สวัสดีค่าาา วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเมืองโอซาก้ากันต่อค่ะ คราวนี้เป็นย่านโดทงโบริ (Dotonbori) โดยเราจะเริ่มกันตั้งแต่การเดินเล่นยามเย็น ทานอาหารมื้อค่ำ และของทานเล่นยามดึกตามร้านชื่อดังให้พุงแตกกันเลยค่ะ หุ หุ
เกี่ยวกับถนนโดทงโบริ (Dotonbori)
สาระและเกร็ดน่ารู้
ถนนโดทงโบริ (Dotonbori / 道頓堀) สายนี้ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า (Osaka) เป็นถนนที่ยาวเลียบคลองเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 300 กว่าปีก่อน (ค.ศ. 1612) สร้างโดยการขุดคลองเพื่อเชื่อมต่อกับแม่น้ำในสมัยนั้น ส่วนคำว่า “โบริ” นั้นมาจากคำว่า “โฮริ” ที่แปลว่าคลองนั้นเอง
ปัจจุบันถนนโดทงโบริเป็นย่านการค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้าซึ่งอยู่ใกล้กับสถานี Numba และติดกับย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และสามารถเดินทะลุกันได้ การเดินทางมายังถนนโดทงโบริ สามารถลงสถานี Namba หรือ สถานี Nippombashi เดินเพียง 2-3 นาทีเท่านั้นเอง หรือเพื่อนๆ ที่มีกำลังขามาก สามารถลงที่สถานี Shinsaibashi และเดินผ่านย่านถนนชินไซบาชิทะลุมาถึงโดทงโบริก็ได้ ระยะทางไม่ไกลมากแต่…มัวแต่แวะ กระเป๋าก็เบาหวิวแบบไม่รู้ตัวเลยละคร่าาา
วิธีการเดินทาง
- จากสถานี Namba (รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line, Sen-Nichimae Line หรือ Yotsubashi Line) ทางออก Exit 14 เดินประมาณ 3 นาที
- จากสถานี Osaka-Namba (รถไฟสาย Hanshin หรือ มาลงที่สถานี Kintetsu) เดินประมาณ 4 นาที
- จากสถานี Namba (รถไฟสาย Nankai) เดินประมาณ 10 นาที
รีวิวย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
H&M Dotonbori
ตึก H&M ใหญ่และมีหลายชั้นมากกก ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้ายกูลิโกะนี่เองค่ะ ก่อนไปหาอะไรกินในย่านนี้ก็เดินไปช้อปก่อนได้ เพราะร้านค้าที่ไม่ใช่ร้านอาหารค่อนข้างจะปิดเร็ว เราก็แอบไปช้อปมาหน่อยหนึ่ง เพลินมาก ใหญ่ดี อิ อิ
Kani Doraku Honten
หลังจากช็อปปิ้งเล็กๆ น้อยๆ แล้ว เราก็ข้ามสะพานข้ามคลองมาหาอะไรทานกันที่ ร้านปูยักษ์ Kani Doraku ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับป้ายกูลิโกะนี่แหละค่ะ ตอนที่เราไปนั้นไปนั้น เราได้จองคอร์สมื้อค่ำเอาไว้ก่อน แน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับปูอย่างแน่นอน อิ อิ มาทั้งที่ต้องเอาให้หนำใจ
ส่วนตัวเราจองคอร์สปู 2 ชม. ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม ตกคนละ 4,700 เยน โดยจองผ่านทาง Japanican หลายคนอาจจะเคยผ่านสายาตามาบ้างนะคะ จองและจ่ายผ่านบัตรเครดิต เมื่อถึงเวลาก็เพียงแค่บอกชื่อที่เราจองไว้ ก็รับประทานคอร์สปูกันอย่างเอร็ดอร่อยได้เลยค่า
