[รีวิว] เที่ยวศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha) ศาลเจ้าเสาแดงเมืองเกียวโต

ใครที่มาเที่ยวเกียวโต (Kyoto) หลายคนต้องอยากมาถ่ายรูปในอุโมงค์เสาสีแดงสดใสที่ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha /Fushimi Inari Shrine) แห่งนี้อย่างแน่นอน ศาลเจ้านี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สวยงามและเดินทางสะดวกด้วยนะคะ ซึ่งในรีวิวนี้เราก็มากันช่วงฤดูใบไม้ร่วงตอนปลายเดือนพฤศจิกายน ก็เลยมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมกันอีกด้วย ฟินสองต่อเลยทีเดียว

เกี่ยวกับศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha)

ประวัติความเป็นมา

ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ (Fushimi Inari Taisha / 伏見稲荷大社) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเกียวโต (Kyoto) เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงสำหรับเสาโทริอิ (Torii) สีแดงส้มซึ่งได้รับบริจาคมาจากผู้ศรัทธา โดยมีอยู่นับพันต้นเรียงกันเป็นอุโมงค์ทางเดินขึ้นไปยังด้านบนภูเขาอินาริ (Mount Inari) ที่ความสูง 233 เมตร หลายคนจึงเรียกว่าเป็น “ศาลเจ้าเสาแดง” นั่นเอง

ศาลเจ้าดั้งเดิมสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 711 เพื่อบูชาเทพอินาริ (Inari) ซึ่งเป็นเทพแห่งการเพาะปลูกข้าวและเกษตรกรรม และเชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นผู้ส่งสารของเทพอินาริ จึงมีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกอยู่เต็มศาลเจ้าแห่งนี้ ส่วนอาคารหลักของศาลเจ้า (Honden) ซึ่งอยู่ด้านล่างของภูเขาอินารินั้นได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1499

ข้อมูลการเยี่ยมชม

• ค่าเข้าชม:
  • ฟรี
• เวลาทำการ:
  • เปิดให้เข้าชมตลอดเวลา

วิธีการเดินทาง

สถานีรถไฟใกล้เคียง ได้แก่

• Inari (รถไฟสาย JR Nara Line) เดินประมาณ 1 นาที
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟสาย JR Nara Line มาลงที่สถานี Inari
• Fushimi-Inari (รถไฟสาย Keihan Main Line) เดินประมาณ 5 นาที
  • จากสถานี Gion-Shijo ให้นั่งรถไฟสาย Keihan Main Line มาลงที่สถานี Fushimi-Inari

รีวิวเที่ยวศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha)

ที่ตั้งของศาลเจ้าฟุชิมิ อินารินั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานี Kyoto เท่าไหร่ ซึ่งแอดมินก็เดินทางมาด้วยรถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD จากสถานี Shin-Osaka มาที่สถานี Kyoto ใช้เวลาประมาณ 25 นาที แล้วต่อรถไฟ JR Nara Line มาลงที่สถานี Inari นั่งมาเพียง 2 ป้าย ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งคนที่ใช้พาสของ JR อย่าง Kansai Wide Area Pass แบบแอดมิน ก็เดินทางฟรีตลอดเส้นทางค่ะ

พอลงรถไฟที่สถานี Inari ก็เดินออกจากสถานีมานิดเดียว ก็จะเจอกับประตูเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญซึ่งเป็นทางเข้าของศาลเจ้าแล้วค่ะ สำหรับคนที่เดินทางมาด้วยรถไฟสาย Keihan Main Line ก็ให้ลงที่สถานี Fushimi-Inari ซึ่งจะอยู่คนละที่กับสถานี Inari ของสาย JR นะคะ

ช่วงที่เรามาเที่ยวก็ปลายเดือนพฤศจิกายนก็เลยมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมด้วยนะคะ

เสาโทริอิและประตู Romon (楼門)

ที่ไหนยอดฮิตและมาเที่ยวได้แต่เช้า แอดมินจะรีบจัดแพลนมาก่อนเลยค่ะ ตอนมาถึงก็เป็นเวลา 7 โมง คนยังไม่เยอะค่ะ รอจังหวะให้คนที่ขึ้นรถไฟมาถึงพร้อมกันได้เข้าไปด้านในก่อน ก็จะได้บรรยากาศโล่งๆ เช่นนี้ค่ะ

ในการเข้าไปเยี่ยมชมศาลเจ้าญี่ปุ่น เราก็จะต้องชำระร่างกายก่อน ซึ่งวิธีการล้างก็มีหลักๆ 5 ขั้นตอนดังนี้ค่ะ

1. ล้างมือซ้าย โดยใช้มือขวาจับกระบวยตักน้ำ
2. ล้างมือขวา โดยใช้มือซ้ายจับกระบวยตักน้ำ
3. ล้างปาก โดยใช้มือขวาจับกระบวยตักน้ำรินใส่มือซ้าย
4. ล้างมือซ้าย โดยใช้น้ำที่เหลือในกระบวย
5. ล้างกระบวย โดยตักน้ำแล้วปล่อยให้น้ำไหลผ่านที่จับ

บริเวณด้านในศาลเจ้า

แผนที่ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ

เรายังไม่แวะไปตรงศาลาหลักของศาลเจ้า แต่จะไปทางเดินเสาแดงก่อน เพราะเดี๋ยวคนจะมาเยอะ ก็เลยเลี้ยวมาทางซ้าย (จากจุดที่อยู่ในแผนที่) ก่อนนะคะ

Tamayama Inarisha (玉山稲荷社)

พอขึ้นบันไดมา เราจะเจอกับทางเดินเสาโทริอิขนาดใหญ่นี้ก่อน ตรงที่เป็นอุโมงค์เสาแดงมุมมหาชนซึ่งมีขนาดเล็กกว่าจะอยู่ถัดไปอีกนิดนะคะ

จะเห็นได้ชัดเลยว่าเสาต้นใหญ่มากเมื่อเทียบกับตัวคน

Senbon Torii (千本鳥居)

ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ Senbon Torii (千本鳥居) หรือที่แปลได้ว่า “โทริอิพันต้น” นั่นเอง สำหรับขาไปให้เดินทางขวาก่อนนะคะ

จริงๆ แล้วจะมีคนเดินอยู่เรื่อยๆ อยากได้โล่งๆ ต้องมาเช้าๆ แล้วรอจังหวะหน่อยค่ะ ตรงนี้จะเป็นจุดที่แอดมินว่าถ่ายรูปได้สวยสุดเพราะเสาเป็นต้นเล็กๆ และตั้งเรียงกันถี่ๆ ด้วยค่ะ

Okusha Hohaisho (奥社奉拝所)

ถัดจากอุโมงเสาแดง เราก็จะเจอกับศาล Okusha Hohaisho (奥社奉拝所) หรือที่เรียกกันว่า Okuno-in (奥の院) สำหรับขอพรนะคะ

แผ่นไม้ขอพรก็เป็นรูปสุนัขจิ้งจอก ซึ่งเราสามารถครีเอทหน้ากันได้เองเลย

เข้าไปอีกเราก็จะเจอทางเดินเสาแดงอีก

อีกด้านก็จะมีการเขียนชื่อและวันที่บริจาคไว้

หลังจากเดินชมและถ่ายรูปกันมาพักใหญ่ แอดมินก็ต้องกลับออกมาก่อนค่ะ เพราะต้องไปที่วัดอื่นต่อ เดี๋ยวไปช้ากลัวว่าคนจะมาเยอะ จากนี้ก็ยังมีอุโมงค์เสาแดงอีกยาวขึ้นไปบนภูเขาอินาริ (Mount Inari) เลย ซึ่งด้านบนก็จะมีศาลเจ้าย่อยๆ อีกหลายแห่ง และจุดชมวิว สำหรับคนที่อยากจะเดินขึ้นไปก็จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนะคะ

ขากลับนี้เราจะเดินออกมาอีกทาง ซึ่งก็จะเจอสะพานแดงข้ามลำธารเล็กๆ

ภาพลำธารที่ถ่ายจากบนสะพาน

แถบนี้มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม ตอนที่ไปคือวันที่ 25 พศจิกายน ยังไม่ค่อยแดงเท่าไหร่ พอมีให้ชมแบบนิดหน่อย น่าจะต้องมาแบบใกล้ๆ ตอนสิ้นเดือนเลยถึงจะแดงกว่านี้ค่ะ

Honden (本殿)
บริเวณหน้าศาลาหลักของศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ พอสายแล้วคนก็เริ่มเยอะแล้วค่ะ

จากนั้นเราก็เลี้ยวออกมาตรงถนนด้านข้างตรงที่มีร้านขายของฝากและซุ้มขายอาหาร

ถ้าใครอยากเที่ยวสถานที่ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นและมีจุดถ่ายรูปสวย ก็บอกเลยว่าห้ามพลาดศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ (Fushimi Inari Taisha) แห่งนี้ ส่วนใครที่อยากชมใบไม้แดงแบบฟินๆ แดงไปทั้งวัด เราก็ขอแนะนำวัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple) ที่อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งเราจะพาไปรีวิวในบทความหน้า รอติดตามชมกันนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยววัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ในเมืองเกียวโต