Home ท่องเที่ยวญี่ปุ่น การเดินทาง เที่ยวฮาโกดาเตะ#1: เดินทางจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะ (Sapporo – Hakodate)

[รีวิว] เที่ยวฮาโกดาเตะ#1: เดินทางจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะ (Sapporo – Hakodate)

Apr 10, 2017

41951

สวัสดีค่า สตรอเบอร์รี่น้อยฯ เจ้าเก่า แอดมินสายเหนือแถบฮอกไกโดคนเดิมคนนี้กลับมาจ้า หลังจากที่ไปเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ได้สักพัก ก็ได้ฤกษ์รีวิวการเดินทางสู่ฮาโกดาเตะกันแล้วนะคะ ทริปนี้เจอแต่คนใจดี ประทับใจมากๆ โดยรีวิวแรกนี้จะเป็นวิธีการเดินทางจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะ (Sapporo – Hakodate) นะคะ ก่อนออกเดินทางก็มาดูข้อมูลเบื้องต้นของที่นี่กันจั๊กหน่อย

สารบัญเนื้อหา ซ่อน

เกี่ยวกับเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)

การเดินทางมาฮาโกดาเตะ (Hakodate)

เครื่องบิน

รถไฟ

รีวิวเดินทางมาฮาโกดาเตะ (Hakodate)

เกี่ยวกับเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)

เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate / 函館) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด เป็นเมืองท่าที่มีการค้ากับต่างประเทศมาตั้งแต่ในอดีต มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มากมาย อีกทั้งยังมีจุดชมวิวยอดฮิต อย่างเช่น ยอดเขาฮาโกดาเตะ หรือ ป้อมปราการโงเรียวกาคุ ให้ได้เที่ยวชม

การเดินทางมาฮาโกดาเตะ (Hakodate)

การเดินทางมาที่เมืองนี้มีอยู่หลายวิธี โดยเราจะขอแนะนำเส้นทางยอดฮิตดังต่อไปนี้ค่ะ

เครื่องบิน

Sapporo – Hakodate ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 35 นาที
- สายการบินที่ให้บริการ ได้แก่ ANA, JAL, AirDo
- ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 4,000 บาท (ขึ้นอยู่ฤดูกาลท่องเที่ยว)
Tokyo – Hakodate ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
- สายการบินที่ให้บริการ ได้แก่ ANA, JAL, AirDo
- ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 4,000 – 5,000 บาท (ขึ้นอยู่ฤดูกาลท่องเที่ยว)

รถไฟ

Sapporo – Hakodate ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที
- สามารถเดินทางได้ทั้งจากสถานี JR Sapporo หรือ New Chitose Airport
- ค่าโดยสารต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 8,000 กว่าเยน (ประมาณ 2,000 กว่าบาท)
Tokyo – Hakodate ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ – 3 ชั่วโมง
- นั่งชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo และต่อรถไฟมาลงสถานี Hakodate ราคารวมตลอดสายอยู่ที่ประมาณ 23,000 กว่าเยน (ประมาณ 7,000 กว่าบาท)
- สามารถใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass ราคา 27,000 เยน ใช้ขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยวและสามารถใช้เดินทางได้หลายเมือง

รีวิวเดินทางมาฮาโกดาเตะ (Hakodate)

ในส่วนของสตรอเบอร์รี่น้อยฯ เอง เราบินแบบทรานสิทจากกรุงเทพมาลงที่โตเกียว แล้วเปลี่ยนเครื่องมาลงที่สนามบินนิวชิโตเซะ (New Chitose Airport) หรือตัวย่อคือ CTS ในเมืองซัปโปโร จากนั้นเราก็เดินทางต่อมายังเมืองฮาโกดาเตะด้วยรถไฟค่ะ ที่ไม่นั่งมาลงโตเกียวแล้วต่อเครื่องบินมาฮาโกดาเตะเลยเพราะมีเที่ยวบินน้อยและราคาแพงด้วยค่ะ มาต่อรถไฟแบบนี้สะดวกกว่า และเวลาขากลับจากซัปโปโรก็ดีกว่าด้วยค่ะ

พอเราลงเครื่องที่สนามบินสนามบินนิวชิโตเซะแล้ว ก็เดินตามทางออกเพื่อไปซื้อตั๋ว มีป้ายบอกทางตลอด ไม่ยากค่ะ โดยตั๋วรถไฟไปฮาโกดาเตะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบ Reserved (แบบจองที่นั่ง) และ Non-reserved (แบบไม่จองที่นั่ง) ต่างกันที่ราคาและความลุ้นค่ะ 555 แต่เราเอาความสะดวกเลือกแบบ Reserved ไป โดยเที่ยวรถไฟที่จะไปฮาโกดาเตะมี 5 เที่ยวต่อวันนะคะ

