สวัสดีค่า วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรีวิวเที่ยวที่ “ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)” ซึ่งเป็นศาลเจ้าชื่อดังที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะหากได้มาเยือนโตเกียว นอกจากนั้นแล้วเรายังมีวิธีการไหว้ศาลเจ้าแบบคนญี่ปุ่นมาฝากด้วยนะคะ
เกี่ยวกับศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) [ภาษาญี่ปุ่น: 明治神宮 (Meiji Jingu)] เป็นศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 7 แสนตารางเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 เพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง มีทำเลที่ตั้งอยู่ที่ย่านฮาราจูกุ ในเขตชิบูย่า กรุงโตเกียว
เว็บไซต์: meijijingu.or.jp/english/
เวลาทำการ: พระอาทิตย์ขึ้น (5:00-6:40) จนถึงพระอาทิตย์ตก (16:00-18:30) ดูรายละเอียด
วิธีการเดินทางมายังศาลเจ้า Meiji Shrine
ถ้ามาจากทางฮาราจูกุ สามารถเดินทางมาได้ 2 วิธีคือ
・ นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote
ลงที่สถานี Harajuku Station ดูแผนที่
・ นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda หรือ Fukutoshin
ลงที่สถานี Meiji-Jingumae ‘Harajuku’ Station ดูแผนที่
รีวิวเที่ยวศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)
เริ่มจากสะพานหิน Jingu Bashi ที่อยู่ตรงแยกใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ JR Harajuku ให้เดินข้ามสะพานนี้ไปอีกฝั่งนะคะ
แล้วก็จะเจอลานกว้างๆ กับทางเข้าที่เป็นเสาไม้ขนาดใหญ่ เสานี้เรียกว่า Torii ค่ะ จากนั้นต้องเดินเข้าไปด้านในอีกประมาณ 10 นาทีจึงจะถึงอาคารหลักของศาลเจ้า (Main Shrine Building)
เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับถังสาเกวางเรียงรายและมีลวดลายสวยงาม ลองเทียบกับคนเห็นได้ชัดเลยว่าใหญ่มากเลย
อีกฟากเป็นถังไวน์ ใหญ่อลังไม่แพ้กัน ทั้งสาเกและไวน์นี้มีคนบริจาคให้ศาลเจ้าไว้ใช้สำหรับดื่มเพื่อเป็นศิริมงคลในโอกาสต่างๆ ค่ะ เช่น วันปีใหม่ วันแต่งงาน เป็นต้น
Meiji Shrine Inner Garden
ภายในบริเวณศาลเจ้าเมจิยังมีสวนขนาดใหญ่ให้เที่ยวชมด้วยนะคะ สวนนี้มีชื่อว่า Meiji Shrine Inner Garden [ภาษาญี่ปุ่น: 明治神宮御苑 (Meiji Jingu Gyoen)] ทางเข้าสวนอยู่ก่อนถึงตัวศาลเจ้าด้านใน มีค่าเข้าชม 500 เยนด้วยนะคะ ภายในสวนมีธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ให้ชม รวมถึงสวนดอกไม้ที่จะสลับกันบานในแต่ละฤดู ไฮไลท์ของสวนนี้คือดอกไอริสซึ่งจะบานในช่วงต้นเดือนมิถุนายนค่ะ ไปส่องรีวิวได้ที่บทความนี้เลยค่า > ชวนชมดอกไอริสและธรรมชาติในเมืองใหญ่ที่ Meiji Shrine Inner Garden!
แผนที่ภายในสวน Meiji Shrine Inner Garden ค่ะ ภายในบริเวณศาลเจ้าเมจิแห่งนี้มีต้นไม้มากกว่า 1 แสนต้น และมีพันธุ์ไม้กว่า 300 ชนิดเลยนะคะ ซึ่งได้รับบริจาคมาจากประชาชนทั่วประเทศญี่ปุ่นตอนที่สร้างสวน หากไม่แวะสวน ก็ไปต่อโลด!
