[รีวิว] ร้าน Tairyoumaru Sakaiminato ทานซูชิและปูยักษ์ในจังหวัดทตโตริ

สวัสดีค่า รีวิวนี้เราจะพาไปทานอาหารทะเลสดๆ เป็นมื้อเที่ยงที่ร้าน Tairyomaru Sakaiminato (ไทเรียวมารุ ซาไกมินาโตะ) ในจังหวัดทตโตริ (Tottori) ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดปลาที่เราเคยรีวิวไปเมื่อครั้งก่อนค่ะ ใกล้จนสามารถเดินได้ และอย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าร้านอาหารทะเลในสถานที่ใกล้ๆ กับทะเล ท่าเรือ หรือตลาดปลา อาหารจะมีความสดใหม่และราคาย่อมเยาค่ะ ว่าแล้วไปดูกันเลยดีกว่าค่า!

เกี่ยวกับร้าน Tairyomaru Sakaiminato

Tairyomaru Sakaiminato (大漁丸 境港店) เป็นร้านซูชิและอาหารทะเล ตั้งอยู่ที่เมืองซาไกมินาโตะ (Sakaiminato) ในจังหวัดทตโตริ (Tottori) โดยอยู่ใกล้กับศูนย์จำหน่ายปลาซาไกมินาโตะ (Sakaiminato Fish Center) เมนูที่ได้รับความนิยมของร้านก็คือซูชิ ซึ่งสามารถสั่งอาหารโดยใช้แท็บเล็ต สะดวกต่อคนที่ไม่สันทัดภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ตอนที่เราไปทานอาหารคนหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,000 เยน ขึ้นอยู่กับจำนวนและเมนู ซึ่งถึงว่าเป็นราคาไม่แพงเลยค่ะ

• ที่อยู่:
  • 280-1 Takenouchidanchi, Sakaiminato, Tottori 684-0046
• เวลาทำการ:
  • 11:00 – 15:00 น. (L.O.14:30 น.)
  • 17:00 – 21:00 น. (L.O.20:30 น.)
• ราคาอาหาร:
  • ซูชิเริ่มต้นคู่ละ 126 เยน (มีหน้าซูชิประมาณ 30 – 40 หน้าให้เลือก)
    ※ราคาเพิ่มขึ้นตามความพรีเมี่ยมของเนื้อปลา
• วิธีการเดินทาง:
  • จากสถานี Amariko เดินต่อประมาณ 30 นาที หรือนั่งแท็กซี่ ค่าโดยสารประมาณ 1,200 เยน
    ※จากสถานี Tottori ให้นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Yonago แล้วต่อรถไฟสาย JR Sakai Line มาลงที่สถานี Amariko ใช้เวลาประมาณ 120 – 200 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถไฟ)

รีวิวซูชิที่ร้าน Tairyomaru Sakaiminato

เนื่องจากก่อนหน้านี้เราอยู่ที่ศูนย์จำหน่ายปลาซาไกมินาโตะ (Sakaiminato Fish Center) เดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงร้าน Tairyomaru แล้วนะคะ ซึ่งในละแวกเดียวกันก็มีร้านอาหารเรียงรายกันไปแล้วแต่เราจะเลือกค่ะ ร้านที่เราเลือกกันก็ใหญ่พอสมควร มีรูปซูชิอันเบ้อเร่อติดอยู่หน้าร้าน น่าจะหาง่ายที่สุดแล้วค่ะ

ด้านบนยังมีโฆษณาว่าที่ร้านนี้มีข้าวที่ผลิตภายในประเทศ (เขาต้องการจะโฆษณาว่าใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ อร่อยแม้กระทั่งข้าวเลยนะ อะไรประมาณนั้น) ถึงแล้วก็เดินเข้าด้านในโลดค่ะ

พอเดินเข้าร้านมาก็จะเห็นภายในร้านทั้งหมด ด้านหน้าร้านส่วนใหญ่เป็นเคาน์เตอร์ ด้านในเป็นแบบโต๊ะนั่งทานค่ะ ซึ่งแต่ละที่นั่งจะมีการวางทั้งเครื่องปรุงและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการบริการตัวเองเอาไว้เรียบร้อย ด้านบนเป็นแก้วน้ำชา เติมผงจากกระปุกชาเขียวในถาดเครื่องปรุง แล้วเติมนำร้อนที่แท่นกดน้ำร้อนที่มีหัวจุกสีดำค่ะ แต่อย่าจับท่อนะคะ มันร้อนนะคะ จานเล็กๆ สำหรับใส่โชยุ และมีวาซาบิให้หยิบตามสะดวกค่ะ ใครเลี่ยนก็มีขิงดองวางให้เติมได้ตลอด

ส่วนการสั่งอาหารใช้เป็นแท็บเล็ตค่ะ มีทั้งรูปและชื่อติดเอาไว้ให้ สะดวกสำหรับคนต่างชาติมากๆ แต่อย่าสั่งมั่วนะคะ เพราะว่าสั่งไปแล้วข้อมูลจะส่งเข้าไปที่ครัวโดยตรงเลย จะแคนเซิลก็คงไม่ทันค่ะ

คนที่ไม่อยากใช้แท็บเล็ตเพราะไม่ถนัดเทคโนโลยี ก็เรียกพนักงานแล้วจิ้มตามรูปก็ได้ค่ะ คนญี่ปุ่นสมัยก่อนเขามีแต่เมนูแขวนแบบรูปด้านบนค่ะ เคยไปร้านแบบนี้อยู่ครั้งสองครั้งเหมือนกัน สั่งไม่ค่อยถนัดค่ะ อ่านออกบ้าง ไม่ออกบ้าง แต่ว่าตัวอักษรชื่อปลาและชื่ออาหารนี่คือยากทุกตัว จริงๆ ยอมแพ้กลับไปใช้แท็บเล็ตยังง่ายกว่าอีก 555

ส่วนตัวเราไม่ได้สั่งซูชิแบบเป็นคู่ทั่วไปค่ะ แต่สั่งจากเมนูแค่หน้าละ 1 คำ พ่อครัวก็จะทำให้ครบทุกหน้าแล้วเสิร์ฟทีเดียวแบบนี้ค่ะ การเสิร์ฟไม่ตายตัว เราก็ไม่ได้ทานซูชิหน้าที่ประหลาดมากมายนะคะ ก็มีพวกหมึก ปลาทูน่า (โทโร่) ปลาไหล แซลมอน กุ้ง และอื่นๆ รวมกันประมาณ 10 คำค่ะ ไม่มากไม่น้อย

เสิร์ฟพร้อมกับสลัดเนื้อปู ง่ายๆ แต่อร่อย ถ้าจะหาร้านที่เสิร์ฟสลัดเนื้อปูที่ในเมืองอย่างโตเกียวนั้นไม่ง่ายเลยนะคะ ลาบปากดีแท้ มาถึงที่ต้องได้กิน!

มาซูมดูเนื้อโทโร่นุ่มๆ (เนื้อติดไขมันส่วนท้องของปลาทูน่า) กันบ้างนะคะ คือชิ้นเนื้อหนา สีชมพูออมแดงสวยงาม พอกัดเข้าไปคือนุ่มลิ้นเกินบรรยายค่ะ (เว่อร์มาก 555) จริงๆ แล้วเราเป็นคนที่ชอบทานโทโร่มากๆ เพราะว่าเนื้อนุ่มแต่ไม่เละ ก็จะประทับใจเป็นพิเศษค่ะ ถ้าทานที่โตเกียวเราจะได้เนื้อบางและชิ้นเล็กกว่านี้มากในราคาพอๆ กัน

อีกหน้าก็คือปลาไหลค่ะ นุ่มลิ้นอีกเหมือนกัน และยังหอมซอสที่ราดลงบนปลาไหลด้วย แทบไม่ต้องจิ้มโชยุเลย ก็มีรสชาติแล้วค่ะ ทั้งจานใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ฮ่าๆ

ปิดท้ายด้วยพระเอกของเราค่ะ ที่ไม่สั่งซูชิเยอะก็เพราะเหตุนี้เลย คือเขาจะเสิร์ฟปูทั้งตัวมาให้เราแบบนี้เลย เบ้อเร่อเลยค่ะ ตอนกินก็ต้องค่อยๆ ใช้กรรไกรตัดแล้วแงะเนื้อออกมาทานนะคะ ตอนทานปูใช้เวลานานกว่าทานปลาเยอะเลยค่ะ ฮ่าๆ เนื้อปูจะหวานๆ หน่อย แม้ว่าจะไม่ใช่ปูซูไวก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ (ไม่ใช่ฤดูกาลปูซูไว) กว่าเราจะหาทานแบบนี้ได้ก็ต้องเป็นแหล่งที่เขาจับปูจับปลากันนี่แหละค่ะ

ปูจ๋าพี่มาแล้วจ้ะ

ส่งท้าย

บอกเลยว่าฟินสุดๆ อิ่มอร่อย สบายกระเป๋า เซ็ตใหญ่แบบนี้ก็ประมาณ 2,500 – 3,000 ค่ะ ถ้าทานที่เมืองหลวงก็ไม่ต่ำกว่า 4,500 หรือ 5,000 เยน แต่ถ้าไม่ทานปูแล้วก็สามารถอร่อยแบบประหยัด มื้อละประมาณ 900 – 1,000 เยน/คน ฝากเอาไว้เพียงเท่านี้สำหรับการรีวิวร้านซูชินะคะ คนเขียนก็เขียนไปด้วยหิวไปด้วยแล้วค่ะ ขอตัวไปเสิร์ชหาร้านซูชิเลิศๆ แถวนี้ทานสักหน่อยะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าสวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยว Gosho Aoyama Manga Factory พิพิธภัณฑ์โคนันในจังหวัดทตโตริ