[รีวิว] เที่ยววัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) วัดเงินแห่งเมืองเกียวโต ชมใบไม้เปลี่ยนสีชิลๆ

กลับมาอีกครั้งกับช่วงรีวิวเที่ยวเมืองเกียวโต (Kyoto) โดยเราจะพามาที่ “วัดเงิน” หรือ “วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)” ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตอนปลายเดือนพฤศจิกายนกันค่ะ เป็นวัดที่ค่อนข้างเงียบสงบ สามารถเดินเที่ยวชมวิวได้แบบชิลๆ ยิ่งมาตอนเช้าๆ คนยังไม่เยอะก็สามารถถ่ายรูปได้สบายๆ เสร็จแล้วก็ยังสามารถเดินต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในระแวกนี้ได้โดยไม่ต้องต่อรถให้วุ่นวายอีกด้วยนะคะ

เกี่ยวกับวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)

ข้อมูลการเยี่ยมชม

• เวลาทำการ:
  • มีนาคม – พฤศจิกายน เปิด 8:30 – 17:00 น.
  • ธันวาคม – กุมภาพันธ์ เปิด 9:00 – 16:30 น.
• ค่าเข้าชม:
  • ผู้ใหญ่ 500 เยน
  • นักเรียนประถม – มัธยมต้น 300 เยน

วิธีการเดินทาง

รถบัส

ป้ายรถบัสใกล้เคียง ได้แก่

• Ginkakuji-Mae (銀閣寺前) เดินประมาณ 5 นาที สายที่ผ่านได้แก่ Kyoto City Bus สาย 32, 100
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถบัสสาย 100 มาลงที่ป้าย Ginkakuji-Mae
• Ginkakuji-Michi (銀閣寺) เดินประมาณ 10 นาที สายที่ผ่านได้แก่ Kyoto City Bus สาย 35, 17, 32, 100, 102, 203, 204
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถบัสสาย 5, 17 มาลงที่ป้าย Ginkakuji-Michi

รถไฟ

สถานีรถไฟใกล้เคียง คือ

• Demachiyanagi (รถไฟสาย Keihan Main Line และ Eizan Main Line) เดินประมาณ 30 นาที
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟสาย JR Nara Line มาที่สถานี Tofukuji แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย Keihan Main Line มาลงที่สถานี Demachiyanagi

รีวิวเที่ยววัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)

ก่อนหน้านี้เราเคยรีวิววัดกินคะคุจิในช่วงฤดูหนาวพร้อมพาชิมอาหารที่ร้านท้องถิ่นในย่านนี้กันไปแล้ว คราวนี้เราก็จะมาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีใบไม้แดงให้ชมกันนะคะ

หมายเหตุ: สามารถรีวิวช่วงฤดูหนาวและประวัติความเป็นมาของวัดได้ที่ » [รีวิว] เที่ยววัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) วัดเงินแห่งเมืองเกียวโต

จากหน้าสถานี Kyoto ก็ให้ขึ้นรถบัสสาย 100 มาลงที่ป้าย Ginkakuji-Mae ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที หรือจะนั่งรถบัสสาย 5 มาลงที่ป้าย Ginkakuji-Michi ก็ได้ ทั้งนี้เราเลือกนั่งสาย 100 เพราะอยู่ใกล้กับตัววัดมากกว่านั่นเอง (เอิ๊ก~)

เมื่อลงรถบัสแล้วก็ต้องเดินต่ออีกหน่อย ระหว่างทางก็จะมีร้านค้าขายของฝากและอาหาร ซึ่งตอนที่เราไปถึงยังค่อนข้างเช้า ประมาณ 8 โมงนิดๆ ร้านส่วนใหญ่ยังไม่เปิดกัน

Somon (総門)

บริเวณประตูทางเข้าวัดเงิน ตอนนั้นยังไม่เปิดให้เข้าชมนะคะ เวลาเปิดทำการคือ 8 โมงครึ่ง เรามาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย

แผนที่บริเวณวัดกินคะคุจิ

เมื่อถึงเวลาเปิดทำการ ก็มาซื้อตั๋วเข้าไปชมข้างในวัดกันเลยค่ะ ซึ่งเราจะได้ตั๋วมาพร้อมกับแผ่นพับ ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ก็อยู่ที่ 500 เยนค่ะ

Kuri・Daigenkan (庫裏・大玄関)

ห้องครัวของวัด ซึ่งเรามักเจออาคารทรงนี้ได้ในหลายๆ วัดในเกียวโต

ทางวัดจะมีการจัดเส้นทางเดินไว้ให้ สามารถดูได้ตามป้ายเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในก็จะเจอกับศาลาของวัดเงินก่อน หากใครเคยไปวัดทองมาก็อาจจะสังเกตได้ว่ามีลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ว่าของที่นี่มี 2 ชั้น ในขณะที่วัดทองมี 3 ชั้น และไม่ได้ทาสีเงินเหมือนกับชื่ออย่างวัดทองที่มีศาลาเป็นสีทองอร่าม

ตัวศาลานั้นตั้งอยู่บริเวณริมบ่อน้ำ รายล้อมไปด้วยสวนสไตล์ญี่ปุ่น และหากมาเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงตอนปลายเดือนพฤศจิกายนก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสันให้ชมด้วยนะคะ

Ginsyadan (銀沙灘)

สวนทรายสไตล์ญี่ปุ่นมีการทำลวดลายอย่างสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า Hojo (方丈) ซึ่งเป็นศาลาหลักของวัดเงิน

Kogetsudai (向月台)

กองทรายที่เห็นนั้นก็คือแท่นชมจันทน์ค่ะ

Kannonden Ginkaku (観音殿 銀閣)

บริเวณด้านหน้าศาลาซึ่งอยู่อีกฝั่งของบ่อน้ำ

สวนญี่ปุ่นและใบไม้เปลี่ยนสีที่รายล้อมอยู่เบื้องหลัง

ทางเดินด้านหลังบ่อน้ำ

บันไดขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านหลังวัด ไม่สูงเท่าไหร่ เดินไม่ลำบากค่ะ

Tenbojo (展望所)

จากจุดชมวิวบริเวณด้านหลังวัด สามารถมองเห็นบริเวณวัดรวมไปถึงอาคารบ้านเรือนในเมืองเกียวโตได้

ส่งท้าย

หลายคนอาจจะคุ้นชื่อกับ “วัดทอง” หรือวัดทองคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเมืองเกียวโต (Kyoto) ส่วน “วัดเงิน” แห่งนี้ชื่อว่า “วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)” ชื่อของวัดสองแห่งนี้อาจจะคล้ายๆ กันระวังเรียกสับสนนะคะ ในส่วนของรีวิวตอนหน้านั้น เราจะพาไปยังถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path) ทีี่อยู่ใกล้ๆ กันนี้ยังไงก็รอติดตามชมกันได้นะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต