสงสีสวยๆ ฟังเพลงไปเพลินๆ รู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ

ก่อนเข้ามาในห้องปลาคาร์ป จะเจอกับทางเดินนี้ เตรียมพร้อมลุยน้ำกันได้เลย!

ปลาคาร์ปหลากสีที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ

ตอนที่ปลาคาร์ปว่ายมาโดนตัวเราก็จะเปลี่ยนเป็นดอกไม้ด้วยนะคะ

รูปนี้เปลี่ยนเป็นเหมือนลำแสงสายรุ้ง สวยไปอีกแบบ

❝Matter is Void – Fire❞

เป็นงาน NFT Art (งานศิลปะบนโลกดิจิทัล) สามารถดาวน์โหลดได้นะคะ ผลงานนี้อยู่ในห้องเล็กๆ เชื่อมกับห้องปลาคาร์ป เวอร์ชั่นที่จัดแสดงนี้จะเขียนว่า “PAPER BURNS AS I WRITE”

ตัวหนังสือในจอจะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ มีเก้าอี้ให้นั่งชมศิลปะท่ามกลางน้ำด้วยค่ะ (ตูดก็จะเปียกหน่อย อิอิ)

❝Expanding Three-Dimensional Existence in Transforming Space – Flattening 3 Colors and 9 Blurred Colors, Free Floating❞

ชื่อผลงานยาวมาก ขอเรียกสั้นๆ ว่า “ห้องบอลลูน” นะคะ บอลลูนล่องลอยได้อย่างอิสระ เป็นห้องที่น่ารักมุ้งมิ้งดีค่ะ

ตัวบอลลูนเป็นสีขาว เปลี่ยนสีได้หลากหลายสีตามแสงไฟ

เราสามารถจับลูบบอลลูนได้ แต่สต๊าฟขอความร่วมมือไม่ให้ผลักบอลลูน ต้องระวังกระแทกไปโดนคนอื่นนะคะ

มีสารพัดสี ถ่ายรูปเพลินมาก

❝Floating in the Falling Universe of Flowers❞

มาปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับ “ห้องจักรวาลแห่งดอกไม้” กันค่ะ สามารถนอนชมกันได้ตามสบายเลย ธีมของงานศิลปะนี้เป็นดอกไม้ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ผลิดอกและร่วงหล่นไปตามกาลเวลา

จอภาพขนาดใหญ่แบบ 360 องศา สามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง

ห้องนี้เป็นห้องสุดท้ายก่อนที่จะออกไปชมโซนสวนด้านนอกค่ะ จะนอนเล่นชิลๆ ก็ได้ แต่ว่าถ้านอนดูนานๆ ก็แอบมึนนะคะ เพราะภาพที่ฉายให้ความรู้สึกเหมือนห้องมันหมุนได้เลยค่ะ

Garden Area

หลังจากชมส่วนของ Water Area เราก็จะวนกลับมาที่ห้องล็อคเกอร์อีกครั้ง จากนั้นเราก็กลับเข้าไปทางเดิมกับในตอนแรก แต่เลี้ยวไปอีกทางเพื่อไปชมโซน Garden Area กันต่อ ซึ่งก่อนเข้าไปชมสวนจะมีรองเท้าแตะให้สวมนะคะ

❝Moss Garden of Resonating Microcosms – Solidified Light Color, Sunrise and Sunset❞

ขอตั้งชื่อให้ว่า “สวนมอสน้องไข่” เป็นสวนมอสแบบกลางแจ้ง กลางวันน้องไข่เป็นสีเงินๆ สะท้อนกับแสงแดด ส่วนตอนกลางคืนน้องไข่จะเปล่งแสงเองได้ ใครอยากชมสวนนี้แบบอลังการ แนะนำว่าให้มาตอนที่พระอาทิตย์ตกดินแล้วนะคะ

มองด้วยตาเหมือนตัวน้องไข่จะเป็นเหล็กๆ หนักๆ แต่จริงๆ แล้วน้ำหนักเบา สามารถจับและดันได้ค่ะ

❝Floating Flower Garden: Flowers and I are of the Same Root, the Garden and I are One❞

“สวนกล้วยไม้ลอยฟ้า” เป็นอีกผลงานไฮไลท์ของที่นี่ ตอนขึ้นรถไฟในโตเกียวเราจะเห็นป้ายโฆษณาของ teamLab Planets TOKYO เป็นรูปสวนนี้เลยค่ะ แต่สวนนี้ไม่ใช่สวนกล้วยไม้ธรรมดานะคะ เพราะสามารถขยับขึ้นลงได้เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศนั่นเอง

สต๊าฟจะปล่อยให้เข้าเป็นกลุ่มๆ ช่วงคนเยอะก็ต้องรอคิวกันหน่อย พอได้เข้ามาด้านในสวนก็จับจองมุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย

กล้วยไม้ลอยฟ้า

มีเวลาให้ถ่ายรูปอยู่พักนึงก่อนที่สต๊าฟจะเคลียร์คนออก แล้วให้กลุ่มใหม่เข้ามาค่ะ แบบว่าแชะๆ รูป ยังไม่ทันไร ต้องออกมาละ ใครยังไม่หนำใจก็วนมาต่อคิวใหม่ก็ได้นะคะ

ดอกกล้วยไม้

น้องกล้วยไม้แบบซูมๆ

Public Area

โซนสุดท้ายจะรีวิวในวันนี้คือ Public Area ซึ่งไม่มีการเก็บค่าเข้าชมนะคะ เพราะเป็นโซนที่อยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์นั่นเอง หุหุ โซนนี้ประกอบไปด้วยที่ซื้อตั๋ว ร้านขายของ และยังมีงานศิลปะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วยค่ะ

❝The Universe of Fire Particles Falling From The Sky❞

เป็นเสาที่มีไฟลุกอยู่ด้านใน เราสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ชื่อว่า “Distributed Fire” พอเปิดเข้าไปไฟก็จะลุกอยู่ในสมาร์ทโฟนของเรา ซึ่งเราสามารถนำผลงานชิ้นนี้กลับบ้านได้ แถมยังไปจุดไฟให้กับคนอื่นๆ ต่อได้ด้วยผ่านแอปฯ นี้ค่ะ

teamLab Flower Shop

เป็นร้านขายดอกไม้และของที่ระลึก ผู้เยี่ยมชมสามารถซื้อกล้วยไม้ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์กลับบ้านได้ที่นี่นะคะ

Vegan Ramen UZU Tokyo

ร้านราเมงวีแกนจากเกียวโต มีขายทั้งอาหารคาวที่ปราศจากเนื้อสัตว์และของหวานอย่างไอศกรีมวีแกนและโดนัท รวมทั้งชาเขียวและเครื่องดื่มต่างๆ รูปนี้ถ่ายตอนร้านยังไม่เปิดนะคะ ร้านจะเปิดช้ากว่าเวลาทำการของพิพิธภัณฑ์ประมาณ 1 ชั่วโมงค่า พอเที่ยวตอนบ่ายกว่าๆ เสร็จแอดมินก็มากินมื้อเที่ยงที่นี่เลยจ้า แบบว่าหิวจัดลืมถ่ายรูปร้านตอนที่เปิดแล้วเลย เอิ๊ก~

Miso Vegan Ramen (Spicy) 1,320 เยน

Vegan Ice Cream 660 เยน

ซ้าย: Classic GREEN TEA teamLab Office Blend (HOT) 550 เยน
ขวา: Cold brew GREEN TEA with YUZU 550 เยน

One Stroke Bench

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีม้านั่งสุดเก๋ไก๋แบบแปรงสโตรกเดียวไร้รอยต่อ ดูคล้ายๆ รางรถไฟ จะใช้นั่งเล่น หรือซื้ออาหารมานั่งกินตรงนี้ก็ได้จ้า

ส่งท้าย

teamLab Planets TOKYO เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวที่แนะนำเลยค่ะสำหรับคนที่ชอบงานอาร์ทๆ และชอบถ่ายรูป แนะนำว่าควรพาเพื่อนมาช่วยถ่ายรูปด้วย จะได้มีรูปสวยๆ อลังๆ กลับมาอวดชาวโซเชียล!

ทั้งนี้ teamLab Planets TOKYO ที่โทโยสุนี้มีกำหนดจะเปิดถึงปลายปี 2023 แต่ตอนนี้ได้ขยายระยะเวลาให้บริการไปจนสิ้นปี 2027 แล้วนะคะ และยังมีการเพิ่มการจัดแสดงผลงานชิ้นใหม่อย่าง “Ephemeral Solidified Light” (ชีวิตคือผลึกแสงอันไม่จีรัง) ที่ให้เราลุยน้ำเข้าไปสัมผัสแสงไฟแต่ละดวงที่ลอยอยู่กลางอากาศ และยังมีการปรับเปลี่ยนการจัดแสดงผลงานอีกหลายอย่างด้วยนะคะ

ส่วน teamLab Borderless ที่เคยเปิดที่โอไดบะ จะย้ายมาเปิดที่ Azabudai Hills ซึ่งเป็นโปรเจ็คตึกระฟ้าใหม่ในย่านโทระโนะมงที่อยู่ใกล้ๆ กับโตเกียวทาวน์เวอร์ โดยมีกำหนดการจะเปิดให้บริการในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024 ที่จะถึงนี้ค่ะ เริ่มเปิดขายตั๋วเข้าชมตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2024 [จองตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ได้ที่นี่]

ค้นหาและเทียบราคาที่พักในโตเกียว

บทความเที่ยวโตเกียว

› การเดินทาง
› เที่ยวจุดชมวิวและสวนสาธารณะ
› เที่ยววัดและศาลเจ้า
› เที่ยวแหล่งช้อปปิ้ง
› เที่ยวสวนสนุก

+ ดูบทความเที่ยวโตเกียวทั้งหมด

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com