[รีวิว] เที่ยวภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao) ชมใบไม้เปลี่ยนสี 1 วัน บนเขาในชานเมืองโตเกียว

รู้หรือไม่ว่าเราสามารถปีนเขาเดินป่าในเมืองหลวงของญี่ปุ่นได้นะคะ ซึ่งสถานที่นี้ก็คือ ภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao) ที่อยู่บริเวณชานกรุงโตเกียวนี่เอง ใช้นั่งรถไฟจากชิจูกุไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้อยากปีนเขาหรือเดินป่า ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถขึ้นมาชมวิวสวย ๆ บนเขาได้ไม่ยากด้วยเคเบิลคาร์และแชร์ลิฟต์ค่ะ

เกี่ยวกับภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao)

ภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao / 高尾山) ตั้งอยู่ที่เมืองฮะจิโอจิ (Hachioji) ในชานกรุงโตเกียว (Tokyo) เป็นภูเขาที่มีความสูง 599 เมตร แม้จะมีความสูงไม่มาก แต่ก็เป็นจุดเดินเขายอดฮิตของญี่ปุ่น เนื่องจากอยู่ใกล้ตัวเมืองและเดินทางมาได้สะดวกสบาย

นอกจากนี้ภูเขาทาคาโอะก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูใบไม้ร่วง ที่ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีบนเขา และยังมีกิจกรรมหลากหลายให้เพลิดเพลิน เช่น การแวะชมสวนลิงและสวนพรรณไม้ป่า รวมถึงการสักการะวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องโชคลาภ

วิธีเดินทางมาทาคาโอะ (Mt. Takao)

• จากสถานี Shinjuku ให้นั่งรถไฟสาย Keio Line มาลงที่สถานี Takano แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Takao Line มาลงที่ Takaosanguchi ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 – 60 นาที
• จากสถานี Shinjuku ให้นั่งรถไฟสาย Keio Line ขบวน Special Express มาลงที่สถานี Takaosanguchi ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 – 60 นาที
• จากสถานี Shinjuku ให้นั่งรถไฟสาย Keio Liner Mt. TAKAO มาลงที่สถานี Takaosanguchi ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 – 45 นาที (※ให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด)

วิธีการขึ้นเขาทาคาโอะ (Mt. Takao)

จากสถานี Takaosanguchi สามาถขึ้นเขาทาคาโอะได้ทั้งการโดยสารเคเบิลคาร์ (Cable Car) ที่เป็นยานพาหะนะคล้ายๆ กับรถราง และแชร์ลิฟต์ (Chair Lift) ที่คล้ายกับนั่งกระเช้า แต่ว่าเป็นเก้าอี้แบบเปิดโล่ง รวมถึงการเดินเขาที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมสำหรับคนที่อยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด

การนั่งเคเบิลคาร์และแชร์ลิฟต์

เคเบิลคาร์ภูเขาทาคาโอะ (Takaosan Cable Car) ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 6 นาที หากนั่งแชร์ลิฟต์ภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao Chair Lift) จะใช้เวลาประมาณ 12 นาที จากนั้นก็ต่อเดินเท้าต่อไปจนถึงยอดเขาอีกประมาณ 60 นาที หรือจะเลือกเดินตั้งแต่ด้านล่างไปจนถึงยอดเขา ก็จะใช้เวลาประมาณ 90 – 100 นาที

การเดินเขา

สำหรับคนที่ต้องการเดินเขาทาคาโอะ ที่นี่ก็มีเส้นทางให้เลือกถึง 8 เส้นทาง แต่สำหรับคนที่จะเดินตั้งแต่ด้านล่างไปจนถึงยอดเขานั้นก็สามารถเลือกได้ 3 เส้นทาง ได้แก่

1. Trail#1 (Omotesando Trail) ระยะทาง 3.8 กม. เป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดและยังผ่านแหล่งท่องเที่ยวบนเขา ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 100 นาที และเดินลงประมาณ 90 นาที นอกจากนี้ยังสามารถย่นระยะทางการเดินได้ด้วยการนั่งเคเบิลคาร์หรือแชร์ลิฟต์ได้
2. Trail# 6 (Biwa Waterfall Trail) ระยะทาง 3.3 กม. เป็นเส้นทางที่เดินไปตามป่าและลำธาร มีลักษณะค่อนข้างชัน ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 90 นาที และเดินลงประมาณ 60 นาที
3. Inariyama Trail ระยะทาง 3.2 กม. เป็นเส้นทางที่เดินผ่านเนินเขาอินาริทางด้านทิศใต้ของภูเขาทาคาโอะ มีความยากและมีลักษณะค่อนข้างชัน แต่จะได้เห็นวิวสวยๆ ในแต่ละฤดู ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 90 นาที และเดินลงประมาณ 60 นาที

