[รีวิว] Misasakan เรียวกังออนเซ็นกุหลาบ ในเมืองน้ำพุร้อนของจังหวัดทตโตริ

สวัสดีค่า วันนี้มาพบกับการรีวิวโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า “เรียวกัง” กันบ้างนะคะ สำหรับสถานที่ที่เราจะแนะนำในบทความนี้ก็คือ Misasakan (โรงแรมมิซาสะ) ซึ่งมีจุดขายที่ออนเซ็นลอยกุหลาบอันสวยงาม ตั้งอยู่ในบริเวณมิซาสะ ออนเซ็น (Misasa Onsen) ซึ่งเป็นเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดทตโตริ (Tottori) ค่ะ

อย่างที่รู้ๆ กันว่าโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นหรือเรียวกังนั้นหาพักยาก และมักจะอยู่ตามนอกเมืองค่ะ ฉะนั้นหากใครมีโอกาสได้เที่ยวต่างจังหวัด เราก็แนะนำว่าให้ลองพักในเรียวกังสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ เพราะว่ามีทุกอย่างที่เราต้องการอยู่ในที่พัก แถมกินอยู่สบายกายสบายใจอีกต่างหาก ลืมวันเวลายุ่งๆ ของเมืองใหญ่อย่างโตเกียวไปได้เลย ว่าแล้วก็ไปดูรีวิววกันเล้ย!

รีวิวโรงแรม Misasakan

โรงแรม Misasakan นั้นตั้งอยู่ที่มิซาสะ ออนเซ็น (Misasa Onsen) ในจังหวัดทตโตริ (Tottori) เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นเป็นอย่างมากค่ะ โรงแรมแห่งนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดโรงแรมหนึ่งของเมืองเลยนะคะ มีทั้งสระน้ำปกติ และบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นมากถึง 12 ประเภท (ประเภทน้ำแร่) ภายในบริเวณที่ให้บริการออนเซ็นยังสามารถชมสวนแบบญี่ปุ่น และฟังเสียงน้ำตกได้อีกด้วยค่ะ ทางโรงแรมมีบริการทั้งออนเซ็นแบบในร่มและกลางแจ้ง โดยเฉพาะบ่อกลางแจ้งที่มีการลอยกุหลาบหลากสีมากกว่า 200 ดอกทุกวัน เป็นบ่อที่สาวๆ ใฝ่ฝันอย่างมากเลยนะคะ

สำหรับวิธีการเดินทาง ก็มีรถ Free Shuttle Bus ของโรงแรมให้บริการระวางสถานี JR Kurayoshi (ต้องจองล่วงหน้ากับทางโรงแรมก่อน) หรือหากเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ก็เริ่มต้นจากสถานีรถไฟ JR Kurayoshi เช่นกัน ให้นั่งรถบัสสาย Misasa Line จุดขึ้นรถ No.3 มาลงป้าย Misasa Onsen-Guchi (ค่าโดยสาร 470 เยน) แล้วเดินต่ออีก 1 นาที หรือจะนั่งแท็กซี่จากสถานีก็ได้ค่ะ

แนะนำว่าให้เดินทางมาถึงที่โรงแรมประมาณบ่าย 2-3 โมงค่ะ หรือจะมาเที่ยงๆ เลยก็ได้สำหรับคนที่อยากเดินเล่นและอยากว่ายน้ำ (เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้นนะ) เมื่อมาถึงแล้วก็เอาประเป๋าไปฝากก่อนค่ะ จัดการติดต่ออะไรให้เรียบร้อย และทางโรงแรมจะขนกระเป๋าไปเก็บที่ห้องให้เราเลย

ทำเรื่องเสร็จแล้วก็เดินชมโรงแรมนิดๆ หน่อยๆ ค่ะ ที่นี่เป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่น คือมีสวนอยู่ตรงกลางแล้วสร้างอาคารล้อมรอบค่ะ ทำให้สามารถชมสวนได้อย่างผ่อนคลาย ล็อบบี้สะอาดเรียบร้อยดีค่ะ และเอกลักษณ์ของโรงแรมตามต่างจังหวัดคือ เป็นโรงแรมไม่ใหม่ ดีไซน์สิ่งของต่างๆ จะเป็นแบบเก่า ให้ความรู้สึกโบราณนิดๆ แต่สะอาดน่าพักค่ะ

นั่งพักเอาแรงกันเสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นรอบๆ โรงแรมค่ะ ด้านหน้าจะมีสะพานข้ามแม่น้ำอยู่ ได้ยินเสียงน้ำไหล บรรยากาศค่อนข้างดี อีกฟากเป็นต้นไม้ เป็นป่าสน ให้บรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ

เดินข้ามฝั่งไปจะมีทางเดินเลียบชายป่าไปประมาณ 300 เมตร จะเป็นโซน Hot Spring และ Kawahara Bath ซึ่ง Hot Spring ที่ว่านี้ก็เป็นบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งริมแม่น้ำ ไม่มีอะไรปิดกั้นเลยค่ะ ใครกล้าอาบก็ลงเลย ลงได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งก็มีบางคนโดนหลอกให้ลงเหมือนกันค่ะ แต่เราไม่กล้า มีแต่ชายฉกรรจ์ น่ากลัวนิดหน่อย ลุงๆ เขาก็มองกลุ่มสาวไทยด้วยความทึ่งที่กล้าไปนั่งคุยกับลุงๆ เขาล่ะค่ะ

เดินเล่นรอบๆ โรงแรมเหนื่อยแล้วก็กลับมาเช็คอินค่ะ กระเป๋าสัมภาระของเราก็มีเจ้าหน้าที่ยกขึ้นไปบนห้องแล้ว ส่วนแอร์เปิดเอาไว้เรียบร้อย และธรรมเนียมที่ขาดไม่ได้คือพนักงานที่แต่งชุดกิโมโนเขาจะขึ้นมาอธิบายการใช้ห้อง รวมถึงเวลาอาหารเย็นค่ะ

พอเขาออกไปแล้วเราจะเห็นขนมวางบนโต๊ะ สามารถชงชาดื่มกับอาหารว่างรองท้องได้เลยค่ะ ส่วนขนมใครติดใจสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของฝากร้านหน้าล็อบบี้นั่นเอง (กลยุทธ์การขายดีจริงๆ)

นี่ก็คือร้านขายของฝากที่กล่าวถึงไปเมื่อสักครู่ค่ะ มีทั้งของฝาก ของอบแห้ง ของดังท้องถิ่น มีจำหน่าย ไม่ไอศกรีมขายด้วยนะคะ ชอบมาก

จากนั้นก็เดินเล่นสำรวจทั่วโรงแรมค่ะ เสน่ห์ของเรียวกังคือความเป็นญี่ปุ่นแบบหรูหราเล็กน้อย ตามทางเดินบางช่วงก็เป็นเสื่อทาทามิที่ต้องถอดรองเท้าเดิน ตรงทางเข้าห้องอาหารมีการจัดไฟซะอลังการ ยิ่งคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแบบนี้คือดีงามที่สุด ประทับใจมากๆ ค่ะ

และแล้วก็มาถึงเวลาของการรับประทานอาหารที่เรารอมานานค่ะ เนื่องจากว่ามื้อเย็นจะเป็นอาหารแบบคอร์ส และเป็นห้องส่วนตัวก็จะเป็นห้องกว้าง แต่มีเก้าอี้ให้ ไม่ต้องนั่งทาทามิค่ะ บนโต๊ะมีอาหารคล้ายๆ ออเดิร์ฟเตรียมไว้ให้ และมีรายอาหารที่จะยกมาเสิร์ฟหลังจากนี้ด้วย

การทานอาหารแบบคอร์สนั้นเป็นการทานแบบจัดลำดับ ไม่ยกมาเสิร์ฟทีเดียวค่ะ ส่วนใหญ่เป็นซาชิมิ เครื่องเคียง และสาเกสำหรับดื่มฉลอง แล้วค่อยเป็นของทอด ของต้มหรือนึ่ง แล้วจึงปิดท้ายด้วยข้าว (บางเซ็ต) และล้างปากด้วยของหวานค่ะ

อิ่มหนำสำราญแล้ว เมื่อเรากลับมาที่ห้องจะพบว่าพนักงานได้เตรียมฟูกที่นอนเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว โดยจะหันหัวไปด้านที่มีรูปภาพค่ะ ถ้าเป็นหน้าหนาวจะได้กลิ่นทาทามิอ่อนๆ กับอากาศอุ่นๆ จากฮีตเตอร์ จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้นนั่นเอง แต่ด้วยความที่เราพึ่งทานเสร็จก็นอนตีพุงสักพักแล้วค่อยลงไปแช่ออนเซ็นกุหลาบค่ะ ลงไปดึกหน่อย คนไม่ค่อยเยอะ และค่อนข้างเป็นส่วนตัว (ไม่มีรูปในบ่อนะคะ)

