[รีวิว] เที่ยววัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ในเกียวโต

มาชมใบไม้แดงกันต่อแบบนอนสต็อปที่วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple) นะคะ ที่นี่เป็นหนึ่งในวัดชื่อดังของเกียวโต (Kyoto) มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัดเอคันโด (Eikando Temple) เรียกได้ว่าถ้ามาแถบนี้ จัดแพ็กคู่ได้เลยค่ะ แน่นอนว่าที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตของเกียวโต โดยมีจุดเด่นที่สะพานคลองส่งน้ำกับประตูไม้โบราณขนาดใหญ่มาก

เกี่ยวกับวัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple)

ประวัติความเป็นมา

วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple / 南禅寺) เป็นวัดพุทธนิกายเซ็น สำนักรินไซ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต (Kyoto) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1291 โดยจักรพรรดิคาเมะยามะ (Emperor Kameyama) ทั้งนี้ตัวอาคารดั้งเดิมของวัดได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้หลายครั้งและได้มีการสร้างขึ้นใหม่ แต่ก็ยังคงความงดงามไว้เช่นเดิม โดยเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมอย่ามากตอนประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน

ปัจจุบันวัดนันเซนจิเป็นวัดนิกายเซ็นที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นและยังเป็นสำนักใหญ่ของรินไซ โดยภายในบริเวณประกอบด้วยวัดย่อยๆ อีกหลายแห่งซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม เช่น วัดนันเซนอิน (Nanzenin Temple / 南禅院), วัดคอนจิอิน (Konchiin Temple / 金地院) และวัดเทนจูอัน (Tenjuan Temple / 天授庵)

ข้อมูลการเยี่ยมชม

เวลาทำการ

ช่วงเวลา	เวลาเปิด-ปิด
ธันวาคม – กุมภาพันธ์	8:40 – 16:30 น. (เข้าก่อน 16:10 น.)
มีนาคม – พฤศจิกายน	8:40 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:40 น.)

ค่าเข้าชม

โซน	ผู้ใหญ่	เด็กมัธยมปลาย	เด็กประถม
Hojo Garden	600 เยน	500 เยน	400 เยน
Sanmon Gate	600 เยน	500 เยน	400 เยน
Nanzenin Temple	400 เยน	350 เยน	250 เยน

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี

ปี	วันที่เริ่มพีค	วันที่ร่วง
2024	23 พฤศจิกายน ~	7 ธันวาคม ~
2023	20 พฤศจิกายน ~	4 ธันวาคม ~
2022	20 พฤศจิกายน ~	3 ธันวาคม ~
2021	20 พฤศจิกายน ~	4 ธันวาคม ~
2020	18 พฤศจิกายน ~	2 ธันวาคม ~

วิธีการเดินทาง

รถบัส

ป้ายรถบัสใกล้เคียง ได้แก่

• Nanzenji, Eikando-michi (南禅寺・永観堂道) เดินประมาณ 9 นาที สายที่ผ่านได้แก่ Kyoto City Bus สาย 5
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถบัสสาย 5 มาลงที่ป้าย Nanzenji, Eikando-michi

รถไฟ

สถานีรถไฟใกล้เคียง คือ

• Keage (รถไฟใต้ดินสาย Tozai Line) เดินประมาณ 11 นาที
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟสาย Karasuma Line มาที่สถานี Karasuma Oike แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย Tozai Line มาลงที่สถานี Keage

รีวิวเที่ยววัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple)

ในรีวิวตอนที่แล้วเราอยู่กันที่วัดเอคันโด (Eikando Temple) จึงใช้เวลาเดินมาที่วัดนันเซนจิเพียง 5 นาทีเท่านั้นค่ะ เดินตามถนนมาเรื่อยๆ จะเจอป้ายบอกทางในรูปนี้ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ เราก็เดินขึ้นเนินไปตามป้ายเลยค่ะ เส้นทางนี้จะเป็นทางลัดเข้ามายังบริเวณด้านข้างของวัด ถ้าใครอยากเข้าทางประตูหน้าเลย สามารถเดินอ้อมไปตามถนนได้ค่ะ (ซึ่งเราขอลัดค่ะ 555)

เดินเลาะๆ มาก็จะเจอด้านข้างของประตูใหญ่ๆ นี้ ซึ่งก็คือประตูหลักของวัดนั่นเอง ภายในบริเวณวัดนันเซนจินั้นเปิดให้เข้าชมได้ฟรี แต่จะมีค่าเข้าชมในส่วนย่อยๆ นะคะ

ประตู Sanmon Gate (三門)

ประตูหลักของวัด สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1628 มีความสูง 22 เมตร ถือได้ว่าเป็นประตูที่ใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น สามารถขึ้นไปชมวิวจากด้านบนได้ โดยมีค่าธรรมเนียม 600 เยนสำหรับผู้ใหญ่

