วันนี้เราจะพามาชมซากุระกันที่อุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็น (Kyoto Gyoen National Garden) ที่อยู่ในใจกลางเมืองเกียวโตกันนะคะ เป็นสวนที่มีพื้นที่กว้างขวางมาก ภายในก็ยังมีสถานที่สำคัญได้แก่ พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace) และพระราชวังเซนโต (Kyoto Sento Imperial Palace) ที่สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ฟรีเลยค่ะ
เกี่ยวกับ Kyoto Gyoen National Garden
ประวัติความเป็นมา
อุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็น (Kyoto Gyoen National Garden / 京都御苑) หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “สวนเกียวโตเกียวเอ็น” เป็นอุทยานที่อยู่รอบๆ พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace) ในจังหวัดเกียวโต (Kyoto) แต่เดิมเคยเป็นส่วนของ ‘เมืองขุนนาง’ ที่ล้อมรอบพระราชวัง ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองในสมัยนั้น
ในสมัยเมจิ มีการย้ายเมืองหลวงจากเกียวโตไปยังเมืองโตเกียว พระราชวังแห่งนี้ก็ได้ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว จึงมีการริเริ่ม ‘โครงการอนุรักษ์โออุจิ’ โดยฟื้นฟูส่วนที่เคยเป็นเมือง ‘เมืองขุนนาง’ เพื่อเปลี่ยนเป็นสวนของพระราชวังแทน ต่อมาในสมัยไทโช ได้มีการปรับปรุงสวนเพื่อใช้จัดพิธีขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิไทโช จึงได้มีการจัดวางพื้นที่สวนเป็นอย่างดี โดยมีพื้นที่สัญจรกว้างขวางทั้ง 4 ด้านที่มีเอกลักษณ์มานับร้อยปี
ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็นแห่งนี้ได้เปิดเป็นที่สาธารณประโยชน์ให้ประชาชนเข้ามาใช้ร่วมกัน อาทิ เดินเล่น ออกกำลังกาย เล่นกีฬา และนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมความสวยงามของต้นไม้และดอกไม้ต่าง ๆ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเบ่งบานได้ตลอดทั้งปี เช่น ต้นซากุระ ต้นเมเปิ้ล ต้นพลัม ต้นพีช ต้นแปะก๊วย
สาระและเกร็ดน่ารู้
ภายในอุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็น (Kyoto Gyoen National Garden) มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทุกฤดูกาล ด้วยการปรับปรุงสวนที่เริ่มตั้งแต่โครงการอนุรักษ์กันมายาวนานตั้งแต่สมัยเมจิ ผ่านมาแล้วกว่า 150 ปี ปัจจุบันก็มีต้นไม้ประมาณ 50,000 ต้น พันธุ์พืชกว่า 500 สายพันธุ์ นกป่ากว่า 100 สายพันธุ์ ผีเสื้อกว่า 50 สายพันธุ์ และเห็ดกว่า 400 สายพันธุ์ นับว่าเป็นระบบนิเวศน์ป่าที่อยู่ใจกลางเมืองที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง
ข้อมูลการเยี่ยมชม
อุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็น (Kyoto Gyoen National Garden)
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- เวลาทำการ: เปิด 24 ชั่วโมง
พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace)
พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace) ที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเปิดให้เข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยว Walk-in เข้าไปชมด้านในได้หรือเข้าร่วมทัวร์โดยไม่ต้องลงทะเบียน
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- รอบทัวร์: รอบละ 50 นาที
- ภาษาญี่ปุ่น 9:30 / 10:30 / 13:30 / 14:30
- ภาษาอังกฤษ 10:00 / 14:00
- ภาษาจีน 10:00 / 14:00
- เวลาทำการ:
- กันยายน, มีนาคม 9:00 – 16:30 (เข้าก่อน 15:50)
- ตุลาคม – กุมภาพันธ์ 9:00 -16:00 (เข้าก่อน 15:20)
- เมษายน – สิงหาคม 9:00 – 17:00 (เข้าก่อน 16:20)
- วันหยุด:
- ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนขัตฤกษ์ จะปิดทำการในวันถัดไปแทน)
- 28 ธันวาคม – 4 เมษายน
พระราชวังเซนโต (Kyoto Sento Imperial Palace)
พระราชวังเซนโต (Kyoto Sento Imperial Palace) ที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเปิดให้เข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวเข้าไปชมด้านในได้พร้อมกับทัวร์ โดยสามารถลงเบียนได้ล่วงหน้า และแบบ Walk-in
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- การลงทะเบียน:
- ลงทะเบียนล่วงหน้าทางออนไลน์ (ล่วงหน้าได้ 3 เดือนนับจากวันแรกเดือนของวันที่เยี่ยมชม – 3 วันก่อนวันเยี่ยมชม)
- ลงทะเบียนล่วงหน้าที่ Kyoto Office of the Imperial Household Agency (ล่วงหน้าได้ 3 เดือนนับจากวันแรกเดือนของวันที่เยี่ยมชม – 3 วันก่อนวันเยี่ยมชม)
- ลงทะเบียนแบบ Walk-in ในวันที่เข้าชมที่ North Gate of Kyoto Sento Imperial Palace (เริ่มเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่ 11:00 น.)
