ใครที่ตั้งใจมาเที่ยว Kawaguchiko (คาวากุจิโกะ) ก็คงตั้งใจมาชมความงามของภูเขาไฟฟูจิกันใช่มั้ยคะ? แต่ถ้าวันนั้นฝนตก อากาศไม่เป็นใจ ก็อดเห็นฟูจิแน่ๆ บางทีจะเปลี่ยนแพลนก็ทำไม่ได้ โรงแรมก็จองไว้แล้ว ยกเลิกก็ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นที่ Kawaguchiko ก็ยังมีที่เที่ยวให้เราได้เพลิดเพลินในวันที่ฝนตกกันได้นะคะ
เราจองโรงแรมที่ Kawaguchiko ไว้ 2 คืน แต่จะมีเวลาเที่ยวจริงๆ แค่ 1 วันครึ่งค่ะ เพราะลงเครื่องบินมาจากสนามบินนาริตะกว่าจะมาถึงนี่ก็มืดแล้วค่ะ ส่วนขากลับก็ต้องกลับตอนเที่ยงเลย เพราะต้องไปดูคอนเสิร์ตที่โตเกียวต่อ จะเปลี่ยนวันเที่ยวก็วุ่นวายมากแน่ๆ และหลังจากนี้ก็เป็นช่วงวันหยุดยาว Golden Week ของญี่ปุ่น โรงแรมราคาย่อมเยาว์ก็ไม่เหลือให้จองแล้วด้วย T^T
เริ่มต้นจากโตเกียว เรานั่งรถบัส Highway Bus มาจากชินจูกุนะคะ รถออกตอน 18:15 น. มาถึงตอนประมาณ 20:00 น. ค่ารถเที่ยวละ 1,750 เยน (*หมายเหตุ : มีการปรับราคาเป็น 1,950 เยน ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2019)
ดูรีวิวการเดินทางได้ที่ » วิธีการเดินทางด้วยรถบัสไป Kawaguchiko จาก Shinjuku (โตเกียว)
โรงแรมที่เราพักคือ Plaza Inn Kawaguchiko อยู่ตรงข้ามกับสถานีเลยค่ะ ข้ามถนนมาแล้วเลี้ยวขวาเดินเลยขึ้นไปนิดเดียว โรงแรมราคาไม่แพง มีห้องน้ำในตัว เดินทางสะดวกมากค่ะ มีข้อเสียนิดหน่อยคือ เครื่องใช้ดูเก่าๆ มอมๆ ไปนิด และห้องน้ำเหม็นบุหรี่ไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็สะอาดอยู่ค่ะ เราพัก 2 คืนจ่ายไป 17,000 เยน เป็นห้อง Double Room *สามารถตรวจสอบราคาที่แน่นอนได้ที่ » Plaza Inn Kawaguchiko หรือ ดูรีวิวโรงแรมเพิ่มเติมได้ที่ » Plaza Inn Kawaguchiko โรงแรมราคาประหยัด ตรงข้ามสถานี Kawaguchiko
เช็คพยากรณ์อากาศไปตอนก่อนนอน บอกว่าพรุ่งนี้มีฝนตก ตื่นเช้ามาก็เจอกันฝนจริงๆ ค่ะ มีหมอกด้วย เราใช้ weather.yahoo.co.jp เช็คพยากรณ์อากาศนะคะ (เป็นภาษาญี่ปุ่น) บอกปริมาณน้ำฝนได้เป็นช่วงเวลาเลย
ออกจากโรงแรมมาตอนประมาณ 8:30 น. มาซื้อ Pass ของรถบัสที่ออฟฟิศของสถานี Kawaguchiko ไว้ก่อนค่ะ ราคา 1,200 เยน (ใช้ได้ 2 วัน)
หน้าตาของ Pass ค่ะ ใช้ได้ทั้ง “Red-Line” สำหรับเที่ยวรอบทะเลสาบ Kawaguchiko และ “Green-Line” สำหรับไปเที่ยวทะเลสาบ Saiko รถบัสเที่ยวแรกจะวิ่งตอน 9:00 น. ก็เลยไปหาอาหารเช้าทานก่อน
*ดูเที่ยวรถบัสได้ที่ » bus-en.fujikyu.co.jp
*ปัจจับันได้มีการเพิ่มสาย “Blue Line” สำหรับไปทะเลสาบ Motosuko ด้วยและขึ้นราคาพาสเป็น 1,500 เยนนะคะ
ตัวอย่างของ Kawaguchiko Sightseeing Bus Ticket (2018)
ข้ามถนนมาที่ร้านอาหารตรงข้ามกับสถานีเลยค่ะ ขึ้นไปที่ชั้น 2 ตรงที่เขียนว่า JAPANESE RESTAURANT Mt.Fuji View (บันไดทางขึ้นอยู่ด้านขวามือ)
ถ้าอากาศแจ่มใสจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิอยู่หลังสถานีเลยค่ะ แต่วันนี้ได้เห็นแค่สถานีกับเมฆหมอก T^T
ประเดิมมื้อเช้าด้วย Tamagodon ราคา 680 เยน เสิร์ฟพร้อม Miso Soup ข้าวชามนี้จะมีแต่ไข่นะคะ ซอสที่ราดหอมดีค่ะ ต่างจากที่เคยทานที่ไทยเลยค่ะ แต่รสหวานมาก ทานไม่หมดเพราะเลี่ยนเกิน ถ้าลดหวานกว่านี้ เค็มอีกหน่อย จะเลิศมาก
ดูเมนูและรีวิวเพิ่มเติม » JAPANESE RESTAURANT Mt.Fuji View ร้านอาหารหน้าสถานี Kawaguchiko
ทานอาหารเช้าเสร็จก็มาขึ้นรถบัสตอน 9:15 น. ตรงป้ายหมายเลข 1 ค่ะ รถที่จอดตรงป้ายนี้จะมีทั้งวิ่งรอบทะเลสาบ Kawaguchiko (Red-Line) และไปทะเลสาบ Saiko (Green-Line) ต้องดูป้ายที่รถให้ดีก่อนขึ้นนะคะ
รถคันในภาพด้านบนนี้จะเป็น Omni Bus และรถอีกแบบคันใหญ่กว่าก็คือ Retro Bus ตามรูปด้านล่าง สามารถขึ้นได้ทั้ง 2 แบบค่ะ
เนื่องจากฝนที่โปรยปรายอยู่ เลยต้องเปลี่ยนแพลนเที่ยวแบบ Outdoor ไปหาที่ที่สามารถหลบฝนได้บ้างค่ะ รอบๆ Kawaguchiko นี้มีพิพิธภัณฑ์อยู่หลายแห่ง แต่ที่ที่น่าสนใจสำหรับเรามากที่สุดก็คือ ป้ายหมายเลข 17: Kawaguchiko Music Forest ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีค่ะ
*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 17: Kawaguchiko Music Forest Museum ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 15
Kawaguchiko Music Forest
ที่นี่จะแบ่งโซนเป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆ ในสไตล์ยุโรป มีค่าเข้า 1,500 เยนค่ะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลย ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ชมการแสดงไปเพลินๆ เวลาก็ล่วงเลยไป 11 โมงกว่าๆ แล้วค่ะ
ดูรีวิวเพิ่มเติม » เที่ยว Kawaguchiko Music Forest (Kawaguchiko Orgel no Mori)
ออกจาก Kawaguchiko Music Forest ก็เดินชิมวิวต่อไปได้ 1 ป้ายรถบัส จนมาถึงป้ายหมายเลข 18 : Kawaguchiko Konohana Art Museum
*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 18: Kawaguchiko Monkey Show Theater/Konohana Art Museum ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 16
Kawaguchiko Konohana Art Museum
พิพิธภัณฑ์จัดแสดงผลงานการ์ตูนเกี่ยวกับแมวเหมียว Dayan และมีจำหน่ายสินค้าที่ชวนให้ทาสแมวต้องเสียทรัพย์ด้วยค่ะ มีค่าเข้า 500 เยน แต่เราไม่เข้าไปนะคะ เพราะก่อนหน้านี้แอดมินของเราเคยไปที่นี่มาแล้วค่ะ
ดูรีวิวพิพธภัณฑ์ได้ที่ » ไปชิลๆ ที่คาวากุจิโกะกันเถอะ!
ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินชมวิวไปเรื่อยๆ แต่ฝนเริ่มตกหนักขึ้นและหนาวมากเลยเปลี่ยนใจขึ้นรถบัสแทนค่ะ เป้าหมายต่อมาก็คือ ป้ายหมายเลข 22 : Kawaguchiko Natural Living Center ซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายของรถบัสสาย “Red-Line” ค่ะ
*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 22: Kawaguchiko Natural Living Center ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 20
Kawaguchiko Natural Living Center
ถ้าอากาศดี ตรงนี้จะเป็นจุดที่ชมภูเขาไฟฟูจิได้ชัดและสวยมาก เป็นที่ที่ห้ามพลาดเลยหากได้มาที่ Kawaguchiko ช่วงหน้าร้อนก็จะมีดอกลาเวนเดอร์บานด้วยค่ะ แต่วันนี้ฝนกตกมองอะไรไม่เห็น ก็ได้แค่แวะหลบฝนและซื้อของฝากแทน ของขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือผลิตภัณฑ์จากบลูเบอร์รีค่ะ
ดูรีวิวช่วงลาเวนเดอร์บาน » ทุ่งลาเวนเดอร์ในฝัน ณ Oishi park ที่ Kawaguchiko
จากนั้นก็นั่งรถบัสย้อนกลับมาที่ป้ายหมายเลข 11 : Sightseeing Boat/Ropeway Ent. พอลงรถก็เจอกับร้าน FUJIYAMA COOKIE ก่อน
*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 11: Sightseeing Boat/Ropeway Ent. ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 9
FUJIYAMA COOKIE
ร้านนี้ขายคุกกี้รูปภูเขาไฟฟูจิ หนึ่งในของฝากขึ้นชื่อของ Kawaguchiko ค่า ราคาชิ้นละ 130-140 เยน คุกกี้น่ารักดีแต่รสชาติธรรมดาไปหน่อย
ดูรีวิวเพิ่มเติม » FUJIYAMA COOKIE คุกกี้ของฝากขึ้นชื่อของ Kawaguchiko
ช้อปเสร็จก็ไปต่อที่กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิยามะ (Mt. Kachi Kachi Ropeway) ทางขึ้นจะอยู่ข้างๆ กับร้านคุกกี้ค่ะ
Mt. Kachi Kachi Ropeway
กระเช้าขึ้นไปชมวิวมุมสูงของทะเลสาบและภูเขาไฟฟูจิ ตั๋วขึ้นกระเช้าไป-กลับราคา 800 เยน ถ้าอยากประหยัดก็สามารถเดินได้ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าอีกกี่ชั่วโมงจะถึง เอิ๊กกกก ฉะนั้นซื้อตั๋วไปกลับจะดีที่สุดค่ะ
ข้างบนหมอกหนามากเลย บรรยากาศเหมือนอยู่ใน Silent Hill ถ้าฟ้าใสที่นี่ก็เป็นอีกจุดเห็นฟูจิได้ชัดค่ะ แต่เนื่องจากวันนี้มองไม่เห็นวิวอะไร งานนี้ก็ขอเพลินด้วยขนมขึ้นชื่อของที่นี่แทนค่ะ
เซ็ทขนมดังโงะ Japanese Dumplings and Green Tea ราคา 400 เยน เป็นแป้งย่างหอมๆ (กลิ่นคล้ายขนมว่าวของบ้านเรา) ราดด้วยซอสรสเค็มๆ กับไอติม White Peach and Sherbet ราคา 375 เยน
*หมายเหตุ: ที่นี่มีการปรับปรุงใหม่เมื่อต้นปี 2018 และได้เปลี่ยนชื่อจาก “Mt. Kachikachi Ropeway” มาเป็น “~ Kawaguchiko ~ Mt. Fuji Panorama Ropeway”
ดูรีวิวเพิ่มเติม » Kawaguchiko Mt. Fuji Panorama Ropeway กระเช้าชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ
ลงจากกระเช้ามา เดินเลาะถนนต่อไปอีกหน่อยจะเจอกับร้านชีสเค้ก Kawaguchiko Cheese Cake Garden ร้านดูน่าสนใจดี ก็ลองแวบเข้าไปดูหน่อย