วิหาร Hatto (法堂)

ถัดจากประตูใหญ่ก็คืออาคารศูนย์กลางของวัดนันเซนจิซึ่งใช้สำหรับจัดพิธีต่างๆ ตัววิหารที่เห็นในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1909

ใบไม้แดงบริเวณข้างวิหาร Hatto

ศาลา Hojo (方丈)

ศาลานี้สามาถรเข้าเยี่ยมชมได้ โดยจะเชื่อมไปยังอาคารหลักของวัดซึ่งมีชื่อว่า ศาลา Honbou (本坊) และด้านนั้นในก็มีสวน Hojo Garden (方丈庭園) ซึ่งเป็นสวนหินที่มีชื่อเสียงของที่นี่ค่ะ

ส่วนนี้จะมีค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 600 เยน (เราไม่ได้เข้าไป)

ทางซ้ายมือของศาลา Honbou มีทางเข้าอยู่ซึ่งจะใช้สำหรับโอกาสพิเศษเท่านั้น

สะพานคลองส่งน้ำ Suirokaku (水路閣)

ตรงนี้ก็คือจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีไฮไลท์อีกแห่งของวัดนันเซนจินั่นเองค่า ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างศาลา Hatto ค่ะ เป็นสะพานคลองส่งน้ำจากทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ไปยังเมืองเกียวโต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1980 ตรงนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมนะคะ สามารถถ่ายรูปได้ตามสบาย

ตัวสะพานเป็นอิฐและเป็นรูปทรงโค้ง คล้ายๆ รูปทรงของเสาโรมัน มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ดีค่ะ ยิ่งมีใบเมเปิ้ลสีแดงๆ ยิ่งได้บรรยากาศเลย

หลังจากถ่ายรูปจนอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับค่ะ เราจะเดินย้อนกลับออกมาทางประตูหลักไปทางด้านหน้าวัด เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินนะคะ

ตรงสวนแถวๆ ตรงประตูใหญ่ จะมีต้นแปะก๊วยซึ่งใบสีเหลืองด้วย แต่ว่าตอนที่ไป ใบร่วงหมดต้นแล้วค่ะ เหลือแต่พรมแปะก๊วยสีเหลืองอร่ามแทน

เจอกับประตู Sammon Gate อีกรอบ ก็เก็บภาพแบบใกล้ๆ ไว้ซักหน่อย

ประตู Chumon (中門)

สำหรับคนที่มาทางด้านหน้าก็จะเจอกับประตูนี้ก่อนนะคะ

อุโมงค์ Nejirimanpo (ねじりまんぽ)

เราจะมาขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Keage กัน ก่อนถึงสถานีจะเจอกับอุโมงค์อิฐสีแดงนี้ ใช้เวลาเดินจากวัดนันเซนจิก็ประมาณ 10 นาทีค่ะ ถ้ามาช่วงใบไม้ผลิก็จะได้เห็นซากุระบานด้านบนเป็นแถบเลยค่ะ

ส่งท้าย

หลังจากเที่ยววัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple) เสร็จ ก็เป็นเวลาประมาณ 3 โมงแล้วค่ะ ตามแพลนที่จริงแล้วเรายังอยากไปต่อที่วัดไดโกจิ (Daigoji Temple) ที่มีบ่อน้ำสวยๆ แต่ด้วยแข้งขาไม่สามารถเดินต่อไหวแล้ว ประกอบกับใช้เวลาเที่ยวแถบนี้เพลินไปหน่อย เราก็เลยตัดสินใจหลังจากนี้เราก็จะนั่งรถไฟกลับไปยังสถานี Kyoto แทน เพื่อหาไรทานและเดินช้อปปิ้งต่ออีกหน่อยก่อนต่อรถไฟกลับโรงแรมที่โอซาก้าค่ะ

สำหรับคนที่จะจัดแพลนเที่ยวตาม เราก็มีตารางการท่องเที่ยวเกียวโตใน 1 วันดังนี้ค่ะ สามารถจิ้มลิงก์ดูแต่ละรีวิวได้เลยจ้า

8:30 – 10:30	วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)
10:30 – 11:30	ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)
11:30 – 13:30	วัดเอคันโด (Eikando Temple)
13:30 – 15:00	วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple)
15:00 – 17:00	สถานีเกียวโต (Kyoto Station)

ในตอนหน้าเราจะพาไปรีวิววัดไดโกจิที่เคยตั้งใจว่าจะมานะคะ ซึ่งเรากลับมาเกียวโตอีกรอบในปีถัดมา โชคดีที่ได้มาทันก่อนโควิด-19 ระบาด (คืออยากมาจริงๆ 555) รอติดตามชมกันได้นะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยววัดไดโกจิ (Daigoji Temple) ชมวัดมรดกโลกในเกียวโต ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี