สวัสดีค่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงซากุระบาน เราจึงมีทริปเล็กๆ มาท่องเที่ยวชมซากุระในจังหวัดไซตามะซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับโตเกียวค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสบรรยากาศการชมซากุระแบบญี่ปุ่น จังหวัดไซตามะแห่งนี้ก็เป็นเมืองหนึ่งที่น่าสนใจเลยนะคะ เพราะมีที่ให้ชมซากุระหลายที่และคนก็ไม่หนาแน่นเท่ากับในโตเกียวด้วยค่ะ
เกี่ยวกับจังหวัดไซตามะ (Saitama)
ไซตามะ (Saitama) เป็นจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคคันโตติดกับเขตปกครองพิเศษโตเกียว ดังนั้นแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นต่างจังหวัด แต่ก็มีความเจริญไม่แพ้กับกรุงโตเกียว สถานที่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายก็คือ ไซตามะซุปเปอร์อารีน่า (Saitama Super Arena) ซึ่งเป็นที่จัดแข่งกีฬาและคอนเสิร์ต ส่วนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในไซตามะก็คือ เมืองชิชิบุ (Chichibu) ซึ่งมีเทือกเขาธรรมชาติที่สวยงาม เมืองโอมิยะ (Omiya) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองบอนไซ รวมถึงเมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าสมัยเอโดะ
โดยส่วนตัวเราแล้ว ไซตามะถือว่าเป็นเมืองที่ผสมผสานความเป็นสังคมเมืองและสังคมชนบทได้อย่างลงตัว กล่าวได้ว่า เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยสะดวกเช่นเดียวกับเมืองใหญ่อย่างโตเกียว แต่ค่าครองชีพ ตลอดจนสังคม วัฒนธรรม การใช้ชีวิตของคนในจังหวัดมีความน่ารัก อบอุ่นที่หาได้ยากให้เมืองใหญ่ๆ ค่ะ
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราลองเลือกมาพักค้างคืนที่เมืองนี้ซึ่งเราไม่เคยคาดคิดว่าจะได้รับความประทับใจจากเมืองนี้มาก่อนค่ะ ในทริปคราวนี้เราเลือกที่พักที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก อยู่ตรงสถานี Warabi ชื่อโรงแรมว่า “Wallaby House” ค่ะ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งในตัวเมืองโตเกียวได้อย่างสะดวก และยังสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในไซตามะได้สบายๆ อีกด้วยค่ะ
รีวิวในวันนี้เราขอเริ่มต้นตั้งแต่การเดินทางจากโตเกียวและเข้าพักในโรงแรม พร้อมภาพซากุระจากสวนใกล้ๆ โรงแรมนะคะ
การเดินทางจากโตเกียวมายังสถานี Warabi ในไซตามะ
การเดินทางจากโตเกียวนั้นใช้รถไฟสาย JR จากสถานี Tokyo หรือ Ueno เดินทางถึงที่พักภาย 22-25 นาที ด้วยรถไฟสาย JR Keihin Tohoku Line ลงสถานี Warabi สำหรับคนที่นั่ง Skyliner มาจากสนามบิน Narita ก็ลงที่สถานี Keisei Ueno และต่อรถไฟมาจากสถานี JR Ueno ได้เลย
หมายเหตุ การเดินทางทั้ง 2 เส้นทางสำหรับคนที่ถือพาสต่างๆ ของบริษัท JR อยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเลยค่ะ
หลายท่านอาจจะคิดว่าการพักต่างเมืองนั้นไกล แต่แท้จริงแล้ว เวลา 20 นาทีนั้นใช้เวลาๆ เดินทางพอๆ กับจากสถานี Ueno – Shinjuku เลยล่ะค่ะ ฉะนั้น เรื่องการเดินทางไปยังที่พักจึงไม่คิดว่าใช้เวลามากไป อีกทั้งรถไฟสายนี้วิ่งถึงดึกๆ (ประมาณเที่ยงคืนนิดๆ) การจะกลับดึกๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกเช่นกัน นอกจากนี้ที่พักที่อยู่ออกมานอกเมืองก็จะถูกกว่าในเมืองด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีพนักงานคนไทยด้วยค่ะ ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้ติดต่อสื่อสารได้ง่ายขึ้น หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะพาเราขึ้นไปที่ห้องแล้วแนะนำการใช้ข้าวของเครื่องใช้คร่าวๆ จากนั้นก็เป็นเวลาส่วนตัวของเราค่ะ
ห้อง 1 ห้องสามารถนอนได้สูงสุด 4 คนเลยนะคะ ก็ถือว่าเป็นการดีที่จะแนะนำให้เพื่อนๆ ที่มีปัญหาการหาห้องพักสำหรับชาวคณะและครอบครัวไว้เป็นตัวเลือกเวลามาเที่ยวค่ะ น่าจะช่วยแก้ปัญหาการหาที่พักสำหรับคนเยอะๆ ได้ดีทีเดียว (ดูรายละเอียดห้องพักต่างๆ ได้ที่ Wallaby House)
จากรูปด้านบนเป็นโซนห้องน้ำ ห้องส้วม และเครื่องซักผ้าให้ใช้ฟรี ไม่ต้องไปหยอดเหรียญ สำหรับคนที่มาเที่ยวนานๆ หรือสาวๆ ที่ไม่อยากปล่อยให้กระเป๋าอับชื้น ก็ซักและอบแห้งได้เลย ใช้ประโยชน์ได้คุ้ม และช่วยประหยัดเงินได้อีกเยอะเลยค่ะ
ราคาต่อห้องนี้อยู่ที่ 11,000 เยน 2 คน/ห้อง, ห้อง 4 คน 22,000 ต่อ/ห้อง หากมานั่งคิดเฉลี่ยเป็นรายคนแล้วจะอยู่ที่คนละ 1,500 – 1,600 บาท/คน/คืน (สามารถเช็คราคาที่แน่นอนและจองโรงแรมได้ที่ Wallaby House) เมื่อเทียบกับโรงแรมห้องที่เล็กกว่ามากและราคาก็ตกคืนละ 1,100 บาท/คืน/คน ขึ้นไป เผลอๆ ราคาอาจเท่ากันด้วย ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการพักเป็นกรุ๊ปที่ดีเลยค่ะ
เราเคยไปเที่ยวคาวาโกเอะมาก่อนหน้านี้แล้ว สามารถชมรีวิวได้จากรีวิวด้านล่างนี้นะคะ วันนี้ก็ขอลาไปเพียงเท่านี้ คราวหน้าเราจะมารีวิวทริปเที่ยวไซตามะช่วงซากุระกันต่อนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า
บทความเที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe)
・ [รีวิว] เที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe) #1 : การเดินทางย้อนอดีตสู่เมืองเอโดะน้อย
・ [รีวิว] เที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe) #2 : Hachimangu Shrine กับตำนานต้นแปะก๊วยคู่ยักษ์
・ [รีวิว] เที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe) #3 : ร้านขายของฝาก Koedo Kurari
・ [รีวิว] เที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe) #4 : Kitain Temple กับพระอรหันต์หินกว่า 500 องค์
・ [รีวิว] เที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe) #5 : Naritasan Temple, Kumano Shrine, Renkeiji Temple
・ [รีวิว] เที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe) #6 : ปิดท้ายทริปที่ถนนเมืองเก่า Kurazukuri Street
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในญี่ปุ่น
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com