[รีวิว] เที่ยว Kawaguchiko Music Forest Museum พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีโบราณ

หากมาเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ก็ต้องอยากไปเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิใช่มั้ยคะ? แต่ถ้าเกิดว่าฟ้าฝนไม่เป็นใจขึ้นมาล่ะ ก็คงต้องเปลี่ยนแพลนหาที่เที่ยวที่อื่นแทน… วันนี้เราจะมาแนะนำหนึ่งในที่เที่ยวรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะที่สามารถเพลิดเพลินได้แม้ฝนตกค่ะ ที่เที่ยวที่นี้ก็คือ “พิพิธภัณฑ์คาวากุจิโกะมิวสิคฟอร์เรส (Kawaguchiko Music Forest Museum)” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีโบราณในบรรยากาศหมู่บ้านยุโรปค่ะ ไม่เห็นฟูจิก็ไปเที่ยวยุโรปแทนละกันเนอะ

เกี่ยวกับ Kawaguchiko Music Forest Museum

ข้อมูลการเยี่ยมชม

ชื่อภาษาญี่ปุ่น

河口湖オルゴールの森 (Kawaguchiko Orgel no Mori)

เวลาทำการ

9:00 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)

ค่าเข้าชม

ประเภท	ผู้ใหญ่	เด็ก (มัธยมปลาย)	เด็ก (ประถม-มัธยมต้น)
Speacial Ticket	2,000 เยน	1,500 เยน	–
บุคคลทั่วไป	1,800 เยน	1,300 เยน	1,000 เยน
กลุ่ม (10 คนขึ้นไป)	1,500 เยน	1,100 เยน	800 เยน

หมายเหตุ:

• Speacial Ticket รวมคูปองสำหรับใช้จ่ายในพิพิธภัณฑ์ 500 เยน

อัปเดตข้อมูล Nov 6, 2022

วิธีการเดินทาง

• นั่งรถบัสสาย Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” จากสถานี Kawaguchiko มาลงที่ป้ายหมายเลข 15 (Kawaguchiko Music Forest Museum)

หมายเหตุ:

• ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนป้ายรถบัส Kawaguchiko Music Forest Museum จากหมายเลข 17 มาเป็นหมายเลข 15
• ดูวิธีการเดินทางด้วยรถไฟและรถบัสมายังสถานี Kawaguchiko ได้ที่บทความ » วิธีการเดินทางมาคาวากุจิโกะ

※ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนป้ายหมายเลข 17: Kawaguchiko Music Forest Museum มาเป็นหมายเลข 15

รีวิวเที่ยว Kawaguchiko Music Forest Museum

เริ่มต้นจากสถานี Kawaguchiko นะคะ ให้ซื้อ Pass สำหรับรถบัสราคา 1,200 เยน (ใช้ได้ 2 วัน) จากนั้น ให้มารอขึ้นรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” (ได้ทั้ง Retro Bus และ Omni Bus) ที่ตรงป้ายหมายเลข 1 บริเวณหน้าสถานี แล้วนั่งไปลงป้ายหมายเลข 17 (※ปัจจุบันคือป้ายหมายเลข 15) ใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาทีค่ะ นั่งมองวิวรอบทะเลสาบไปเพลินๆ แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว

บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์

ด้านหน้ามีสวนกุหลาบแต่ตอนนี้ยังไม่บาน

ยืนจดๆ จ้องๆ ป้ายด้านหน้า ดูว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง (บนป้ายมีภาษาไทยด้วยนะคะ) วันที่ไปเป็นวันที่ 28 เมษายน เป็นวันสุดท้ายของอิเวนท์ฤดูใบไม้ผลิของที่นี่เลยค่ะ

ทางเข้าไปซื้อตั๋วเข้าชม

ตั๋วเข้าชมและโบร์ชัวร์

แม้ว่าท้องฟ้าจะขมุกขมัวไปหน่อย แต่วิวก็ยังสวยมากเลยค่ะ ถ้าฟ้าใสๆ จะเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นแบ็คกราวน์ของหมู่บ้านยุโรปแห่งนี้ด้วยนะคะ ต้องยิ่งสวยฝุดๆ แน่นอน คนที่ชอบถ่ายรูปห้ามพลาดเลยล่ะ และที่นี่ยังมีบริการเช่าชุดเจ้าหญิงไว้เดินเที่ยวด้วยนะคะ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน (เช่าได้ 90 นาที)

ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องดนตรีจากต่างประเทศ จัดโซนต่างๆ เป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆ ในบรรยากาศของยุโรป และยังมีการแสดงดนตรีสดๆ ให้ได้ชมด้วยค่ะ

Carillon Square

ตรงลานนี้การแสดงดนตรีประกอบน้ำพุทุกต้นชั่วโมง
ตุ๊กตาตรงหอนาฬิกานั้นขยับท่าทางได้ด้วย น่ารักดีค่ะ ^^

History Hall

ข้างในฮอลล์มีการจัดแสดงเครื่องดนตรีโบราณ รวมถึงโชว์คอนเสิร์ตด้วยค่ะ

รอบการแสดงต่างๆ ที่ History Hall

บรรยากาศภายในฮอลล์

Restaurant & Gallery SHIBATA JUNE

มีจัดแสดงเครื่องประดับและสอนทำ Work Shop

Restaurant & Café

ใครหิวสามารถแวะทานอาหาร หรือจิบกาแฟ ทานขนมชมบรรยากาศได้ค่ะ

Museum Shop of Fairyland

ร้านขายของที่ระลึก มีของกระจุ๊กกระจิ๊กน่ารักเยอะแยะเลยค่ะ

Organ Hall

ตารางการแสดงที่ Organ Hall

ฮอลล์สำหรับชมการแสดง Dance Organ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ ที่เห็นบนเวทีและรอบๆ ฮอลด้านบนทั้งหมดนี้เป็นออร์แกนอัตโนมัติที่ไม่ต้องใช้คนเล่นเลยค่ะ

Sand Art & Live Performance เป็นการแสดงดนตรีประกอบกับการเล่าเรื่องซินเดอเรลล่าด้วยการใช้ทรายวาดเป็นรูปค่ะ คนวาดเก่งมากๆ เลย เพราะต้องวาดรูปเยอะมากเพื่อเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ โดยใช้เพียงมือเปล่ากับทรายเองค่ะ การแสดงนี้คนดูชอบใจกันมากเลยค่ะ

ตั้งใจว่าจะอยู่เที่ยวไม่นานแล้วไปเที่ยวที่อื่นต่อ กลายเป็นว่าอยู่ที่นี่ไป 2 ชั่วโมงกว่าๆเลยค่ะ เพลินมาก นี่ขนาดยังชมการแสดงไม่ครบเลยนะคะ

รถฟักทองอยู่ใกล้ๆ กับทางออก
ขึ้นไปนั่งถ่ายรูปเป็นซินเดอเรลล่าได้ อิอิ

ชอบบรรยากาศที่นี่มากๆ สวย น่ารัก โรแมนติก ได้หลายอารมณ์เลย เหมาะแก่การมาถ่ายรูปมากๆ ด้วยค่ะ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่แนะนำเลยหากได้มาที่คาวากุจิโกะ

วันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่า