ทริคเล็กๆ น้อยๆ: เมื่อเราไปถึงสถานีฮาโกดาเตะแล้วให้เราซื้อตั๋วกลับเอาไว้เลย ไม่แนะนำให้ซื้อในวันที่เราจะกลับ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่ที่นั่งจะเต็มค่ะ

เที่ยวรถไฟขาไป (New Chitose Airport – Hakodate)

ราคาตั๋วแบบ Reserved (ขาไป) คือ 8,630 เยน (ประมาณ 2,675 บาท)

ราคาตั๋วแบบ Non-Reserved (ขาไป) คือ 7,590 เยน (ประมาณ 2,353 บาท)

เที่ยวรถไฟขากลับ (Hakodate – Sapporo)

เที่ยวรถไฟที่จะไปซัปโปโรมี 5 เที่ยวต่อวันเช่นกันค่ะ นั่งตรงไปถึงสถานี Sapporo เลย ไม่ต้องแวะลงเพื่อเปลี่ยนขบวนเหมือนขาไปค่ะ

ราคาตั๋วแบบ Reserved (ขากลับ) คือ 8,830 เยน (ประมาณ 2,737 บาท)

ราคาตั๋วแบบ Non-Reserved (ขากลับ) คือ 8,310 เยน (ประมาณ 2,576 บาท)
ที่ราคาแพงกว่าไปขาไป เพราะว่าระยะทางไกลกว่าค่ะ

*ส่วนตัวแนะนำว่าซื้อแบบ Reserved ไปดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ต้องลุ้นว่าเราต้องยืนไปตลอดจนถึงฮาโกดาเตะมั้ย ยังไงจองก็ได้นั่งชัวร์ค่ะ ที่สำคัญราคาห่างกันนิดเดียวเอง (*^▽^*)

กลับมาที่รีวิวการเดินทางต่อ กรณีที่มาจากสนามบินนิวชิโตเซะ (New Chitose Airport) อย่างสตรอเบอร์รี่น้อยฯ พอซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็นั่งรถไฟที่จะเข้าซัปโปโร มาลงที่สถานี Minami-Chitose เพื่อมารอรถไฟต่อไปที่ฮาโกดาเตะค่ะ ส่วนคนที่เดินทางจากใจกลางเมืองซัปโปโร ก็ให้ขึ้นรถไฟจากสถานี Sapporo (JR) ได้เลยจ้า

อันนี้เป็นหน้าตาตั๋วรถไฟจากสนามบินเข้าฮาโกดาเตะ เค้าจะให้เรามา 2 ใบ

ใบล่างเขียนว่า New Chitose Airport → Hakodate ใช้สำหรับข้าสถานี New Chitose Airport ค่ะ
ใบบนจะเขียนว่า Minami-Chitose → Hakodate ใช้สำหรับเข้าสถานี Minami-Chitose และออกที่สถานี Hakodate ด้านขวามือจะมีบอกเลขที่นั่งและเลขขบวนรถของเราค่ะ ของสตรอเบอร์รี่น้อยฯ คือ รถขบวนที่ 1 ทีนั่ง 12-B เพราะเราซื้อแบบที่จองที่นั่งไว้ ให้ไปขึ้นขบวนที่เขียนว่า Reserved

ในชานชาลาจะมีป้ายบอกว่ารถขบวนที่เราจะนั่งควรไปรอตรงไหน มีตู้ให้รอรถด้วยค่ะ ไม่ต้องกลัวจะหนาว

ระหว่างรอรถไฟ อาจจะซื้อข้าวเตรียมไว้กินก็ได้ค่ะ แต่ในรถไฟก็มีขายนะ แล้วแต่สะดวกเลย คุณป้าคนที่ขายข้าวใจดีมากๆ เห็นเรายืนรออยู่ก็มาขอดูตั๋ว แล้วก็บอกว่า เราต้องไปรอตรงไหน เราคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเค้าจะห่วง เราไม่ได้ถามเค้านะ ด้วยความไม่รู้ ยืนรอตรงที่คนเค้ารอกัน ที่ไหนได้รอผิดขบวน 555 เราต้องเดินย้อนหลังไปอีก ขอบคุณคุณป้าจริงๆ ที่เอะใจแล้วเดินมาถาม ไม่งั้นเดินหาที่นั่งพัลวันแน่ ใครจะไปฮาโกดาเตะอย่าลืมอุดหนุนคุณป้านะคะ