การมาเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ซึ่งเป็นหมู่บ้านมรดกโลกชื่อดังของญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อนที่ทุ่งนาเขียวๆ นั้นเป็นหนึ่งในความฝันของแอดมินเลยค่ะ เราว่าช่วงที่ต้นข้าวกำลังเขียวชะอุ่มเต็มทุ่งอย่างนี้ ดูแล้วสดชื่นมากๆ อีกทั้งอากาศก็ยังไม่ร้อนมาก เพราะเป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขาสูง สามารถเดินเที่ยวได้ชิลๆ ไม่ต้องห่วงกับสภาพอากาศมากนัก อย่างในช่วงที่มีหิมะตกจนหนาในหน้าหนาว อาจทำให้การท่องเที่ยวนั้นไม่สะดวกสบายเท่า

สำหรับคนที่อยากจะชมบรรยากาศในช่วงหน้าร้อนของหมู่บ้านแห่งนี้ว่าจะฟินแค่ไหน วันนี้เราก็เอารีวิวการเที่ยวชิราคาวาโกะในช่วงต้นเดือนกันยายนมาฝากเพื่อนๆ กันนะคะ เป็นช่วงปลายๆ หน้าร้อน เตรียมเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศกำลังดีเลยทีเดียวค่ะ

เกี่ยวกับหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go / 白川郷) เป็นส่วนหนึ่งของ หมู่บ้านชิราคาวะ (Shirakawa-mura / 白川村) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือในจังหวัดกิฟุ (Gifu) ของภูมิภาคชูบุ (Chubu) ก่อตั้งเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1919 ประกอบด้วย 16 หมู่บ้าน โดยโซนที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั้นคือ “หมู่บ้านโอกิมาจิ (Ogimachi / 荻町)” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักในชื่อ “หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)” นั่นเอง

เอกลักษณ์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากของที่นี่ก็คือ บ้านญี่ปุ่นโบราณมีหลังคาทรงสูงแบบการพนมมือที่เรียกว่า “Gassho-Zukuri (合掌造り)” ซึ่งมีอายุเก่าแก่นับร้อยปีและยังได้รับการอนุรักษ์มาเป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้บ้านต่างๆ ยังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชม และเปิดให้นักท่องเที่ยวค้างคืนแบบ Homestay ซึ่งเรียกว่า “Minshuku (民宿)” อีกด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: shirakawa-go.gr.jp (ภาษาอังกฤษ)

ประวัติความเป็นมา

ชื่อของ “ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)” ปรากฏอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1176 สำหรับบ้านเรือนสไตล์ Gassho-Zukuri ที่เห็นในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1800 ซึ่งอยู่ในช่วงยุคเอโดะ (Edo) โดยบ้านที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุมากกว่า 300 ปี

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ในปี ค.ศ. 1995 ควบคู่กับหมู่บ้านโกคายามะ (Gokayama) ของจังหวัดโทยามะ (Toyama) ภายใต้ชื่อ “หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิรากาวาโกและโกคายามะ (Historic Villages of Shirakawa-go and Gokayama)” และกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในแถบภูมิภาคนี้ที่หลายคนอยากมาเยือน

ฤดูการท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงที่แนะนำเป็นพิเศษก็มีดังนี้

  • ฤดูหนาว: เป็นช่วงพีคที่สุด เพราะเป็นช่วงที่หมู่บ้านมีหิมะสีขาวปกคลุมอย่างสวยงาม และมีช่วงประดับไฟ (Shirakawago Winter Light-Up) ในระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ (จะมีการประกาศวันที่แน่นอนในแต่ละปี)
  • ฤดูใบไม้ผลิ: มีไฮไลท์อยู่ที่ช่วงปลายเดือนเมษายน – ต้นพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ซากุระบานสีชมพูหวานๆ กำลังบานสะพรั่ง
  • ฤดูร้อน: ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนกันยายนเป็นช่วงที่ทุ่งนาและต้นไม้กำลังเขียวชะอุ่ม มีดอกไม้สีสันสดใส อากาศกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป
  • ฤดูใบไม้ร่วง: ช่วงที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ที่ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่หมู่บ้านแต่งแต้มไปด้วยใบไม้หลากสีสันอันสวยงามมากๆ

วิธีการเดินทางมายังชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

Shirakawa-go Bus Terminal
Shirakawa-go Bus Terminal

วิธีการเดินทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมายังหมู่บ้านชิราคาวาโกะ คือ การนั่งรถบัสจากเมืองใกล้เคียงมาลงที่ Shirakawa-go Bus Terminal [ดูแผนที่] หรือ รถส่วนตัวซึ่งสามารถเช่าได้จากเมืองต่างๆ ซึ่งในบทความนี้จะขอแนะนำในส่วนของการเดินทางด้วยรถบัสจากเมืองหลักๆ ดังนี้

การเดินทางจากเมืองทาคายาม่า (Takayama)

นั่งรถบัสจากท่ารถ Takayama Nohi Bus Center ใช้เวลาประมาณ 50 นาที มีรถออกทุกชั่วโมง [ดูตารางเวลาได้ที่นี่]

ข้อมูลเพิ่มเติม: [รีวิว] การเดินทางจากทาคายามาไปชิราคาวาโกะ (Takayama → Shirakawa-go) ด้วยรถบัส

การเดินทางจากเมืองคานาซาว่า (Kanazawa)

นั่งรถบัสจากหน้าสถานี JR Kanazawa ใช้เวลาประมาณ 75 นาที มีรถออกเกือบทุกชั่วโมง [ดูตารางเวลาได้ที่นี่]

ข้อมูลเพิ่มเติม: [รีวิว] การเดินทางจากคานาซาว่าและชิราคาวาโกะ (Kanazawa ↔ Shirakawa-go) ด้วยรถบัส

การเดินทางจากเมืองโทยาม่า (Toyama)

นั่งรถบัสจากหน้าสถานี JR Toyama ใช้เวลาประมาณ 120 นาที มีรถออก 4 เที่ยวต่อวัน [ดูตารางเวลาได้ที่นี่]

รีวิวเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

เราเดินทางจากเมืองทาคายาม่า มายังหมู่บ้านชิราคาวาโกะด้วยพาส SHORYUDO Highway Bus Ticket นะคะ ไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารรถบัสเพิ่มเลย เรามาถึงที่หมู่บ้านตอน 4 โมงเย็น ถ้าใครยังไม่มีแผนที่ก็เข้าไปหยิบได้ที่ด้านในท่ารถบัส Shirakawa-go Bus Terminal นะคะ [หรือดาวโหลดที่นี่] จากนั้นเราก็เดินเข้าไปในหมู่บ้านกันเลยค่ะ จากท่ารถบัสก็ให้ข้ามทางม้าลายตามรูปด้านบนแล้วเดินตรงเลาะไปตามถนนค่ะ

ร้าน Irori
(いろり)

เดินเลาะมาตามถนนจากท่ารถบัสก็จะเจอร้าน Irori (いろり) เป็นร้านอาหารท้องถิ่นของชิราคาวาโกะ อย่างเช่น เนื้อฮิดะย่างบนโฮบะมิโซะ เต้าหู้ย่าง และร้านของฝากซึ่งเป็นของสินค้าพื้นเมืองในแถบนี้

  • เวลาทำการ: 10:00 – 14:00 น.
  • วันหยุด: ไม่กำหนดแน่นอน

เดินต่ออีกนิดจะเจอทางแยก ตรงริมถนนซ้ายมือที่เห็นนี้คือจุดขึ้น Shuttle Bus ไปยังจุดชมวิวด้านบนนะคะ เดี๋ยวเราจะมารีวิวกันอีกที แต่ตอนนี้เราจะมุ่งหน้าไปที่ Minshuku ที่จองไว้ซึ่งจะต้อง Check-in ก่อน 5 โมงเย็นค่ะ