Kawaguchiko Cheese Cake Garden
ข้างในร้านมีขายชีสเค้กและขนมของฝาก มีโต๊ะให้นั่งทานในร้านด้วยและยังว่างอยู่ ก็เลยตัดสินใจแวะพักเติมพลังอีกแล้วค่า เค้กส่วนใหญ่ชิ้นละ 400 เยน หอมอร่อยดี แต่ชิ้นเล็กไปหน่อย ทางร้านเสิร์ฟกาแฟให้ฟรีด้วย สิ่งที่เพลินที่สุดของทริปนี้สงสัยจะเป็นการกินละมั้ง เอิ๊กๆ
ดูรีวิวเพิ่มเติม » Kawaguchiko Cheese Cake Garden พักเติมพลังกับชีสเค้กอร่อยๆ
เติมพลังเรียบร้อยแล้วก็ลุยต่อ! ถ้าเดินมาจากร้านชีสเค้กอีกหน่อยก็จะเจอกับจุดล่องเรือ Kawaguchiko Ensoleille Sailing นะคะ (ถ้านั่งรถบัสมาก็จะอยู่ที่ป้ายหมายเลข 11 ซึ่งเป็นป้ายเดียวกันกับกระเช้าลอยฟ้าค่ะ)
*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 11: Sightseeing Boat/Ropeway Ent. ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 9
Kawaguchiko Ensoleille Sailing
เป็นจุดล่องเรือชมทะเลสาบ Kawaguchiko และภูเขาไฟฟูจิ ตั๋วล่องเรือราคา 900 เยน ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีต่อรอบ เรือออกทุกๆ 30 นาทีค่ะ ตอนนี้วิวไม่สวยก็ขอข้ามไปค่ะ แถวๆ นี้ก็ยังมีที่ให้เช่าเรือปั่นเที่ยวเองด้วยนะคะ แต่วันนี้อากาศไม่ดีเลยปิดให้บริการ
ตอนนี้ฝนเหมือนจะหยุดแล้ว เลยตั้งใจเดินชมโค้งทะเลสาบ Kawaguchiko ไปเรื่อยๆ จนถึงป้ายรถบัสหมายเลข 7 : Kawaguchiko Herb Hall เลยค่ะ
*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 7: Kawaguchiko Herb Hall ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 5
Yamanashi Gem Museum
ระหว่างเดินมาก่อนถึงป้ายรถบัสหมายเลข 7 จะเจอกับ Yamanashi Gem Museum ก่อนค่ะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์อัญมนีตั้งอยู่ตรงป้ายรถบัสหมายเลข 8 มีค่าเข้า 600 เยน นอกจากนี้ยังมีจำหน่ายพวกเครื่องประดับด้วยค่ะ จากตรงนี้เดินไปอีกนิดก็จะถึงป้ายรถบัสหมายเลข 7 : Kawaguchiko Herb Hall ซึงเป็นปลายทางของทริปในวันนี้แล้วนะคะ
*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 8: Yamanashi Gem Museum ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 6
Kawaguchiko Herb Hall
ร้านจำหน่ายผลิตภัณที่เกี่ยวกับสมุนไพร เช่น เครื่องหอม ครีมบำรุง ของฝากต่างๆ รวมถึง มีร้านกาแฟและไอศกรีม เป็นอีกร้านที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ค่ะ
ดูรีวิวได้ที่ » ไปชิลๆ ที่คาวากุจิโกะกันเถอะ! แวะช้อปที่ Kawaguchiko Herb Hall
Ishikorokan Kawaguchiko
ร้านขายหินธรรมชาติและเครื่องประดับ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับ Kawaguchiko Herb Hall ค่ะ ด้านหน้าจะมีหุ่นรูปตัวการ์ตูนจากเรื่อง Anpanman ให้ถ่ายรูปกันด้วยนะคะ
แวะถ่ายรูปเสร็จก็กลับมารอรถบัสกลับสถานี Kawaguchiko ตอนนี้เพิ่งจะ 4 โมงกว่าๆ ได้ เลยกลับไปแวะเอาของฝากทั้งหลายไปเก็บและนอนเล่นเช็คโซเชี่ยลที่โรงแรมก่อนจะออกมาหาข้าวเย็นทานตอน 5 โมงครึ่งค่ะ ข้อดีของโรงแรมอยู่ใกล้สถานีก็เดินทางสะดวกดีนะคะ
Hotou Fudou
ของกินขึ้นชื่อที่นี่ก็คือ Hotou เป็นบะหมี่เส้นแบนๆ ในหม้อไฟค่ะ มีร้านดังๆ อยู่ตรงหอนาฬิกาฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Kawaguhiko เลยค่ะ ชื่อร้าน Hotou Fudou แต่เนื่องจากส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นพวกผัก เราเลยขอบาย เอิ๊กๆ ไปทานเท็มปุระแทนค่ะ
Fuji Tempura Idaten
เป้าหมายของเราคือร้านเทมปุระ Fuji Tempura Idaten ค่ะ ร้านใหญ่สังเกตได้ง่ายเลยอยู่ตรงหัวมุมถนน ไม่ไกลจากสถานี Kawaguchiko (ถ้ามาจากสถานี ให้เดินเลยร้าน Lawson ขึ้นไปอีกค่ะ)
ดูจากป้ายท่าทางจะฮิตในหมู่คนไทย เพราะมีภาษาไทยให้ด้วย อิอิ
เราสั่งเมนูที่อยู่บนป้ายหน้าร้าน ชื่อว่า “FUJITEN” ซึ่งเป็นเมนูแนะนำ ราคา 880 เยน (รวมภาษีเป็น 950 เยน) ประกอบด้วย ข้าว ซุป เทมปุระผัก (มะเขือยาว แตงกวา มันหวาน) กุ้ง เนื้อปลา อร่อยดีค่ะ แป้งเทมปุระกรอบ ไม่อมน้ำมัน เนื้อกุ้งก็หวานมาก แต่ราคาสูงไปนิด ^^
ดูรีวิวเพิ่มเติม » Fuji Tempura IDATEN ร้านเทมปุระอร่อยๆ ใกล้สถานี Kawaguchiko
ขากลับโรงแรมก็แวะถ่ายรูปสถานี Kawaguchiko ยามเย็นไว้เป็นที่ระลึกอีกซักรอบ ตอนนี้เหมือนว่าฝนจะหยุดตกแน่ๆ แล้วค่ะ หวังว่าพรุ่งนี้ฟ้าจะใส จะได้เชยชมฟูจิเป็นบุญตาซะหน่อย
สรุปแล้วข้อดีของการเที่ยว Kawaguchiko ในวันที่ฝนตก ก็คือ คนไม่เยอะ รถบัสไม่แน่น ถนนโล่ง รถไม่ติด แดดไม่ร้อน หน้าไม่ดำ เอิ๊กๆ
เราสามารถใช้เวลา 1 วันเที่ยวได้รอบทะเลสาบ Kawaguchiko เลยค่ะ แต่ถ้าไม่อยากพลาด ควรมาค้างคืนสัก 1 คืนเผื่อวันไหนไม่เห็นฟูจิ หรือถ้าอยู่โตเกียว วันไหนฟ้าใสก็นั่งรถมาได้เลยค่ะ ไปเช้าเย็นกลับก็ได้ สภาพอากาศของที่นี่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ค่ะ ก็เหลือแค่ว่าจะมีเมฆมาบังฟูจิมั้ย เรายังสามารถเช็ค Web Cam ได้ด้วยนะคะที่ www.fujigoko.tv/english/
แม้ว่าผ่านไป 2 คืนเราไม่เห็นฟูจิเลย แต่เรายังได้เห็นตอนวันที่จะกลับค่ะ ฟ้าหลังฝนสดใสมากกกกก
ช่วงนี้มีเทศกาล Fuji Shibazakura Festival ชมดอก Shibazakura หรือที่เรียกกันว่า Pink Moss พอดี เราก็เลยตัดสินใจไปที่นี่แทนค่ะ เทศกาลนี้มีแค่ช่วงปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคมเท่านั้นค่ะ ไว้โอกาสหน้าค่อยมาเที่ยวรอบๆ ทะเลสาบ Kawaguchiko ใหม่รวมถึงเจดีย์แดงก็ได้ค่ะ
ตามไปดูรีวิวบรรยากาศของงานเทศกาลต่อได้ที่บทความนี้เลยนะคะ » [รีวิว] เที่ยวงาน Fuji Shibazakura Festival (Pink Moss) ที่ Kawaguchiko
บทความเที่ยวคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
› การเดินทาง
- เที่ยวคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) 1 วัน! วางแผนเดินทางไปชิลๆ กันเถอะ!
