สวัสดีค่าเพื่อนๆ แอดฯ มีโอกาสได้นั่งรถไฟด่วนจี๋ Keisei Skyliner จากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว ราคาตั๋วแพงหน่อย แต่ก็เนื่องจากขี้เกียจนั่งรถไฟแบบหวานเย็นนั่นเอง จึงอยากมารีวิวแชร์ประสบการณ์กันสักเล็กน้อย หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาวิธีเดินทางเข้าเมืองกันนะคะ
เกี่ยวกับ Keisei Skyliner
Keisei Skyliner (เคเซ สกายไลเนอร์) เป็นรถไฟด่วนพิเศษซึ่งให้บริการโดยบริษัท Keisei วิ่งตรงจากสนามบินนาริตะ (Narita Airport) เข้าเมืองโตเกียว (Tokyo) โดยจะจอดที่สถานีหลักๆ เพียง 2 สถานี คือ สถานี Nippori และสถานี Keisei-Ueno (มีบางขบวนจอดที่สถานี Shin-Kamagaya และ Aoto ด้วย)
การเข้าเมืองโตเกียวด้วย รถไฟ Keisei Skyliner ถือเป็นวิธีการเดินทางเข้าเมืองโตเกียวที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด รถไฟสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางเร็วที่สุดเพียง 41 นาทีไปยังสถานี Keisei-Ueno และ 36 นาที ไปยังสถานี Nippori (※นับระยะเวลาจากสถานี Narita Airport Terminal 2·3)
※Keisei Skyliner เป็นขบวนแบบจองที่นั่งล่วงหน้าก่อนขึ้นเท่านั้น
ตารางเวลา Keisei Skyliner
รถไฟ Keisei Skyliner มีรถไฟวิ่งให้บริการสูงสุดถึง 3 เที่ยว/ชั่วโมง โดยมีรถเที่ยวแรกให้บริการตั้งแต่ช่วง 7 โมงเช้า ไปจนถึง 5 ทุ่ม เส้นทางจะเริ่มจากสถานี Narita Airport Terminal 1 และต่อด้วยสถานี Narita Airport Terminal 2·3 มีบางขบวนจะแวะที่สถานี Shin-Kamagaya และ Aoto ก่อนที่จะวิ่งยาวมาที่สถานี Nippori และสุดสายที่สถานี Keisei-Ueno
ตรวจสอบตารางเวลา » Keisei Skyliner Timetable
ราคาตั๋ว Keisei Skyliner
ค่าโดยสารอัตราปกติ
สามารถซื้อตั๋ว Keisei Skyliner ราคาปกติได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วหรือตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่สถานี
ประเภท | ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ (12 ปี+) | ราคาตั๋ว เด็ก (6-11 ปี) |
---|---|---|
เที่ยวเดียว | 2,580 เยน | 1,290 เยน |
ไปกลับ | 5,160 เยน | 2,580 เยน |
Skyliner e-ticket (ราคาเดียวตลอดสาย)
ชาวต่างชาติสามารถจองตั๋ว Keisei Skyliner ล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์หรือตัวแทนจำหน่าย และนำ e-ticket ไปยื่นที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ Keisei เพื่อเลือกเวลาที่ต้องการออกเดินทางและรับตั๋วจริง (※มีการตรวจสอบพาสปอร์ต)
ประเภท | ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ (12 ปี+) | ราคาตั๋ว เด็ก (6-11 ปี) |
---|---|---|
เที่ยวเดียว | 2,310 เยน | 1,150 เยน |
ไปกลับ | 4,500 เยน | 2,240 เยน |
จองตั๋วราคาพิเศษทางออนไลน์ » Skyliner e-ticket (ภาษาอังกฤษ)
Skyliner Discount Ticket (ราคาเดียวตลอดสาย)