รีวิวเที่ยวภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao)

ข้อมูลพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยค่ะ สำหรับคนที่จะมาเที่ยวทาคาโอะจากชินจูกุ และต้องการนั่งเคเบิลคาร์หรือแชร์ลิฟต์ พร้อมแวะชมสวนลิงที่อยู่บนเขาด้วย แนะนำให้ซื้อพาส Mt. Takao + Keio 1-Day Ticket ไปเลย ช่วยประหยัดเงินไปได้และไม่ต้องไปต่อแถวกดซื้อตั๋วที่ตู้ด้วยค่ะ

ในการเดินทางท่องเที่ยวภูเขาทาคาโอะในทริปนี้ เราใช้พาส Mt. Takao + Keio 1-Day Ticket โดยกดซื้อมาจากทาง Klook.com ในราคา 1,910 เยนสำหรับผู้ใหญ่ (เด็กราคา 960 เยน) แล้วไปแลกรับบัตรจริงที่ Keio West Exit ตรงสถานี Shinjuku โดยแสดงเวาเชอร์ที่รับมาตอนที่ซื้อพาสนะคะ

เริ่มต้นจากสถานี Keio Shinjuku เราสามารถแสดงบัตรให้นายสถานีแล้วเดินผ่านเข้าไปได้เลยค่ะ เราสามารถเช็คจาก Google Map หรือดูที่ป้ายในสถานีก็ได้ เพื่อมองหาชานชาลาของรถไฟที่มีปลายทางเป็น Takaosanguchi ส่วนคนที่อยากนั่งขบวน Keio Liner Mt. TAKAO ที่ให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด จะต้องจองที่นั่งก่อนขึ้นรถไฟนะคะ

ใช้เวลานั่งรถไฟไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงสถานี Takaosanguchi พอออกจากสถานีก็ให้เดินตามคนอื่นๆ ได้เลยค่ะ ซึ่งจะมุ่งหน้ากันมาทางขึ้นเขา สำหรับคนที่ไม่ได้จะมาเดินเขาแบบเรา ก็สามารถขึ้นไปด้านบนได้ด้วยเคเบิลคาร์หรือแชร์ลิฟต์ ซึ่งการเดินทางทั้ง 2 แบบก็รวมอยู่ในพาสเรียบร้อยแล้วค่ะ เราสามารถเลือกได้เลยว่าจะใช้บริการอะไร

วันที่แอดฯ ไปเป็นวันที่ 23 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันพฤหัส แต่ดันตรงกับวันหยุดของญี่ปุ่นพอดี คนก็เลยเยอะอย่างที่เห็นแบบนี้ ตอนที่แลกพาส เจ้าหน้าที่ก็แจ้งเราแล้วแหละว่าวันนี้คนจะเยอะนะ แต่ว่าวันเที่ยวของแอดฯ มีจำกัด (วันอื่นๆ จองตั๋วเที่ยวพวกสวนสนุกไปแล้ว) และกลัวว่าถ้ามาช้ากว่านี้ ใบไม้จะร่วงซะก่อน ก็ต้องเป็นวันนี้อย่างเดียวค่ะ เอาจริงๆ ก็ไม่คิดว่าคนจะมาเยอะขนาดนี้

Mt. Takao Chairlift

แชร์ลิฟต์ภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao Chair Lift) หรือที่เรียกว่า เอโคลิฟต์ (Echo Lift) เป็นลิฟต์แบบเก้าอี้ ให้บริการระหว่างสถานี Sanroku ที่อยู่ด้านล่างและสถานี Sanjo ที่อยู่ด้านบนเขา โดยเก้าอี้ 1 ตัว สามารถนั่งได้เพียง 2 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที

ตอนแรกกะว่าจะขึ้นด้วยเคเบิลคาร์ก่อน แต่เห็นแถวแล้วเลยเปลี่ยนใจไปขึ้นด้วยแชร์ลิฟต์แทนค่ะ ซึ่งทางไปขึ้นแชร์ลิฟต์ก็อยู่ด้านในสถานี Takaosan Cable Car นี้เหมือนกัน แต่ต้องเดินเข้าไปอีกค่ะ