- วิธีการจองรถบัส (Highway Bus) ไป Kawaguchiko จาก Shinjuku (โตเกียว)
- วิธีการเดินทางด้วยรถไฟไปคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) จากสถานี Shinjuku (โตเกียว)
สถานที่ท่องเที่ยว
› บริเวณรอบทะเลสาบ
- [รีวิว] สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) แนะนำร้านค้าและโรงแรมรอบๆ สถานี
- [รีวิว] Kawaguchiko Herb Hall แวะช้อปที่พิพิธภัณฑ์สมุนไพร
- [รีวิว] ไปชิลๆ ที่คาวากุจิโกะกันเถอะ! ชมวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะและภูเขาไฟฟูจิ
- [รีวิว] เที่ยว Kawaguchiko ในวันที่ฝนตก อากาศไม่เป็นใจ ก็เพลินได้
- [รีวิว] Kawaguchiko Mt. Fuji Panorama Ropeway กระเช้าชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ
- [รีวิว] Kawaguchiko Music Forest พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีในบรรยากาศหมู่บ้านยุโรป
- [รีวิว] Kawaguchiko Momiji Kairo อุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีคาวากุจิโกะ
- [รีวิว] สวนโออิชิ (Oishi Park) ชมทุ่งลาเวนเดอร์ในฝันริมทะเลสาาบคาวากุจิโกะ
› บริเวณใกล้เคียง
- [รีวิว] เจดีย์แดงชูเรโต (Chureito Pagoda) ชมภูเขาไฟฟูจิแบบแจ่มๆ
- [รีวิว] ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 - ฟูจิสุบารุ (Fuji Subaru Line 5th Station)
- [รีวิว] เที่ยวงาน Fuji Shibazakura Festival (Pink Moss)
- [รีวิว] ชม Shibazakura+เครื่องเล่น 4D Fuji Airways ที่ Fuji Q Highland
- [รีวิว] Oshino Shinobi no Sato Ninja Village บุกหมู่บ้านนินจา
- [รีวิว] Oshino Hakkai หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะฮักไกแห่งภูเขาไฟฟูจิ
- [รีวิว] KABA BUS ลุยทะเลสาบยามานากะโกะ (Yamanakako) กับรถฮิปโป
- [รีวิว] Saiko Bat Cave พาไปเข้าถ้ำลาวาที่ทะเลสาบไซโกะ (Saiko Lake)
ร้านค้าและร้านอาหาร
- [รีวิว] FUJIYAMA COOKIE คุกกี้ของฝากขึ้นชื่อของ Kawaguchiko
- [รีวิว] Kawaguchiko Cheese Cake Garden พักเติมพลังกับชีสเค้กอร่อยๆ
- [รีวิว] Fuji Tempura IDATEN ร้านเทมปุระอร่อยๆ ใกล้สถานี Kawaguchiko
- [รีวิว] JAPANESE RESTAURANT Mt.Fuji View ร้านอาหารหน้าสถานี Kawaguchiko
- [รีวิว] คอร์สแช่ออนเซ็น & กินชาบูชาบูในฝันที่ Sakuraan Kawaguchiko Hotel
โรงแรมที่พัก
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในคาวากุจิโกะ
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com