สามารถจองตั๋ว Keisei Skyliner ล่วงหน้าผ่านทางล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์หรือตัวแทนจำหน่าย จะได้ลดราคาจากปกติไปเที่ยวละ 270 เยน หลังจากชำระเงินจะได้เป็น QR Code ให้นำไปแลกรับตั๋วได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติหรือยื่นที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ Keisei เพื่อเลือกเวลาที่ต้องการออกเดินทาง
ประเภท | ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ (12 ปี+) | ราคาตั๋ว เด็ก (6-11 ปี) |
---|---|---|
เที่ยวเดียว | 2,310 เยน | 1,150 เยน |
จองตั๋วราคาพิเศษทางออนไลน์ » Klook.com (ภาษาไทย), Keisei GRAB & GO (ภาษาอังกฤษ)
Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket
เซ็ตตั๋วรถไฟ Skyliner พร้อมตั๋วรถไฟใต้ดินในโตเกียวแบบไม่จำกัดเที่ยว โดยมีให้เลือกแบบ 24, 48 และ 72 ชั่วโมง สามารถใช้ได้ทั้งสาย Toei Subway และ Tokyo Metro
Skyliner เที่ยวเดียว + Tokyo Subway Ticket
ประเภท | ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ (12 ปี+) | ราคาตั๋ว เด็ก (6-11 ปี) |
---|---|---|
24 ชั่วโมง | 2,900 เยน | 1,450 เยน |
48 ชั่วโมง | 3,300 เยน | 1,650 เยน |
72 ชั่วโมง | 3,600 เยน | 1,800 เยน |
Skyliner ไปกลับ + Tokyo Subway Ticket
ประเภท | ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ (12 ปี+) | ราคาตั๋ว เด็ก (6-11 ปี) |
---|---|---|
24 ชั่วโมง | 4,900 เยน | 2,440 เยน |
48 ชั่วโมง | 5,300 เยน | 2,640 เยน |
72 ชั่วโมง | 5,600 เยน | 2,790 เยน |
ซื้อตั๋วราคาพิเศษทางออนไลน์ » klook.com (ภาษาไทย), keisei.co.jp (ภาษาอังกฤษ)
รีวิวเดินทางเข้าโตเกียวด้วย Keisei Skyliner
เราลงเครื่องบินที่อาคาร Narita Airport Terminal 2 จึงก็ขอเริ่มต้นการเดินทางหลังจากผ่านด่านศุลกากรและออกมาถึงโซนจุดนัดพบเลยนะคะ พอออกจาก Gate แล้ว ด้านซ้ายมือ (ของตัวเอง) จะมีป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟเข้าเมืองค่ะ
การซื้อตั๋วรถไฟ
จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนตามป้ายเลยค่า พอลงมาด้านล่างจากบันไดเลื่อนแล้ว เราจะอยู่ชั้น B1 จากนั้นก็หันขวาเลยจ้ะ จะพบกับทางเดินแบบลานกว้างๆ และด้านซ้ายมือของทางเดินจะมีเคาน์เตอร์สีน้ำเงินของ Keisei Skyliner และเคาน์เตอร์สีแดงของ Narita Express (N’EX) ค่ะ
เคาน์เตอร์ Keisei Skyliner
เคาน์เตอร์ Narita Express (N’EX)
ตั้งไฟท์เป็นมุมแดง-มุมน้ำเงินกันอย่างนี้เลย อิอิ ด้วยสีสันอันโดดเด่นขนาดนี้ กวาดตามองผ่านๆ ก็เจอค่ะ โดยทั่วไปแล้วสำหรับนักท่องเที่ยวที่ถือ JR Pass สามารถแลกตั๋วรถไฟ Narita Express (N’EX) สำหรับเข้าเมือง ซึ่งเป็นของบริษัท JR ได้ฟรี หรือซื้อ Package แบบ N’EX TOKYO Round Trip Ticket ในราคา 5,000 เยน จะสามารถขึ้น Narita Express (N’EX) ได้ในราคาที่คุ้มค่ามากกว่าค่ะ (ตั๋ว Narita Express (N’EX) ราคาปกติเริ่มต้นที่ 3,000 กว่าเยนต่อเที่ยว)
แต่ส่วนตัวเรานั้นเดินทางเข้าเมืองอย่างเดียว จึงขอใช้บริการของ Keisei Skyliner จ้า เพราะหากว่าเทียบกันในราคาปกติซึ่งอยู่ที่ 2,580 เยนแล้ว ราคาจะถูกกว่า Narita Express (N’EX) ดังนั้นจึงเดินผ่านเคาน์เตอร์แดงไปอย่างเงียบๆ ฮา~ (ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานีปลายทางด้วยนะคะ ว่าที่พักของเพื่อนๆ อยู่ทางสถานีไหน)
นักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วแบบ E-ticket สามารถซื้อได้ในราคา 2,310 เยน (จากราคาปกติ 2,580 เยน) และตั๋ว Skyliner + Tokyo Subway Ticket เริ่มต้นที่ 2,900 เยน ซึ่งเป็นสิทธิเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ผู้ที่มีวีซ่าพำนักในญี่ปุ่นไม่สามารถใช้ได้)
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วแบบ Package ต่างๆ ที่ระบุไว้บนป้าย ได้แก่ Skyliner Value Ticket, Skyliner E-ticket, Skyliner Coupon และ Keisei Skyliner &Tokyo Subway Ticket รบกวนติดต่อ Tourist Information Center ของ Keisei Skyliner ฝั่งตรงข้ามของเคาน์เตอร์ขายตั๋วค่ะ
หน้าตาของ Keisei Information Center ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจ้า สีน้ำเงินออกฟ้าๆ แนวเดียวกับเคาน์เตอร์ขายตั๋วเลยจ้ะ สำหรับช่องสีแดงข้างๆ คือ JR East Information ซึ่งสามารถแลกบัตร JR Pass ได้ที่นี่ค่ะ
ส่วนตัวเราไม่ได้ซื้อตั๋วพิเศษต่างๆ (เรามันคนไม่มีสิทธิ์ T^T เนื่องจากไม่ได้ถือวีซ่านักท่องเที่ยว) ก้มหน้าก้มตาซื้อตั๋วราคาปกติต่อปายย ซื้อเสร็จแล้ว จะได้ตั๋วหน้าตาเหมือนรูปด้านล่างนี้ค่ะ
ตัวอย่างตั๋ว Keisei Skyliner
เราขอแสดงรายละเอียดที่จำเป็นต้องใช้ในการขึ้นนรถไฟนะคะ ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวว่าบางครั้งญี่ปุ่นก็ชอบแสดงความเป็น International แบบครึ่งๆ กลางๆ คือมีภาษาอังกฤษเป็นหย่อมๆ จริงๆ ในตั๋วก็มีภาษาอังกฤษนะคะ ถึงอย่างนั้นเราอยากจะชี้แจงแบบง่ายๆ เผื่อเอาไว้ค่ะ
ช่องสีน้ำเงิน: ชื่อขบวนรถ (อ่านว่า เค-เซ-สกาย-ไลน์-น่า~) เผื่อฟังเขาประกาศค่ะ
ช่องสีเหลือง: หมายเลขตู้ ในที่นี้คือ ตู้ที่ 4 (บนพื้นที่รอรถไฟแต่ละประตูจะมีป้ายบอกหมายเลขตู้ด้วยนะคะ)
ช่องสีเขียว: หมายเลขที่นั่ง (ตำแหน่งบอกหมายเลขที่นั่งบนรถไฟ)
การขึ้นรถไฟ
หลังจากดูตั๋วกันเรียบร้อยแล้วก็มาดูป้ายด้านบนเพื่อดูชานชาลากันค่ะ มีแสดงภาษาอังกฤษสลับกับภาษาอังกฤษ จึงแนะนำให้ดูแถบสีน้ำเงิน + เวลาค่ะ (เผื่อเวลารีบๆ)
สำหรับแถบสีขาวบนป้ายจะแสดงถึงหมายเลขของชานชาลา ในที่นี้ Skyliner มีชานชาลาเดียวคือ ชานชาลาที่ 1 ถ้าขึ้นรถไฟขบวน Access Express ก็ใช้ชานชาลา 1 เช่นกันค่ะ) ส่วนรถขบวน Rapid (จอดบางสถานี) และรถขบวน Express จะใช้ชานชาลาที่ 3 ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนกันเข้าตามเวลา
สรุปความแตกต่างระหว่างแต่ละขบวน
- Skyliner (ใช้เส้นทาง Narita SKY ACCESS Line) รถไฟด่วนพิเศษ (ต้องจองที่นั่ง) วิ่งจากสนามบินนาริตะไปสถานี Nippori ใช้เวลาเร็วสุด 36 นาที แต่ถ้าไปลง Keisei-Ueno จะใช้เวลาเร็วสุด 41 นาที
- Access Express (ใช้เส้นทาง Narita SKY ACCESS Line) รถไฟด่วนวิ่งเส้นทางเดียวกันกับ Skyliner (ไม่ต้องจองที่นั่ง) แต่จะใช้เวลาประมาณ 60 นาที และมีวิ่งเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้นสำหรับขบวนที่วิ่งตรงไปถึง Keisei-Ueno
- Express (ใช้เส้นทาง Keisei Main Line) จอดบางสถานี (ไม่ต้องจองที่นั่ง) ใช้เวลาไปถึง Keisei-Ueno ประมาณ 70 นาที
- Rapid (ใช้เส้นทาง Keisei Main Line) จอดเยอะกว่าขบวน Express ใช้เวลาไปถึง Keisei-Ueno ประมาณ 90 นาที
สามารถซื้อตั๋วแบบธรรมดาของรถไฟขบวน Keisei Main Line ได้จากตู้ขายตั๋วเองเลยค่ะ เส้นทาง Narita Airport – Keisei-Ueno ราคา 1,060 เยน ใช้เวลาเดินทางช้ากว่า Skyliner 30 นาที แต่ประหยัดได้ถึง 1,520 เยนเลย อิอิ (ที่นั่งจะเป็นแบบธรรมดาหันหน้าเข้ากันตามแนวรถไฟ)
หน้าตาของประตูตอกตั๋วเข้าชานชาลาค่ะ เข้าไปแล้วดูป้ายในกรอบสี่เหลี่ยมสีเขียวไว้นะคะ จากอยู่ด้านซ้ายมือติดกับที่ตอกตั๋วเลยอย่าเดินเลยนะคะ เดี๋ยวไกล 555
หน้าตาป้ายประมาณนี้ค่ะ เอาไว้เช็คว่าไม่หลง ไม่ผิดชานชาลา อิ อิ
ลงมารอที่ชานชาลาแล้วก็เล่นเน็ตฟรีของ Keisei รอรถไฟได้นะคะ เราก็เล่นประจำ หุหุ รถมาแล้วก็ชักภาพไว้เสียหน่อย หน้าตาโฉบเฉี่ยวเล็กน้อย ตัวรถเป็นสีน้ำเงินเข้มคาดสีขาวค่ะ เปรี้ยวเท่ ไม่เบาเนอะ
ภายในรถไฟ
ที่นั่งของรถไฟเป็นแบบให้จองทุกที่ เบาะนั่งเป็นแบบคู่ (2 ที่นั่ง) มีพื้นที่กว้างขวาง มีที่ให้ชาร์จแบตอุปกรณ์ต่างๆ อีกด้วย นอกจากนั้นแล้วยังมีที่วางสัมภาระเหนือศีรษะและที่เก็บกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ตรงใกล้กับประตูของขบวนรถไฟ ทางเดินตรงกลางค่อนข้างกว้างเดินสบายๆ
ความกว้างระหว่างที่นั่งสามารถวางกระเป๋าเดินทางได้หรือสามารถเหยียดขาได้สุดเลยค่า กว้างดีจริงๆ ด้านข้างริมหน้าต่างมีที่แขวนเสื้อ (สำหรับโค้ทหรือเสื้อนอก) หน้าต่างมีที่วางแก้วหรือขวดน้ำ สำหรับด้านหน้ามีที่วางสำหรับทานอาหารได้ค่ะ สามารถทานอาหารในรถไฟได้ และมีถังขยะอยู่ใกล้ๆ ประตูของแต่ละขบวน นอกจากนี้จะมีแผนผังของขบวนว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ด้วย
ส่งท้าย
สถานี Keisei-Ueno
หลังจากรถไฟออกจากสนามบินก็ได้พักสายตาเล็กน้อย แป๊บเดียวก็ถึงโตเกียวแล้วค่า สะดวกรวดเร็ว วิธีการเดินทางก็ไม่ยากเลย ทั้งนี้เราก็ขอแนะนำเพิ่มเติมเล็กน้อย เนื่องจากสถานี Keisei-Ueno นั้นอยู่ห่างจากสถานี Ueno สาย JR มาเล็กน้อย จึงต้องใช้เวลาเดินเชื่อมมาอีกประมาณ 5 นาที แนะนำว่าถ้าจะต่อรถไฟ JR อย่างสาย Yamanote Line ก็ให้ลงที่สถานี Nippori จะสะดวกกว่านะคะ เพราะเดินแค่นิดเดียว สำหรับวันนี้ขอลากันไปเพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่า สวัสดีค่ะ
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในโตเกียว
บทความเที่ยวโตเกียว
- คู่มือเที่ยวโตเกียว (Tokyo) แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวสุดฮิต
- วิธีการดูแผนที่รถไฟในโตเกียว & การเที่ยวโตเกียว ขึ้นรถไฟไม่ให้ผิดสาย
- JR TOKYO Wide Pass บัตรรถไฟเที่ยวรอบโตเกียวสุดคุ้มใน 3 วัน
› การเดินทาง
- สนามบินนาริตะ (Narita Airport) และวิธีเดินทางเข้าเมืองโตเกียว
- สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) และวิธีเดินทางเข้าเมืองโตเกียว
- [รีวิว] สายการบิน ANA กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (NRT)
- [รีวิว] สายการบิน Thai Airways กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (NRT)
- [รีวิว] สายการบิน Japan Airlines กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (HND)
- [รีวิว] Keisei Skyliner เดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว
› เที่ยวจุดชมวิวและสวนสาธารณะ
- [รีวิว] โตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE) + TOKYO Solamachi
- [รีวิว] สวนอุเอโนะ (Ueno Park) เที่ยวสวนสาธารณะแห่งวัฒนธรรม
- [รีวิว] สวนอุเอโนะ (Ueno Park) ชมอุโมงค์ซากุระที่สวนใจกลางโตเกียว
- [รีวิว] สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง
- [รีวิว] สวนชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ชมซากุระแรกแย้ม
- [รีวิว] สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ชมซากุระริมโค้งน้ำ
- [รีวิว] สวนสุมิดะ (Sumida Park) ชมซากุระที่สวนเลียบแม่น้ำ
- [รีวิว] สวนโชวะ เมมโมเรียล พาร์ค (Showa Memorial Park) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลัง
- [รีวิว] ภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao) ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ชานกรุงโตเกียว
- [รีวิว] เที่ยวโตเกียวกลางคืน ชมสีสันของแสงไฟในยามค่ำ
› เที่ยววัดและศาลเจ้า
- [รีวิว] ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine / Meiji Jingu) ที่ย่านฮาราจูกุ
- [รีวิว] วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดอาซากุสะชื่อดังของโตเกียว
- [รีวิว] ศาลเจ้าคาเมโดะ เท็นจิน (Kameido Tenjin Shrine) ชมดอกวิสทีเรีย
- [รีวิว] ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine) ชมดอกอาซาเลียหลากสี
- [รีวิว] ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ชมซากุระที่ศาลเจ้าเก่าแก่
› เที่ยวแหล่งช้อปปิ้ง
- [รีวิว] ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market) เที่ยวแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมย่านอุเอโนะ
- [รีวิว] ยานากะกินซ่า (Yanaka Ginza) เที่ยวย่านช้อปปิ้งเก๋ๆ ในใจกลางโตเกียว
- [รีวิว] จิยูกาโอกะ (Jiyugaoka) เดินเที่ยวชิลๆ แวะชิมของหวานที่ Sweets Forest
› เที่ยวสวนสนุก
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com