สำหรับคนที่ไม่แช่ออนเซ็น ก็สามารถอาบน้ำในห้องได้นะคะ แต่ว่าด้วยความที่ไม่ใช่โรงแรมสมัยใหม่ ห้องน้ำยังเป็นแบบญี่ปุ่นสมัยเก่า สภาพสะอาดเรียบร้อยดี แค่ไม่ฟินเท่ากับลงบ่อออนเซ็นจริงๆ เท่านั้นเอง หรือคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถแช่แบบไพรเวทออนเซ็นแทนได้ค่ะ มีค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงด้วย สามารถติดต่อที่รีเซ็บชั่นเพื่อดูว่าห้องไพรเวทว่างช่วงไหนบ้าง

แช่น้ำร้อนเสร็จแล้วเราก็จะเพลียหน่อยๆ และนอนหลับไปอย่างง่าย ไม่ทันรู้ตัวก็เช้าแล้วค่ะ ได้เวลากินอีกแล้ว ฮ่าๆ อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์ทานเองอิสระ มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหาร เอเชีย และอาหารตะวันตก แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ ทานอาหารพักผ่อนให้สบายใจรอเวลาเช็คเอาท์ แล้วก็ออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อ

ข้อสรุปหลังเข้าพัก

โรงแรมบริการดีตามมาตรฐานเรียวกังชั้นดีค่ะ ที่ชอบมากเป็นพิเศษแน่นอนว่าต้องเป็นออนเซ็นกุกลาบ และยังมีบ่อกลางแจ้งที่ใหญ่มาก ใหญ่ถึงขนาดว่ายน้ำได้ (แต่เขาไม่ให้ว่ายนะคะ) ได้ชมจันทร์ไปด้วย อาบน้ำร้อนไปด้วย คือที่สุดค่ะ คนไม่เยอะเกินไป มียูคาตะให้ เดินเล่นในเมืองออนเซ็นได้ด้วย (ปกติยูคาตะจะให้ใส่แค่ภายในโรงแรม)

ส่วนเรื่องอาหารก็อร่อยดีค่ะ แต่บางอย่างก็ไม่รู้จัก คนที่ไม่ชินกับอาหารญี่ปุ่นจะรู้สึกแปลกๆ แต่หากมีโอกาสสักครั้งก็อยากให้ลองทานค่ะ ปกติอาหารแบบนี้ไม่ค่อยมีให้ทาน หรือมีในร้านที่ราคาค่อนข้างสูง มาพักแล้วทานแบบนี้ก็จะไม่แพงเท่ากับการเดินเข้าร้านอาหารในเมืองใหญ่ๆ ถือว่าคุ้มค่านะคะ แต่เสียดายตรงที่เขาคิดเงินเป็นรายหัว ไม่ใช่รายห้องแบบโรงแรมตะวันตก ทำให้เราไม่สามารถประหยัดค่าห้องได้เลย

ข้อมูลโรงแรม Misasakan

ชื่อภาษาญี่ปุ่น

三朝館 (Misasakan)

ที่อยู่โรงแรม

174 Yamada, Misasa, Tōhaku District, Tottori 682-0122
〒682-0122 鳥取県東伯郡三朝町山田174
[ดูแผนที่ Google Map]

การเดินทาง

• จากสถานี JR Kurayoshi สามารถนั่ง Free Shuttle Bus (ต้องจองล่วงหน้า)
• จากสถานี JR Kurayoshi ให้นั่งรถบัสมุ่งหน้าไป Misasa Onsen มาลงป้าย Misasa Onsen-Guchi

ระดับ

4 ดาว

ราคาห้องพัก

ห้องญี่ปุ่นปกติ รวมอาหารเช้าและอาหารเย็นแบบไคเซกิ (เสิร์ฟตามคอร์ส) บริการออนเซ็นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวม 17,600 เยน/คน [สามารถตรวจสอบราคาที่แน่นอนได้ » ที่นี่]

จำนวนห้องพัก

81 ห้อง

เวลา Check-in

ตั้งแต่ 15:00 น.

เวลา Check-out

ก่อน 10:00 น.

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก

· เครื่องปรับอากาศ · โทรทัศน์ · โทรศัพท์ · โต๊ะทำงาน/เก้าอี้ · ตู้เย็น · ห้องน้ำในตัว · ของใช้ในห้องน้ำ · ไม้แขวนเสื้อ · เสื้อคลุม · รองเท้าแตะ · ไดร์เป่าผม · อินเตอร์เน็ต WiFi

สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง

 · ออนเซ็นกลางแจ้ง · ออนเซ็นส่วนตัว · สระว่ายน้ำ (เฉพาะหน้าร้อน) · สวนญี่ปุ่น · คาราโอเกะ · ตู้ขายน้ำหยอดเหรียญ · บริการฝากกระเป๋า