※ต้องใช้พาสปอร์ต
※ผู้เข้าร่วมทัวร์ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- รอบทัวร์: รอบละ 60 นาที
- สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า
9:30 / 11:00 / 13:30 / 14:30 / 15:30
※จำกัดรอบละ 50 คน - สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแบบ Walk-in
13:30 / 14:30 / 15:30
※จำกัดรอบละ 35 คน
- สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า
- วันหยุด:
- ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุด จะปิดทำการในวันถัดไปแทน)
- 28 ธันวาคม – 4 เมษายน
พยากรณ์ซากุระบาน
ปี | วันที่เริ่มบาน | วันที่บานเต็มที่ |
---|---|---|
2024 | 21 มีนาคม 2024 ~ | 29 มีนาคม 2024 ~ |
วิธีการเดินทาง
รถไฟ
สถานีรถไฟใกล้เคียง คือ
- Marutamachi (รถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line) ออกทางออกที่ 1 แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
- Imadegawa (รถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line) ออกทางออกที่ 3 แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
รีวิวชมซากุระที่ Kyoto Gyoen National Garden
ขอตั้งต้นการเดินทางมาเที่ยวเกียวโตจากโอซาก้านะคะ ส่วนตัวนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Shin-Osaka มายังสถานี Kyoto แบบไม่ใช้พาส ต้องมีคนบอก “แกบ้ารึเปล่า นั่งรถไฟแค่นี้เอง” จะบอกว่าเป็นเคล็ดลับเลยนะคะ นั่งตู้แบบไม่จองที่นั่ง ค่าโดยสารอยู่ที่ 1,450 เยน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีก็ถึงแล้ว ถ้านั่งรถไฟปกติก็ใช้เวลาประมาณ 25-40 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 580 เยน เลือกได้ตามความสะดวกและงบประมาณค่ะ เราเลือกประหยัดเวลาก็นั่งชินคันเซ็นมาเลยจ้า
เมื่อมาถึงสถานี Kyoto แล้วเราก็ซื้อ Kyoto Subway & Bus 1-Day Pass ปัจจุบันปี 2024 ขึ้นราคาเป็น 1,100 เยนสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กก็อยู่ที่ 550 เยน สามารถหาซื้อได้ที่ศูนย์บริการที่สถานีรถไฟใต้ดิน จะเขียนเอาไว้ตัวใหญ่ๆ เลยว่าจำหน่ายพาสนี้โดยเฉพาะ
ในการท่องเที่ยวภายในเมืองเกียวโตนั้น บางสถานที่ต้องใช้รถไฟและบางสถานที่ต้องใช้รถบัส เราเองก็มีเวลาน้อย ที่เที่ยวไหนสะดวกนั่งรถไฟก็นั่ง ที่เที่ยวไหนสะดวกเป็นรถบัสก็จะได้นั่งแบบสบายใจ อีกอย่างขากลับสถานี Kyoto ถ้านั่งรถไฟได้ก็จะดี ไม่ต้องไปอัดบนรถบัสและเลี่ยงรถติดได้เยอะค่ะ
กลับมาที่วิธีการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็น (Kyoto Gyoen National Garden) จากสถานี Kyoto ก็ให้นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line มาลงสถานี Marutamachi หรือ Imadegawa ก็ได้เช่นกันค่ะ ต่างกันแค่ว่าอยู่คนละหัวมุมของสวนเท่านั้นเอง (ถ้ามาจากสถานี Kyoto จะถึงสถานี Marutamachi ก่อน)
เราเลือกลงที่สถานี Imadegawa ซึ่งจะอยู่ใกล้กับพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace) มากกว่า เดินออกทางประตู Exit 3 มาเข้าทางประตู Innui-Gomon Gate จากสถานีเดินไม่นานก็เข้ามาถึงถนนเส้นรอบพระราชวังแล้วค่ะ
ภายในสวนนั้นกว้างมากกกกกก คิดในใจ คนเราจะสร้างถนนอลังการขนาดนี้ไปทำไมกัน ถึงกับต้องไปอ่านประวัติของที่กันเลยทีเดียว แท้จริงแล้วทางเดินอันกว้างใหญ่ที่แทบจะเตะบอลได้นี้ เขาสร้างเอาไว้สำหรับเป็นทางรถม้าและขบวนพระราชพิธีราชาภิเษกขององค์จักรพรรดิในสมัยก่อน จึงได้สร้างถนนมาแบบอลังการงานสร้างมากๆ อย่างที่เห็นในภาพค่ะ
หลังจากตะลึงกับถนนในสวนแล้ว เราก็เดินไปเรื่อยๆ จะเจอต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีอยู่รอบ ๆ พระราชวังเลยค่ะ ส่วนใหญ่เป็นต้นสนยักษ์ ซึ่งมีข้อดีคือใบไม้จะไม่ร่วงแม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว ทำให้ที่นี่เขียวขจีทั้งปีนั่นเอง เดินชมบรรยากาศไปเรื่อย ๆ ไปยังจุดที่มีซากุระบานซึ่งอยู่ที่ Site of the Konoe Residence [ดูแผนที่] โดยอยู่ตรงข้ามกับพระราชวังค่ะ เนื่องจากจุดประสงค์ในการมาเที่ยววันนี้ก็เพื่อมาชมซากุระที่อยู่ด้านนอก เราจึงไม่ได้เข้าไปด้านในพระราชวังนะคะ
ซากุระของที่สวนเกียวโตเกียวเอ็นจะเน้นไปที่ซากุระที่มีอายุเก่าแก่ซึ่งเป็นสายพันธุ์ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) ที่มีลักษณะเป็นกิ่งย้อยลงมาคล้ายกับสายน้ำตก มีเสน่ห์และมนต์ขลังในแบบโบราณ ลำต้นขนาดใหญ่ กิ่งก้านสาขาแผ่กว้างขวางมาก จนหลายๆ ต้นต้องมีเสาค้ำเพื่อไม่ให้กิ่งโน้มต่ำจนเกินไป ต้นซากุระที่มีอายุมากก็จะมีการกั้นบริเวณไม่ให้เราเข้าใกล้เกินไป ทำให้สามารถเก็บภาพความอลังการได้เต็มทั้งต้นเลยค่ะ
ซากุระพันธุ์ย้อยของที่นี่จะเหมาะแก่การชมในช่วงประมาณสิ้นเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนะคะ ความสวยงามของซากุระโบราณจะมีรูปทรงที่แปลกตากว่าที่เห็นทั่วไปตามในเมืองมาก รูปที่ถ่ายออกมาก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันตามมุมถ่ายภาพค่ะ
ส่วนท่านใดที่ต้องการถ่ายรูปแบบใกล้ชิดก็จะมีซากุระต้นที่อยู่นอกสวนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นต้นซากุระที่อยู่บนเนินติดกับทางเดินหินรอบพระราชวัง ลักษณะต้นค่อยๆ เลื้อยลงมาตามระดับเนินดินที่เราเดินอยู่ค่ะ จุดนี้สามารถถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิดมากๆ ค่อนข้างได้รับความนิยมจากคนเดินผ่านไปผ่านมา เนื่องจากเข้าถึงง่ายกว่า และถ่ายรูปแบบใกล้ๆ ได้นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเราควรจะรักษามารยาทในการชมซากุระที่ดี เพื่อให้ทุกคนได้ชมซากุระสวยๆ เหมือนที่เราได้ชมกันนะคะ
ส่งท้าย
ในเรื่องของความคุ้มค่าในการมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็น (Kyoto Gyoen National Garden) นับว่าเป็นสถานที่ที่ควรแก่การมาเที่ยวค่ะ ภายในพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับคนที่อยากมาถ่ายรูปแบบจริงจังและไม่ต้องการเจอคนแออัด แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดูกาลอีกด้วย ไว้ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิที่สามารถชมซากุระได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน และฤดูใบไม้ร่วงที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคมค่ะ
นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าชมพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (Kyoto Imperial Palace) และพระราชวังเซนโต (Kyoto Sento Imperial Palace) ได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย นับว่าเป็นเรื่องหายากในเกียวโตที่มักจะมีการเก็บค่าเข้าชมเกือบทุกที่ที่เป็นสถานที่โบราณ สำหรับท่านใดที่มาเกียวโตก็อย่าลืมแวะมาชมสวนแห่งนี้กันนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า
อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวสวนมารุยามะ (Maruyama Park) ชมซากุระร้องไห้ชื่อดังของเกียวโต
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในเกียวโต
บทความเที่ยวเกียวโต (Kyoto)
การเดินทาง
- สนามบินคันไซ (Kansai Airport) และวิธีการเดินทางเข้าเมือง
- [รีวิว] รถไฟ JR HARUKA เดินทางเข้าเมืองจาก Kansai Airport
- Kansai Thru Pass พาสท่องเที่ยวคันไซแบบคุ้มๆ ด้วยรถไฟเอกชน
- JR Kansai Wide Area Pass พาสนั่งรถไฟเที่ยวทั่วคันไซ 5 วัน
สถานที่ท่องเที่ยว
› เกียวโตกลาง (Central Kyoto)
› เกียวโตตะวันออก (Eastern Kyoto)
- [รีวิว] ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) & เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda)
- [รีวิว] วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) วัดน้ำใสแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] ย่านกิออน (Gion) ย่านเกอิชาและไมโกะแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) ศาลเจ้ากิออน เมืองเกียวโต
- [รีวิว] สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park) ชมซากุระที่เกียวโต
- [รีวิว] วัดชิออนอิน (Chionin Temple) ชมงานประดับไฟช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
- [รีวิว] วัดโชเร็นอิน (Shorenin Temple) ชมงานประดับไฟช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
- [รีวิว] วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) วัดเงินแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher's Path) ในเกียวโต
- [รีวิว] วัดเอคันโด (Eikando Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ
- [รีวิว] วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ
› เกียวโตตะวันตก (Western Kyoto)
- [รีวิว] อาราชิยาม่า (Arashiyama) ชมป่าไผ่และใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต
- [รีวิว] วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต
- [รีวิว] สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี
› เกียวโตเหนือ (Northern Kyoto)
- [รีวิว] วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) วัดทองแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดฮมมันจิ (Homman-ji Temple) ชมซากุระยักษ์ยืนหนึ่ง
- [รีวิว] ศาลเจ้าคิฟุเนะ (Kifune Shrine) ศาลเจ้าบันไดสวย
- [รีวิว] วัดรุริโคอิน (Rurikoin Temple) ชมวิวภาพสะท้อนราวกับฝัน
› เกียวโตใต้ (Southern Kyoto)
- [รีวิว] ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha) ศาลเจ้าเสาแดง
- [รีวิว] วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ
- [รีวิว] เมืองอุจิ (Uji) เมืองชาเขียว & วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
- [รีวิว] วัดไดโกจิ (Daigoji Temple) ชมเจดีย์กลางน้ำและใบไม้เปลี่ยนสี
- [รีวิว] วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusangendo Temple) วัดเจ้าแม่กวนอิม
- [รีวิว] วัดโชจุอิน (Shojuin Temple) วัดหน้าต่างหัวใจ
ร้านอาหาร
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com