คิวตรงทางขึ้นแชร์ลิฟต์คนไม่เยอะเท่าไหร่ แถวขยับได้เรื่อยๆ เพราะไม่ต้องรอเป็นรอบๆ เหมือนเคเบิลคาร์ ตอนเข้าสถานีก็ยื่นพาสให้เจ้าหน้าที่ได้เลย ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ

เวลาจะขึ้นไปนั่งก็ให้ไปยืนตรงตำแหน่งที่เจ้าหน้าที่บอก พอเก้าอี้หมุนมาก็หย่อนตัวลงนั่งได้เลย ตัวเก้าอี้ไม่มีที่กั้นเลย ซึ่งมีข้อดีตรงที่ได้ชมวิวอย่างที่ไม่มีอะไรมาบดบัง แต่ช่วงที่ไต่ขึ้นเขานั้นอย่างชัน ค่อนข้างหวาดเสียว แอดฯ นั่งตัวเกร็งเลย ระหว่างทางก็จะมีจุดถ่ายรูปเราให้ด้วย ใครถูกใจ (ท่านั่งเกร็งๆ ของเรา) ก็สามารถซื้อรูปกลับบ้านได้ จุดที่ขายรูปจะอยู่ตรงสถานี Sanjo ที่อยู่ด้านบนเขาค่ะ

Kasumidai Observation Deck

จากสถานี Sanjo ของแชร์ลิฟต์ เดินตามทางมาประมาณ 5 นาที ก็จะเจอกับสถานี Takaosan ของเคเบิลคาร์ค่ะ แล้วเดินต่อมาอีกนิดก็จะเจอจุดชมวิวเล็กๆ ที่มีชื่อว่า จุดชมวิวคาสุมิดาอิ (Kasumidai Observation Deck) อยู่ตรงริมทางเดินค่ะ

มองเห็นภูเขาตัดกับตัวเมืองลิบๆ และท้องฟ้าได้เลย

Mt. Takao Monkey Park and Wild Plant Garden

สวนลิงและสวนพรรณไม้ป่าภูเขาทาคะโอะ (Mt. Takao Monkey Park and Wild Plant Garden / 高尾山さる園・野草園) เป็นที่อยู่อาศัยของลิงประมาณ 70 ตัวและมีพืชภูเขาและดอกไม้ป่ากว่า 300 ชนิดที่สามารถมาชมได้ตลอดทั้งปี

สวนลิงนั้นตั้งอยู่ใกล้กับสถานีเคเบิลคาร์ Takaosan ใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที คนที่มีพาส Mt. Takao + Keio 1-Day Ticket ก็ใช้เข้าได้ฟรีเลยค่ะ ส่วนคนที่ใช้พาส Mt. Takao 1 day Free Ticket และ Mt. Takao Onsen Tour Ticket ที่กดซื้อจากตู้จะไม่รวมตั๋วเข้าสวนลิงนะคะ

เราสามารถชมเจ้าลิงได้ผ่านห้องกระจกแบบใกล้ชิด เห็นอิริยาบทต่าง ๆ ได้ชัดเจนเลยทีเดียว บางตัวก็มาอยู่ติดกับกระจกเลย จนไม่รู้ว่าคนดูลิงหรือลิงดูคน 555

เรายังสามารถขึ้นมาชมที่ระเบียงด้านบนได้อีกด้วยค่ะ มองเห็นโซนที่อยู่ของลิงได้ทั่ว มีผู้ดูแลคอยบรรยายให้นักท่องเที่ยวฟังด้วย (เป็นภาษาญี่ปุ่น)

จากบันไดตรงนี้ลงไปก็จะเป็นโซนของสวนพรรณไม้ป่า ใครมีเวลาก็เดินลงไปชมได้นะคะ แต่ละฤดูกาลก็จะมีดอกไม้ผลิบานผลัดเปลี่ยนกันไปตลอดทั้งปี

Takosugi

ต้นสนทะโกะซุงิ (Takosugi) เป็นต้นซีดาร์ยักษ์ที่สูงถึง 37 เมตร และมีอายุมากกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ริมทางเดินถัดจากสวนลิง ที่เรียกกันว่า ‘ทะโกะซุงิ‘ ซึ่งแปลได้ว่าต้นสนปลาหมึก ก็เพราะรากที่งอกออกมาเหมือนปลาหมีกยักษ์ หรือ ‘ทาโกะ’ ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง

Takaosan Yakuoin Temple

วัดทาคาโอะซัง ยาคุโออิน (Takaosan Yakuoin Temple / 高尾山 薬王院) เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่กลางเขาทาคาโอะ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 744 และได้รับการบูรณะในภายหลังในปี ค.ศ. 1375 มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านโชคลาภ เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการขอพรและสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติบนเขา

Takaosan Yakuoin Joshinmon Gate

เมื่อเดินผ่านประตูทางเข้าวัดยาคุโออินเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอทางแยกเป็น 2 ทาง ทางแรกเป็นทางขึ้นบันไดไปด้านบนซึ่งเรียกว่า “Otokozaka (男坂)” ที่แปลได้ว่าเนินผู้ชาย ส่วนอีกทางเป็นทางเดินไปตามทางลาดซึ่งเรียกว่า “Onnazaka (女坂)” ที่แปลได้ว่าเนินผู้หญิง ใครชอบความโหดในการเดินขึ้นระดับไหน สามารถเลือกได้เลยค่ะ

Otokozaka

Onnazaka

ถ้าไต่บันไดสูงปรี๊ด กลัวแข้งขาจะเดี้ยงซะก่อน แอดฯ เลยขอเลือกเดินขึ้นตามทางลาด Onnazaka แทนค่ะ ที่เห็นว่าเป็นทางลาดเตี้ยๆ ไม่สูง แต่ตอนเดินขึ้นก็เหนื่อยเอาเรื่องนะคะ ส่วนขากลับแอดฯ เลือกลงทางบันได Otokozaka ไม่ต้องอ้อมดี อิอิ

Gomadokoro Gongen Chaya

เราจะมาเจอทางแยกซึ่งมีร้านอาหารตั้งอยู่ให้แวะพักเติมพลังได้ แน่นอนว่ามาช่วงวันหยุดอย่างนี้ ก็ต้องเจอคิวที่ยาวหน่อยนะคะ

ใครไหวก็เดินกันต่อค่ะ

Cedar Trees of Mt. Takao

ต้นสนของภูเขาทาคาโอะที่มีอายุกว่า 700 ปี

Yakuoin Sanmon Gate

ในที่สุดก็มาถึงประตูทางเข้าตัววัดยาคุโออินกันแล้ว ถ้านับตั้งแต่สวนลิงจนมาถึงจุดนี้ก็จะใช้เวลาเดินกันครึ่งชั่วโมงได้เลยค่ะ เมื่อเข้ามาในวัดแล้วก็ไปล้างไม้ล้างมือกันก่อนนะคะ

วัดทาคาโอะซัง ยาคุโออินนั้นเป็นวัดพุทธ แต่มีความแปลกตรงที่มีความศรัทธาต่อ “เท็งงุ” ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาชินโต ว่ากันว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้า ภายในวัดมีรูปปั้นเท็งงุตั้งอยู่หลายจุด รูปลักษณ์ของเท็งงุคือเป็นครึ่งคนครึ่งนก มีจมูกแหลมยาวและปีกอยู่ที่หลัง

ตรงจุดนี้ที่เห็นคนต่อแถวกันเยอะมาก ให้ลอดอุโมงค์หินเข้าไป แล้วเอาไม้ที่เตรียมไว้ ตีวงแหวนตรงเสา เชื่อกันว่าเป็นวงแหวนแห่งความโชคดี เค้าว่ายิ่งตีดัง ยิ่งโชคดีนะคะ

วงแหวนแห่งความโชคดี

ต้นไม้บางต้นก็ยังเขียวอยู่ แต่ก็มีบ้างต้นที่เปลี่ยนสีสวยแล้วค่ะ

Nio-mon Gate

ขึ้นบันไดต่อยังตัววัดยาคุโออินที่อยู่ด้านบนเขา

Yakuoin Main Hall

ศาลาหลักของวัดยาคุโออิน แน่นขนัดไปด้วยผู้คน

Izuna Gongen

หากขึ้นบันไดต่อไปอีกก็จะเจอกับศาลเจ้าอิซึนะกองเกนซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณของยาคุโออิน ตัวศาลเจ้ามีสีแดงสวยงามรายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี

Izuna Gongen-do Hall

ศาลาของศาลเจ้าอิซึนะกองเกน

ใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณศาลเจ้า

แผ่นไม้เอมะรูปเท็งงุ

จากศาลเจ้านี้ยังสามารถเดินขึ้นไปด้านบนยอดทาคาโอะได้อีกนะคะ โดยจะเจอกับจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้ ถ้าช่วงปกติคงใช้เวลาเดินประมาณ 15 – 30 นาที แต่ตอนนี้แอดฯ เจอสภาพการจราจรที่ผู้คนติดขัด คือแถวไม่ขยับเลยค่ะ เกรงว่าจะลงเขาไม่ทันไปเที่ยวที่อื่นต่อ ก็เลยต้องตัดสินใจย้อนกลับค่ะ (มีแฟนเพจมาวันเดียวกับแอดฯ บอกว่ากลับไม่ทัน ต้องเดินลงเขาเลยค่ะ)

Takaosan Cable Car

เคเบิลคาร์ภูเขาทาคาโอะ (Takaosan Cable Car) ให้บริการระหว่างสถานี Kiyotaki ที่อยู่ด้านล่างและสถานี Takaosan ที่อยู่ด้านบนเขา รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 135 คนต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที โดยมีรถออกทุก 15 นาที หากเป็นช่วงที่คนเยอะ จะมีรถออกทุก 10 นาที

คิวยาวจริงๆ ทั้งคนที่รอขึ้นเคเบิลคาร์และคนที่รอซื้อขนมของฝาก ตรงนี้มีร้านขายขนมขึ้นชื่อทั้งชีสทาร์ตและเท็งงุยากิ (เป็นขนมคล้ายๆ กับไทยากิ) ใครได้ลองแล้วเป็นยังไงบ้าง มาแชร์กันได้นะคะ

หน้าตาของเคเบิลคาร์ คล้ายกับรถราง แต่ตัวรถลาดไปกับองศาของสันเขา คนที่ได้นั่งริมกระจกก็สามารถชมวิวระหว่างทางได้ ส่วนแอดฯ ก็ได้แต่ยืนเกร็งเกาะขอบเก้าอี้กันไปค่ะ

วิวอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีตอนที่ลงรถแล้ว

Mt. Takao Shopping Street

เมื่อลงมาด้านล่างแล้วก็ต้องหาไรกินกันตรงถนนโอโมเตะซันโด (Omotesando) ที่อยู่ใกล้ๆ กับทางขึ้นเขา นอกจากร้านอาหารแล้ว ตรงถนนเส้นนี้ก็ยังมีร้านขายของฝากและขนมของกินเล่นอีกด้วย สามารถมาแวะช้อปปิ้งกันก่อนกลับได้

Sakae Chaya

ที่ทาคาโอะนั้นมีร้านโซบะอยู่หลายร้าน แต่ไม่ว่าจะเป็นร้านไหนก็มีคนรอเต็มไปหมด แอดฯ เลือกร้านที่มีชื่อ Sakae Chaya (栄茶屋) เห็นว่าเป็นร้านใหญ่แล้วมีเมนูภาษาอังกฤษด้วยค่ะ

จัดหนักไปเลยกับเมนู Katsudon with Soba อิ่มจนจุก

TAKAO 599 MUSEUM

พิพิธภัณฑ์ทาคาโอะ 599 (TAKAO 599 MUSEUM / 高尾599ミュージアム) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทาคาโอะ ใกล้กับสถานี Takaosanguchi เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับธรรมชาติและระบบนิเวศของภูเขาทาคาโอะ โดยตัวเลข “599” นั้นก็มาจากความสูง 599 เมตรของเขาทาคาโอะนั่นเอง

ส่งท้าย

สถานี Takaosanguchi

สำหรับใครที่อยากแช่ออนเซ็นก็ยังไปแวะได้ที่ Keio Takaosan Onsen Gokurakuyu ตรงสถานี Takaosanguchi ซึ่งพาส Mt. Takao + Keio 1-Day Ticket ที่เราซื้อมานั้นก็มีบัตรที่ใช้แลกผ้าเช็ดหน้าได้ 1 ผืน เมื่อชำระค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับการใช้ออนเซ็น นอกจากนี้ถ้าใครยังอยากช้อปปิ้งในโตเกียวต่อ ก็ให้ไปแวะที่ห้าง Keio Shinjuku เพื่อใช้คูปองส่วนลด 5% ที่ได้มากับพาสได้เลย

แอดฯ ก็ขอจบการท่องเที่ยวภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีใน 1 วันไว้เพียงเท่านี้ แนะนำว่าถ้าอยากหลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมืองเพื่อมาชมธรรมชาติ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ยอดเขาทาคาโอะแบบชิลๆ แนะนำให้หลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดนะคะ ไม่งั้นจะได้เจอความครึกครื้นแบบในรีวิวนี้จ้า