เดินเดินเดินมาเรื่อยๆ จนเจอเสา Torii กับรั้วกั้น แสดงว่าใกล้จะถึงตัวอาคารหลักของศาลเจ้าเมจิแล้วค่า ถ้าทำตามแบบคนญี่ปุ่นเวลาเดินผ่านเสา Torii ก็ต้องโค้งทั้งขาเข้าและขาออกเลยนะคะ
ก่อนเดินเข้ามาด้านใน จะเจอกับซุ้ม Temizuya อยู่ท้างซ้าย ให้แวะล้างมือ ล้างปากที่นี่ก่อนเข้าศาลเจ้า โดยมีวิธีการล้างดังนี้นะคะ
1. ใช้มือขวาจับกระบวยแล้วตักน้ำให้เต็ม แล้วเทล้างมือซ้ายก่อน
2. เปลี่ยนมาใช้มือซ้ายจับกระบวย แล้วตักน้ำเทล้างมือขวา
3. เปลี่ยนมาใช้มือขวาจับกระบวยอีกครั้ง ตักน้ำ รินน้ำใส่มือซ้าย แล้วนำน้ำจากมือซ้ายมาล้างรอบๆ ปาก
4. เทน้ำล้างมือซ้ายอีกรอบจนน้ำหมดกระบวย
5. ตักน้ำใส่กระบวยเพื่อล้างกระบวย โดยปล่อยให้น้ำไหลผ่านที่จับจนหมดกระบวย
สรุปเสต็ปการล้าง จะได้จำง่ายๆ นะคะ
ล้างมือซ้าย → ล้างมือขวา → ล้างปาก → ล้างมือซ้าย → ล้างกระบวย
ล้างเสร็จแล้วก็ไปต่อเลยค่าาา พอเดินผ่านเสา Torii เข้ามา ก็จะเจอกับอาคารชื่อว่า Shukueisha อยู่ทางซ้ายมือ
จากนั้นก็เดินผ่านซุ้มนี้เข้าไปต่อเลยนะคะ
พอเดินรอดซุ้มมาก็เป็นลานกว้างหน้าอาคารหลักของศาลเจ้า
บรรยากาศรอบๆ ในบริเวณลานหน้าอาคารหลัก
เดินตรงไปที่อาคารหลักของศาลเจ้าเมจิเลยค่าเพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า คนญี่ปุ่นเค้าก็มีวิธีการสักการะด้วยนะคะ (อีกแล้วเหรอ ฮาาา)
1. ให้โยนเหรียญลงไปในกล่องใหญ่ๆ ที่เป็นไม้ซี่ๆ (นิยมใช้เหรียญ 5 เยน เพราะเสียงอ่านในภาษาญี่ปุ่นพ้องกับคำว่า ความสุข ความโชคดีค่า (ของไทย 555 เป็นเสียงหัวเราะเนอะ) เหรียญ 5 เยนนี้ก็ค่อนข้างหายากด้วย ใครได้ทอนมา เก็บไว้ให้ดีนะคะ ^^)
2. โค้ง 2 ครั้ง
3. ปรบมือ 2 ครั้ง
4. ขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
5. โค้งอีกครั้งปิดท้าย
สรุปเสต็ปการไหว้ จะได้จำง่ายๆ นะคะ
โยนเหรียญ → โค้ง 2 ครั้ง → ปรบมือ 2 ครั้ง → ขอพร → โค้ง 1 ครั้ง
ศาลเจ้าเมจิเป็นศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมที่สุดของญี่ปุ่นในการมาขอพรช่วงปีใหม่ มีคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาที่ศาลเจ้าในช่วงปีใหม่กว่า 3 ล้านคนเลยทีเดียวค่ะ ถ้ามาช่วงนั้นคนจะเยอะมากต้องเข้าคิวกันเลยล่ะค่ะ นอกจากนั้นแล้วก็ยังนิยมใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานแบบชินโตด้วยนะคะ
ซุ้มนี้ก็คือซุ้มสำหรับแขวนบนแผ่นไม้ Ema สำหรับขอพร ใครที่ต้องการเขียนคำขอพรสามารถซื้อแผ่นไม้ได้ในราคา 500 เยน ค่ะ
ทางศาลเจ้ามีปากกาให้พร้อม เขียนเสร็จแล้วอธิษฐาน จากนั้นก็เอาแผ่นไม้มาแขวนค่ะ คำขอพรบนแผ่นไม้มีหลากหลายภาษาเลย ^^
ตรงนี้เป็นโซนทำนายโชคชะตาค่ะ เรียกว่า Omikuji (คล้ายๆ กับการเสี่ยงเซียมซีในบ้านเรา)
มีเครื่องราง (Omamori) จำหน่ายด้วยนะคะ สามารถเลือกได้ตามจุดประสงค์ที่ต้องการเลย ^^
ตอนขากลับ หากใครเที่ยวจนเหนื่อยแล้วก็สามารถแวะพักแถวนี้ได้นะคะ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งที่จัดนิทรรศการ Treasure Museum Annex
ถ้ามาเที่ยวศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) แนะนำว่าให้มาเช้าๆ จะดีกว่านะคะ เพราะศาลเจ้าเปิดแต่เช้า เสร็จแล้วจะได้มีเวลาไปช้อปต่อเยอะๆ (ฮา) ส่วนใครที่อยากหาแหล่งช้อปปิ้งในย่านนี้ ตามไปที่บทความนี้เลยค่า > คู่มือท่องเที่ยวย่านฮาราจูกุ
สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าค่า
บทความที่เกี่ยวข้องกับวัดและศาลเจ้าญี่ปุ่น
・ [รีวิว] มาขอพรและชมซากุระที่ศาลเจ้า Hanazono Shrine ในชินจูกุ
・ พาเที่ยววัดนาริตะซัน (Naritasan Shinshoji Temple) ที่นาริตะ จ.จิบะ
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com