สวัสดีค่าาา หลังจากที่เราแวะทานสตรอเบอร์รี่กันอิ่มหนำสำราญที่ Yagihara Farm แล้ว เราก็มุ่งสู่จุดหมายต่อไปคือสวน Hitsujiyama Parkจังหวัดไซตามะ (Saitama) กันต่อ โดยมีเป้าหมายเป็นการชมชิบะซากุระ (Shibazakura) หรือ พิงค์มอส (Pink Moss) ที่จะบานช่วงกลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมค่ะ

การเช้ามาที่สวน Hitsujiyama Park นั้น สามารถลงรถไฟได้ทั้ง 2 สถานี คือ Seibu-chichibu และ Yokose โดยสถานี Seibu-chichibu นั้นจะใกล้กับทางเข้าด้านหน้าของสวน และสถานี Yokoze จะใกล้กับทางเข้าด้านหลังค่ะ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมท่องเที่ยวของเพื่อนๆ แล้วล่ะค่ะว่าจะเลือกลงสถานีไหนและเดินเข้าทางไหน หากเดินมาจากโตเกียวก็ใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความด่วนของรถไฟค่ะ

สำหรับเรานั้นมาจากฝั่งสถานี Yokoze เพราะอยู่ใกล้กับสวน Yagihara Farm ที่เราไปเก็บสตรอเบอร์รี่ค่ะ จากสวน Yagihara Farm ก็ให้เดินตรงไปเรื่อยๆ เจอ 3 แยกให้เลี้ยวขวา (ซึ่งจะมีป้ายบอกอยู่ค่ะ) แล้วจะจนเจอฟาร์มเห็ด “ชิเมจิ” Ishizaka Farm เลยฟาร์มเห็ดประมาณ 50 เมตร จะเจอทางเข้าด้านหลังของสวน Hitsujiyama Park ซึ่งเข้าไปจะเจอกับสวน “ชิบะซากุระ” เลยค่ะ เดินฝั่งนี้จะใกล้มาก (ดูแผนที่ Google Map)

หน้าตาของ Ishizaka Farm ดูเหมือนโรงเก็บของทั่วไป แต่ด้านในมีโรงเพาะเห็ด ซึ่งสามารถเข้าไปเก็บได้ด้วยตัวเองนะคะ เขามีบริการ “ประสบการณ์การเก็บเห็ด” เป็นกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นและครอบครัวญี่ปุ่นนิยมมาทำกิจกรรมร่วมกันค่ะ

ด้านหน้าของฟาร์มจะมีป้ายตั้งเอาไว้ค่ะ เอาไว้ให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาสังเกตได้ ส่วนถนนข้างๆ นั้นก็เป็นถนนส่วนที่เป็นทางขึ้นไปยังสวน Hitsujiyama Park ค่ะ เนื่องจากสวนนี้กว้างและอยู่ในหุบเขา จึงต้องเดินขึ้นดอยกันหน่อย

เส้นทางนี้เราแนะนำสำหรับคนที่ลงสถานี Yokoze นะคะ ถ้าเดินเส้นนี้จะไม่อ้อม แอดมินที่เป็นจอมหลังทาง แม้จะมีแผนที่อยู่ในมือก็ตาม ก็ยังจะเดินย้อนไปเข้าด้านหน้าจ้าา ==” แต่ว่าสิ่งที่มาปลอบใจเราก็คือได้เห็นซากุระสวยๆ แทนค่าาา

Hitsujiyama Park (羊山公園)

เมื่อเราหลงทางวนเวียนกลางแดดอยู่พักใหญ่ก็เจอทางเข้าสวนค่ะ ด้านหน้าสุดจะเป็นบึงขนาดใหญ่มากก ในแผนที่วาดเป็นรูปบ่อแล้วก็มีเป็ดอยู่ เรามาถึงก็มองหาไหนเป็ด…ทั้งสระมีเป็ดอยู่ 3 ตัวในสระที่ใหญ่มากกก คือมีอยู่แค่นั้น ไม่ต้องทำเป็นสัญลักษณ์ก็ได้นะค้าาา หน้าบ่อเขียนว่าห้ามตกปลาด้วยค่ะ แต่ไม่ห้ามก็คงตกไม่ถึง ล้อมรั้วสูงมาก แบบว่าเป็ดยังปิดข้ามไม่ได้เลย~

แถวๆ นั้นก็มีป้ายบอกทางด้วยว่า เนินชิบะซากุระ (Shibazakura-no-oka) ที่เราจะไปนั้นอยู่ทางไหน ยังต้องเดินอีกไกลค่ะ เราก็เดินไปเรื่อยๆ

เดินอ้อมรอบสระไปจนถึงริมถนนทางเข้าสวนค่ะ วันนี้รถค่อนข้างติด ติดขนาดที่ว่าเราเดินยังถึงก่อนที่รถจะขยับเสียอีก และดีใจมากที่ยังได้เห็นซากุระที่ยังบานสะพรั่ง (ช่วงที่มาคือกลางเดือนเมษายน) ในขณะที่ฝั่งโตเกียวร่วงกันหมดแล้ว อากาศแถวๆ จิจิบุยังคงเย็นๆ ค่ะ ในระหว่างที่เราเดินทางไปในวันนั้น ก็เดินชมซากุระปลิวๆ แก้เหนื่อย แก้ล้ากันไป

มองกี่ทีก็ยังสวยเหมือนเดิม สำหรับซากุระสีชมพู อิ อิ อยู่ในช่วงบานเต็มที่พอดีมากๆ ฟินเลย~

เดินผ่านส่วนทางเข้าด้านหน้าเข้ามาก็จะเจอทางเดินที่ลึกเข้าไปค่ะ สองข้างทางเดินเป็นเนินเขา และตามไหล่เขารวมถึงข้างทางก็มีซากุระบานสะพรั่ง เราก็จะได้อารมณ์แบบขับรถท่ามกลางอุโมงค์ซากุระเสียอย่างนั้น สวยดีค่า และเนื่องจากช่วงนี้มีเทศกาลชมดอกไม้ ถนนสองฝั่งจะถูกแบ่งไว้สำหรับรถวิ่งและให้ทางเดินด้วยกรวยสีเขียวที่เราเห็นกันค่ะ

หมดถนนร่วมของทางรถและทางเดินแล้ว จะเจอทางเดินตามไหล่เขา ซึ่งก็ยังเจอซากุระที่ลมพัดหวนมา ทำให้บริเวณนั้นทั้งหมดมีแต่กลีบซากุระปลิวว่อนตามทางให้เราเห็นกันค่ะ ชอบมากกก เป็นบรรยากาศที่หายาก ที่ไม่ใช่แค่ได้ชม แต่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย

เดินเล่นในส่วนของต้นซากุระมาแล้วประมาณ 200 เมตร เราก็จะเจอทางเข้าสวนชมชิบะซากุระหรือพิงค์มอสแล้วจ้า ตรงนี้จะเป็นโซนหุบเขาด้านในของสวนเลย รอบๆ จะเป็นต้นไม้ใหญ่ อย่างพวกต้นสนป่าค่ะ และยังมีทางเดินเข้าป่าด้วย เป็นสวนที่ค่อนข้างมีต้นไม้ธรรมชาติเยอะค่ะ เราก็ชอบเพราะจะให้บรรยากาศป่ามากกว่าสวน

เรามาเที่ยวที่นี่ตอนกลางเดือนเมษายน แต่ว่าดูเหมือนเราจะมาเร็วไปนิดสำหรับชิบะซากุระ เลยยังไม่บานเต็มที่ ยังคงมีเพียง 40% เท่าที่ประมาณการด้วยสายตานะคะ ทางสวนได้จัดโซนชมมุมสูงให้สองด้านของเนินเขา ภาพนี้ถ่ายจะมุมชมวิวค่ะ และอีกฟากลิบๆ ในรูปก็เป็นโซนชมวิวอีกฝั่งหนึ่งซึ่งจะมีโซนทานอาหารไว้ให้บริการด้วย

ในส่วนของฝั่งที่เรานั่งพักนี้ก็มีโซนอาหารอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เช่นกันค่ะ เป็นศูนย์อาหารชั่วคราว เหมือนร้านเพิงไม้เล็กๆ ง่ายๆ แต่ก็พอสะดวกสบายในการนั่งทานอาหารค่ะ แนะนำให้ทานและหาที่ทิ้งตรงนี้เลยนะคะ เพราะถังขยะด้านนอกไม่มีเลย

โซนสีชมพูจะเป็นโซนที่บานก่อน จะสังเกตเห็นว่ายังมีสีเขียวๆ อยู่คือส่วนที่ยังไม่บานค่ะ คนก็ไม่มาก ไม่น้อย กำลังดี โซนที่บานแล้วถ่ายรูปก็สวยนะคะ หากบานครบ 100% (ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม) นี่คงเป็นสวนที่สวยมากๆ เพราะจากที่เราดูจุดชมแล้ว สามารถมองเห็นได้ทั่วบริเวณที่กว้างมากเลยค่ะ

ขนมที่ซื้อมาลองชิมค่ะ ตอนแรกนึกว่าดังโงะยักษ์ พองับเท่านั้นแหละ จริงๆ มันคือขนมปังราดซอส (เค็มๆ แบบที่ราดดังโงะ) รสชาตินั้น…ใครทานดังโงะญี่ปุ่นไม่ได้ก็แนะนำว่าอย่าลองดีกว่า 555

ส่วนของสีขาวที่บานแล้วนะนั้นก็จะสวยแบบใสๆ บริสุทธิ์ อิ อิ เป็นส่วนท้ายของสวน ที่อยู่ตรงพื้นราบค่ะจะใกล้กับประตูด้านหลังที่เราแนะนำไปครั้งแรก หากถ่ายรูปให้ครอบคลุมทั้งหมดได้ในวันที่บานเต็มที่จุดนี้จะสวยมากกก แอดมินชอบดอกไม้สีขาวเป็นพิเศษค่ะ ^ ^

เราขอปิดท้ายทริปนี้ด้วยคลิปเที่ยวเมืองจิจิบุนี้นะคะ สำหรับวันนี้ขอลากันไปเพียงเท่านี้ สวัสดีค่าา

บทความเที่ยวเมืองจิจิบุ (Chichibu)

[รีวิว] 1 : ออกเดินทางสู่เมืองจิจิบุ ในจ.ไซตามะด้วย SEIBU 1 Day Pass
[รีวิว] 2 : บุกสวนสตรอเบอร์รี่ กินไม่อั้น Yagihara Farm
[รีวิว] 3 : ชมชิบะซากุระ (Shibazakura) ณ สวน Hitsujiyama Park

บทความเที่ยวจังหวัดไซตามะ (Saitama)

[รีวิว] ทริปชมซากุระและพักโรงแรมในไซตามะ (Saitama) เมืองน่าอยู่ใกล้โตเกียว
[รีวิว] เที่ยวคาวาโกเอะ (Kawagoe) : การเดินทางย้อนอดีตสู่เมืองเอโดะน้อย

ค้นหาโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com