หมายเหตุ:
ร้าน Kani Doraku ที่โดทงโบริ จะมีอยู่ 3 สาขา ซึ่ง Honten คือสาขาหลักที่อยู่ใกล้ๆ กับป้ายกูลิโกะ ส่วนสาขา Dotombori Higashi อยู่ใกล้ๆ กับสะพาน Nippombashi และสาขา Dotombori Nakamise อยู่ตรงกลางระหว่างสาขาหลัก Honten และ Dotomborihigashi ใครจองสาขาไหนไว้ ไปให้ถูกสาขานะคะ
นี่เป็นหน้าตาของคอร์สปูแบบคร่าวๆ ค่ะ เวลาการทาน 2 ชม. ไม่รวมค่าเครื่องดื่มนะคะ สามารถทานไปดูวิวริมน้ำได้ด้วยงานนี้เราฟินมากกก ได้กินปูของโปรดด
อิ่มหนำสำราญจากคอร์สปูกันแล้ว ก็ลงมาหาของกินเล่นกันต่อบนถนนสายนี้กันเลยค่าาา
Osaka Ohsho Dotonbori
ร้านเกี๊ยวซ่า Osaka Ohsho ค่าาา คาดว่ารูปร่างหน้าตาของร้านต้องดึงดูดทุกคนมาแน่ๆ รวมถึงเราด้วย ส่วนตัวเราเรียกว่าร้านเกี๊ยวยักษ์ (คือรูปเกี๊ยวหน้าร้านใหญ่มากจริงจัง) ร้านนี้อยู่ตรงถนนเส้นเดียวกับร้านปู เดินเลยมานิดเดียว
ในส่วนของด้านหน้าร้านนั้นก็มีพนักงงานคอยรับออเดอร์ลูกค้าอย่างขมักเขม้น อีกทั้งยังทำกันให้เราเห็นสดๆ เลยค่า ได้ทานเกี๊ยวซ่าแบบร้อนๆ ในวันอากาศหนาวๆ นั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมากจริงๆ ตอนเราไปคิดว่าเป็นช่วงที่คนคงหิวพอดี จึงมีคนเต็มร้านและต่อแถวอยู่บ้างค่ะ
หลังจากรออยู่พักใหญ่ก็ได้มาแล้วค่าา เป็นแบบทานเลย คือขึ้นจากเตาแล้วก็ยื่นให้เราทั้งๆ แบบนี้เลย สามารถเดินไปกินไปได้นนะคะ แต่ว่าด้วยความที่หาถังขยะยาก เราก็ต้องยืนทานหน้าร้านและทิ้งในขยะของร้านเลย จริงๆ สามารถแจ้งเขาได้นะคะว่าทานเลยหรือว่าขอแบบเอากลับบ้าน ใครจะนั่งทานในร้านก็ได้ แต่เป็นแบบ Self Service ใครนั่งทานก็ต้องเก็บขยะให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
Takoyaki Dotonbori Kukuru
หลังจากโซ้ยเกี๊ยวซ่าเสร็จแล้วก็อย่าได้เสียเวลากินกันค่ะ มุ่งหน้าสู่ร้านทาโกยากิ Takoyaki Dotonbori Kukuru กันเล้ยยย ร้านนี้อยู่ถัดจากร้านเกี๊ยวยักษ์นิดเดียว คุณหมึกตัวใหญ่หน้าร้านก็เตะตาเราอีกแล้ว ไม่รอช้า เข้าไปต่อแถวกันค่ะ คนขายก็ทำอยู่หน้าร้านอีกเช่นเคย สามารถสั่งได้ว่าเอากี่ลูก ต่ำสุดเห็นจะเป็นแบบ 8 ลูก
หนุ่มๆ ขยันขันแข็งกันมาก มือทำไป ปากก็พูด “อิรัชไชมะเสะ”ไป มือนี่ทำยิกๆ โหยยย ถ้าไปควักขนมครกเมืองไทย นี่คงมีขนมครกบินลงจานได้ คือมือไว และดูคล่องมาก ทำเอาคนต่อแถวมองเพลินเลย
มากินถึงที่ขนาดนี้ เมื่อได้ทาโกยากิมาแล้วก็แชะรูปกันเสียหน่อย แต่ด้วยความร้อนระอุและกินยากของทาโกยากินี้ เราจะขอเข้าไปนั่งทานด้านในร้านค่ะ ราดซอส ราดมายองแล้วจิ้มเล้ยยย แต่ข้างในร้อนมว๊ากกกต้องระวังสักนิด
แล้วก็ต่อด้วยโอโคโนมิยากิค่าาา เป็นโอโคโนหมูกับผักแบบธรรมดา จริงๆ จะมีแบบรสอื่นๆ ด้วยแต่เราเลือกรสธรรมดาไซส์ธรรมดา ชิ้นหนึ่งทาน 2 คนกำลังเหมาะค่ะ
ยังค่ะ ยังไม่หมดดด ปิดท้ายด้วยร้านโอเด้ง (อันนี้ไม่ทราบชื่อร้านเหมือนกัน) หน้าหนาวกับโอเด้งเป็นของคู่กัน ร้านนี้เป็นร้านโอเด้งกับไทยากิเป็นคุณแม่และลูกสาวขายกันสองคนค่ะ แบบให้ฟีลอารมณ์แบบร้านท้องถิ่นดี เราชอบ
คือท้องเกือบเต็มแล้วก็ขอซื้อแค่แบบชิมรสชาติ เอาอย่างละชิ้น โอเด้งเป็นดีบุก นิ่มๆ อุ่นๆ อร่อยดีค่ะ ส่วนไทยากิเป็นรสช็อคโกแลต เสียดายไม่ค่อยกรอบ อาจจะโดนลมหนาวเยอะไปนิด แต่รสชาติถือว่าดีทีเดียว
Midosuji Illumination
หาอะไรกินกันแล้วก็มาชมบรรยากาศรอบๆ กันบ้างค่ะ ตรงถนนมิโดซูจิ (Midosuji) ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายๆ เดือนธันวาคม แต่ว่ายังคงมีใบแปะก๊วยที่ยังร่วงไม่หมด บวกกับการเปิดไฟช่วงหน้าหนาวก็ทำให้เมืองสวยงามมีสีสันมากขึ้นไปอีก (งานประดับไฟจะเริ่มจัดตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนจนถึงสิ้นปี)
โอซาก้านี่เป็นเมืองที่คึกคักมากจริงๆ ค่ะ ส่วนตัวเราคิดว่าคึกคักกว่าโตเกียวมาก มีความยืดหยุ่นมากกว่าด้วย โตเกียวให้ความรู้สึกเป็นระเบียบแต่ตึงเครียด
Don Quijote Dotonbori Midosuji Store
ร้านดองกี้สาขานี้อยู่ตรงถนนมิโดซูจิ (Midosuji) นอกจากนี้ก็ยังมีอีกสาขาที่มีชิงช้าด้านหน้าที่อยู่ตรงคลองอีกด้วยค่ะ
PABLO Dotonbori
ส่วนร้านนี้ เราก็มัวแต่กินตัดกำลังตัวเอง พอเดินมาถึงร้าน PABLO ก็ไม่สามารถยัดอะไรลงท้องได้แล้ววว ชีสทาร์ตเจ้านี้ถือว่าเป็นร้านประจำของเราก็ว่าได้ค่ะ และที่โอซาก้าสาขานี้ก็เป็นสาขาที่สามารถนั่งทานได้ด้วยนะคะ เสียดายมากกก โดยทั่วไปสาขาอื่นเป็นแบบซื้อกลับบ้านค่ะ ร้านที่มีที่นั่งทานในร้านได้มีไม่กี่สาขา
ส่งท้าย
ปิดท้ายก่อนกลับบ้านกับภาพกูลิโกะที่โดทงโบริกันค่า สะพานนี้เป็นที่ถ่ายรูปยอดฮิตและเป็นที่นัดพบ นอกจากนั้นแล้วตอนกลางคืนท่านอาจจะได้เห็นหนุ่มโฮสออกมายืนกันเยอะแยะ (ระวังตัวกันด้วยนะคะ) คราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวกันใหม่ค่าาา สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
Photo By:5tHbeaR & Mttery
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในโอซาก้า
บทความเที่ยวโอซาก้า (Osaka)
การเดินทาง
› วิธีเดินทาง
- สนามบินคันไซ (Kansai Airport) และวิธีการเดินทางเข้าเมือง
- วิธีการเดินทางระหว่างโตเกียว – โอซาก้า ทั้งแบบมีและไม่มี JR PASS
- [รีวิว] รถไฟ JR HARUKA เดินทางเข้าเมืองจาก Kansai Airport
- [รีวิว] สายการบินไทย (Thai Airways) กรุงเทพ – โอซาก้า
- [รีวิว] สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) กรุงเทพ – โอซาก้า
› บัตรเหมาจ่ายสุดคุ้ม
- Osaka Amazing Pass พาสนั่งรถไฟ & เข้าที่เที่ยวในโอซาก้าฟรี 1 – 2 วัน
- JR Kansai Wide Area Pass พาสนั่งรถไฟเที่ยวทั่วคันไซ 5 วัน
สถานที่ท่องเที่ยว
› Highlight
› Universal Studios Japan
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) พร้อม Express Pass+ทริคท่องเที่ยว
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) กับบรรยากาศช่วงคริสต์มาส
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) ตอนกลางคืน ชมโชว์ & ขบวนพาเหรด
- [รีวิว] 10 เครื่องเล่นสุดฮิตใน Universal Studios Japan (USJ) ที่ไม่ควรพลาด!
› Osaka Bay
- [รีวิว] Osaka Aquarium KAIYUKAN พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังแห่งเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Santa Maria Bay Cruise ล่องเรือชมอาทิตย์อัสดงที่อ่าวโอซาก้า
- [รีวิว] Tempozan Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน เมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Tempozan Market Place แวะกินมื้อเที่ยงที่ห้างริมอ่าวโอซาก้า
- [รีวิว] Sakishima Cosmo Tower ชมวิวอ่าวโอซาก้ามุมสูงบนตึกระฟ้า
› Umeda
- [รีวิว] Umeda Sky Building จุดชมวิวเมืองโอซาก้าบนตึกสูงระฟ้า
- [รีวิว] HEP FIVE Ferris Wheel นั่งชิงช้าสรรค์ชมวิวเมืองโอซาก้ายามค่ำ
› Namba
- [รีวิว] Dotonbori เดิน กิน เที่ยว ไปหากูลิโกะในโอซาก้า
- [รีวิว] Kuromon Ichiba Market ตลาดสดแหล่งของกินในเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Namba & Shinsaibashi ย่านละลายทรัพย์แห่งโอซาก้า
› Tennoji
- [รีวิว] HARUKAS 300 จุดชมวิวเมืองโอซาก้าบนตึก ABENO HARUKAS
- [รีวิว] วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) วัดเก่าแก่แห่งเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Shinsekai & Tsutenkaku Tower เที่ยวย่านชินเซไก ชมวิวจากหอคอย
› Sumiyoshi
- [รีวิว] Sumiyoshi Taisha ศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Osaka Museum Of Natural History ชมวิวัฒนาการเมืองโอซาก้า
› เที่ยวนอกเมือง
โรงแรมที่พัก
- [รีวิว] remm Shin-Osaka โรงแรมทำเลดีในโอซาก้า ติดสถานีรถไฟ
- [รีวิว] Residential Hotel Hare Shin-Osaka โรงแรมในบรรยากาศบ้านญี่ปุ่น
ของกินของฝาก
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com