ร้าน Okesa
(民芸品店おけさ)

ยังพอมีเวลาให้เดินเตร็ดเตร่อยู่ ก็แวะถ่ายรูปซะหน่อย ตรงนี้คือสวน Ogimachi Park (荻町公園) และมีร้านขายของฝาก Okesa (民芸品店おけさ) อยู่ด้วยค่ะ สินค้าก็เป็นงานฝีมือและสินค้าพื้นเมือง

  • เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
  • วันหยุด: ไม่กำหนดแน่นอน

ร้าน Ebisuya
(恵びす屋)

เดินตามถนนขึ้นมาอีกจนเจอร้าน Ebisuya (恵びす屋) ซึ่งเป็นร้านขายของฝากขนาดใหญ่อีกร้าน เป็นพวกงานฝีมือพื้นบ้านและขนมต่างๆ จากนั้นเราก็เลี้ยวซ้ายกันตรงนี้ค่ะ

  • เวลาทำการ: 9:30–16:30 น.

วัด Myozenji Temple
(明善寺)

วัด Myozenji Temple (明善寺) อยู่ตรงที่เห็นเป็นซุ้มประตูที่มีระฆังนะคะ และก็ยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ Myozenji Temple Museum (明善寺郷土館) ที่เปิดให้เยี่ยมชมประวัติศาสตร์

  • เวลาทำการ:
    • เมษายน – พฤศจิกายน 8:30 – 17:00
    • ธันวาคม – มีนาคม 9:00 – 16:00
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 200 เยน

เจอกับทุ่งนาเขียวๆ มาเยอะแล้ว เพิ่งเจอแปลงดอกไม้สีอื่นตรงแปลงหน้าบ้านหลังนี้

ที่พัก Hisamatsu
(久松)

ถึงแล้วค่า~ บ้าน Hisamatsu (久松) เราจะค้างคืนกันที่นี่ค่ะ ตกคนละ 9 พันกว่าเยน มีอาหารให้มือเย็นกับมื้อเช้า (เยอะมากและอร่อยมาก) และนอนกันบนฟูกในห้องเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่นด้วยค่ะ ใครอยากดูรายละเอียดการจองและรีวิวที่พักแบบ Minshuku ที่ชิราคาวาโกะแห่งนี้ สามารถอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ » [รีวิว] Hisamatsu ที่พักแบบ Minshuku (Homestay) หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

  • ราคา: ประมาณคืนละ 9,000 – 13,000 เยน/คน
  • จำนวนห้องพัก: 4 ห้อง
  • เวลา Check-in: ก่อน 17:00 น.
  • เวลา Check-out: ก่อน 9:00 น.

หลังจากเช็คอิน Check-in พักทานขนมและชาที่บ้านแล้ว ยังพอมีเวลาเที่ยวเล่นในช่วงรอทานอาหารเย็นค่ะ เราก็ออกมาเที่ยวในหมู่บ้านชิราคาวาโกะกันต่อเลยจ้า โดยจะไปที่สะพานแขวนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพัก ทุกนานีมีค่า ต้องใช้ให้คุ้ม อิอิ

ร้าน Oishinbo
(おいしんぼ)

ก่อนจะเจอกับสะพานแวนก็ต้องเดินผ่านตรอกข้างๆ ร้านของฝาก Oishinbo (おいしんぼ) และศาลเจ้า “Akiba Shrine (秋葉神社)” นี้ค่ะ

  • เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
  • วันหยุด: ไม่กำหนดแน่นอน

สะพาน Deai-bashi
(であい橋)

แต่ก่อนรถบัสที่จะมายังหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ก็จะมาจอดอีกฝั่งของสะพานแขวน Deai-bashi (であい橋) นี้ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนที่จอดไปแล้วมาจอดที่เดียวกับฝั่งหมู่บ้าน แต่อีกฝั่งของสะพานนี้ก็ยังมีที่สำหรับจอดรถยนต์สำหรับคนที่ขับรถมาเที่ยว รวมถึงยังมีพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วยค่ะ แต่ว่าตอนที่ไปเป็นช่วงหลัง 5 โมงแล้ว ซึ่งพิพิธภัณฑ์ได้ปิดเรียบร้อยแล้ว เราเลยยังไม่ได้ข้ามไปฝั่งนั้น แต่ช่วงนี้ก็คนไม่ค่อยเดินมาแล้ว สามารถถ่ายรูปกันได้สบายๆ เลยค่ะ

ตรงนี้คือแม่น้ำโชกาวะ (Shogawa 庄川) ซึ่งถ่ายจากบนสะพานแขวน ลิบๆ ก็เห็นมีบ้านอยู่ เดี๋ยวเราจะไปยังโซนนั้นค่ะ เพื่อไปตามหาบ้านสามหลังที่คนชอบไปถ่ายรูปกัน เราต้องข้ามกลับมาทางเดิม แล้วเดินไปตามถนนหลักของหมู่บ้านนะคะ ถ้าดูจากแผนที่ก็จะเรียกว่า Kanmachi (かん町) หรือใน Google Map ก็จะปักหมุดว่า “บ้านสามหลังชิราคาวาโกะ” เลยค่ะ

ระหว่างเดินไปตามถนนก็จะเห็นสะพาน Deai-bashi จากอีกมุมด้วยค่ะ

เดินไปไกลกันพอสมควรเลยค่ะ บนถนนก็ไม่มีรถ ไม่มีคนเลย เพราะเย็นแล้วด้วย

Shirakawago Three Houses
(三小屋)

จากที่จินตนาการไว้ว่าถ้าเดินไปตามถนนก็จะเจอมุมของบ้านสามหลังชิราคาวาโกะนี้อยู่ตรงหน้า สรุปว่าความเป็นจริงมันไม่ใช่ค่ะ คือเราเดินมาจนถึงตรงที่ไม่มีบ้านคนแล้ว แต่ก็ยังหาบ้านสามหลังนั้นไม่เจอ บรรยากาศก็ค่อนข้างวังเวงเลยค่ะ เลยตัดสินใจเลี้ยวกลับ ปรากฏว่ามองเห็นบ้านเรียงกันอยู่ โป๊ะเชะ! มุมนี้ละค่ะ (เกือบไปแล้ว ฮาาา) และเราก็ได้ภาพมุมยอดฮิตของหมู่บ้านชิราคาวาโกะมาเป็นอันเรียบร้อย คืนนี้นอนหลับฝันดีแล้วค่ะ พรุ่งนี้ค่อยไปเก็บภาพมุมสูงของหมู่บ้านต่อ อิอิ

แป๊บๆ ก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นตอน 6 โมงแล้วค่ะ ก็รีบจ้ำกันหน่อย จากตรงบ้านสามหลังเดินกลับเข้ามากลางหมู่บ้านก็ใช้เวลากันประมาณ 10-15 นาทีได้ค่ะ ไกลพอสมควร แต่ก็คุ้มค่าที่จะเดินไปนะคะ พอกลับถึงบ้านพัก วางกระเป๋า คุณป้าเจ้าของบ้านก็เรียกทานข้าวพอดีเลยค่ะ (ยังไม่ได้ล้างไม้ล้างมือเลย เอิ๊ก)

ได้เห็นมื้อเย็นก็ต้องร้องว้าว~~~ เลยค่ะ อลังการมากกก ส่วนของเนื้อที่อยู่บนเตานั้นปกติจะต้องเป็นเนื้อวัวค่ะ แต่เรารีเควสไปตอนจองว่าไม่ทานเนื้อวัว เค้าเลยเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูให้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีทั้งปลาย่าง ขอทอด และเครื่องเคียงอีกเต็มไปหมด มื้อนี้อิ่มกันพุงกางเลยค่ะ

เติมพลังแล้วก็ออกมาถ่ายรูปตอนกลางคืนเสียหน่อย มาแล้วต้องเอาให้คุ้ม ปรากฏว่าข้างนอกบ้านมืดตึ้ดตื๋อ มองไม่เห็นอะไรเลย เลยถ่ายแค่ภาพของหน้าบ้านพักมาค่ะ จากนั้นก็กลับเข้าบ้านไปอาบน้ำนอนเอาแรงไว้พรุ่งนี้ค่ะ

เช้าแล้วก็มาลุยกันต่อโลด~~~ อาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟตอน 7 โมงครึ่ง มื้อนี้ก็อร่อยอีกแล้ว อิ่มจนพุงกางอีกเช่นเคย มิโสะที่อยู่บนเตาอร่อยมากกก

พอ Check-out จากที่พักแล้ว เราก็แบกกระเป๋าออกจากบ้านพักมาเลยค่ะ ว่าจะไปฝากตรงท่ารถบัส ระหว่างทางเจอฝาท่อของหมู่บ้านก็ต้องแชะภาพมาซะหน่อย ตอนเช้าก็ยังหนาวๆ แต่พอเดินไปเจอแดดแป๊บเดียว ใส่เสื้อยืดแขนสั้นตัวเดียวเดินยังรู้สึกว่าร้อนเลย ฮาาา

บ้านเรือนในหมู่บ้านก็มีแบบทรงธรรมดาและทรง Gassho-zukuri นะคะ

เดินมาเจอจุดนี้น่ารักมุ้งมิ้งมาก เป็นอีกจุดที่แนะนำให้มาถ่ายรูปเลยค่ะ ถ้าดูในแผนที่ของหมู่บ้านก็อยู่แถวๆ ร้าน Nomura (そば処 乃むら) นะคะ

เดินลัดเลาะตามถนนมาจนถึงถนนสายหลัก พอมองขึ้นไปด้านบน ก็จะเห็นหลังคาบนเนินเขา ตรงนั้นคือจุดชมวิวมุมสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการท่องเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่เรากำลังจะมุ่งหน้าไปกันค่ะ

ท่ารถ Shirakawa-go Bus Terminal
(白川郷バスターミナル)

แต่ว่าเรายังมีกระเป๋าสัมภาระอันหนักอึ้งอยู่ เลยแวะเอามาฝากที่ตู้ล็อคเกอร์ตรงท่ารถบัส Shirakawa-go Bus Terminal ก่อนนะคะ

ตู้ล็อคเกอร์มีแต่ไซส์ใหญ่ๆ มีให้เลือก 2 ไซส์ สามารถใส่เป้ใหญ่ๆ หรือ กระเป๋าเดินทางได้สบายๆ ช่องเล็กราคา 600 เยน ส่วนช่องใหญ่ราคา 800 เยน เมื่อฝากกระเป๋าจนตัวเบาแล้วก็มาเที่ยวกันต่อค่ะ เนื่องจากรถ Shuttle Bus ไปจุดชมวิวยังไม่มา เลยแวะมาถ่ายรูปตรงหน้าบ้าน Wada House ที่อยู่ใกล้ๆ จุดขึ้นรถกันก่อน ถ้าจะเข้าไปดูในบ้านมีค่าเข้าชม

บ้าน Wada House
(和田家)

บ้านหลังนี้เป็นบ้านสไตล์ Gassho-Zukuri ที่ใหญ่ที่สุดในชิราคาวาโกะ สร้างในช่วงปี ค.ศ. 1800 เมื่อเข้าภายในจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ และมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

  • เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 150 เยน

จุดขึ้นรถ Shuttle Bus อยู่ตรงริมถนนใกล้ๆ กับทางเข้าไปยังบ้าน Wada House นี่เลย สำหรับค่าโดยสารไปยังจุดชมวิวนั้น ผู้ใหญ่อยู่ที่ 200 เยน เด็ก 6-11 ขวบ 100 เยน อายุต่ำกว่านี้ขึ้นฟรีค่ะ การจ่ายเงินก็ให้จ่ายตอนลงรถนะคะ (คนขับมีทอนเหรียญให้ได้)

ตารางเวลาของ Shuttle Bus รถออกทุก 20 นาที เที่ยวแรกตอน 9 โมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

รถ Shuttle Bus จะมาจอดตรงจุดจอดด้านบนเนินเขา จากนั้นเราก็เดินมายังจุดชมวิว Shiroyama Tenshukaku Observatory กันได้เลยค่ะ

รีวิวจุดชมวิวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

จุดชมวิว Shiroyama Tenshukaku Observatory
(城山天守閣 展望台)

ด้านบนจุดชมวิว Shiroyama Tenshukaku Observatory ตรงจุดนี้ก็มีบริการถ่ายรูปให้ด้วย เสร็จแล้วก็จะไปปริ้นแปะอยู่ตรงซุ้มทางเข้าจุดชมวิว ใครอยากได้รูปต้องจ่ายเงิน 1,500 เยนนะคะ

สามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านชิราคาวาโกะได้ทั้งหมดเลย

ซูมเข้าไปอีกนิด เขียวมากๆ ทั้งทุ่งนา และภูเขา แดดดี ฟ้าสวย ลั้ลลา~

ตอนนี้แค่ 10 โมงนิดๆ คนยังมาเที่ยวกันไม่เยอะ

ร้านขายของฝากบนจุดชมวิว และข้างๆ ก็เป็นซุ้มที่ขายรูปที่ถ่ายตรงจุดชมวิวค่ะ

เสร็จแล้วก็มารอขึ้น Shuttle Bus กลับลงไปข้างล่าง จริงๆ จะเดินลงไปก็ได้ เค้าว่าใช้เวลาประมาณ 15 นาที แต่เห็นแดดเปรี้ยงอย่างนี้ขอบาย ยอมเสียตังค์ค่ารถอีกรอบค่ะ หุหุ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาด้วยรถบัส จะเดินทางมาถึงที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ กันตอนประมาณเกือบๆ 9 โมง และเท่าที่สังเกตทัวร์จะเริ่มมากันตอนประมาณ 11 โมงค่ะ ช่วงเช้าๆ นี้ก็เป็นโอกาสดีสำหรับคนที่พักที่หมู่บ้านในการเดินเที่ยวเช่นกันค่ะ

ส่งท้าย

ถ้าจะมาเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ในช่วงหน้าร้อนและอยากเห็นนาเต็มทุ่งนั้น จะเป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนค่ะ ส่วนช่วงใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ก็ประมาณเดือนพฤศจิกายน สำหรับหิมะฟูๆ ก็จะเป็นช่วงเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคมนะคะ ซึ่งถ้ามีโอกาสอีก เราก็อยากมาเที่ยวตอนหิมะฟูๆ ขาวๆ และมาดูการประดับไฟในตอนมืดค่ะ เห็นรูปคนอื่นแล้วสวยมากๆ คงจะฟินน่าดู (แต่ก็ต้องตบตีแย่งชิงในการจองน่าดู)

สำหรับวันนี้ก็ขอจบรีวิวเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะไว้เพียงเท่านี้ ในตอนหน้าเราจะพาไปรีวิว Hida no Sato หมู่บ้านสไตล์ Gassho-zukuri อีกแห่งที่เมืองทาคายาม่านะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] Hida no Sato (Hida Folk Village) หมู่บ้านพื้นเมืองที่ทาคายามา (Takayama)

เขียนเมื่อ Sep 28, 2017 
อัพเดทล่าสุด Jun 27, 2019

เทียบราคาโรงแรมที่พักในกิฟุ


รีวิวเที่ยวชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com