หลังจากเดินทางท่องเที่ยวทั่วญี่ปุ่นมาหลายปีและได้ทดลองใช้เครื่องมืออำนวยความสะดวกต่าง ๆ มามากมาย หนึ่งในสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ขับรถเที่ยวก็คือ “ที่จอดรถอัตโนมัติ” ซึ่งพบได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะ ที่จอดรถแบบแผงกั้นใต้ท้องรถ หรือที่เรียกว่า ที่จอดรถแบบหยอดเหรียญ นั่นเอง
บทความนี้จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ ระบบที่จอดรถในญี่ปุ่น ตั้งแต่ประเภทของที่จอดรถที่เจอบ่อยๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และจะพาไปรีวิววิธีการใช้งานแบบละเอียด พร้อมทริคน่ารู้และข้อควรระวังด้วยค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ขับรถเที่ยวญี่ปุ่นได้สะดวกและสบายมากขึ้นนะคะ
ประเภทของที่จอดรถที่พบบ่อยในญี่ปุ่น
การจอดรถในประเทศญี่ปุ่นจากประสบการณ์ที่เคยเจอมามีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสถานที่และระบบการจัดการ ทว่าแอดมินจะอธิบายรูปแบบที่เราเจอบ่อยๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ดังนี้ค่ะ
1. ที่จอดรถแบบกลางแจ้ง
มักเป็นลานจอดรถแบบเปิดโล่ง พบได้ทั้งตามสถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตมีทั้งจอดฟรี และต้องเสียค่าบริการ ขึ้นอยู่กับสถานที่
2. ที่จอดรถแบบมีคนเฝ้า
เป็นที่จอดรถแบบมีพนักงานคอยดูแลอำนวยความสะดวก และคอยเก็บค่าจอด มักเก็บค่าบริการแบบรายครั้งไม่จำกัดชั่วโมง สามารถพบได้ตาม โรงแรม สถานที่ราชการ และบางลานจอดรถขนาดใหญ่
3. ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ
เป็นที่จอดรถที่ใช้การควบคุมแบบอัตโนมัติ บางที่ก็อาจไม่มีคนเฝ้าอยู่เลย เช่น
- ที่จอดรถแบบแผงกั้นใต้ท้องรถ: พบได้ทั่วไปตามลานจอดรถเอกชนและในเมือง ใช้แผงกั้นล็อครถเมื่อจอดและปลดล็อคเมื่อจ่ายเงิน
- ที่จอดรถแบบไม้กั้น: มักเจอในห้างสรรพสินค้าและลานจอดรถในเมือง ให้กดรับบัตรที่ทางเข้าและต้องจ่ายเงินก่อนออก
- ที่จอดแบบมิเตอร์: พบได้ตามในเมือง เป็นที่จอดริมถนน โดยมีมิเตอร์สำหรับจ่ายเงินติดตั้งอยู่ริมฟุตบาท สามารถจอดได้ไม่เกินตามเวลาที่กำหนด
- ที่จอดรถแบบอาคาร: พบได้ตามเมืองใหญ่ๆ ที่มีพื้นที่จำกัด เป็นอาคารจอดรถอัตโนมัติหลายชั้นที่สามารถซ้อนรถได้หลายคัน ให้ขับรถเข้าไปยังช่องจอดที่กำหนด ระบบจะยกรถขึ้นไปเก็บด้านบนให้อัตโนมัติ
4. ที่จอดรถแบบจองเวลา
ส่วนใหญ่เป็นการจอดริมถนน และต้องจองเวลาล่วงหน้าโดยตรงกับสถานที่ มักใช้กับรถขนาดใหญ่ที่จอดส่งผู้โดยสารบริเวณหน้าสถานที่ท่องเที่ยว เช่น จุดจอดรถของวัดเซ็นโซจิที่โตเกียวและวัดคิโยมิสึที่เกียวโต
ข้อควรระวังในการใช้ที่จอดรถในญี่ปุ่น
- ห้ามนำรถเข้าไปจอดในที่จอดรถแบบรายเดือน (เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “月極駐車場” หรืออาจเขียนย่อๆ เป็น “P月極“) หรือจอดรถในที่ห้ามจอด (สังเกตจากป้ายจราจร)
- ควรตรวจสอบค่าจอดรถบนป้าย เนื่องจากค่าบริการอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่ และอาจคิดค่าบริการต่างกันไปตามวันและช่วงเวลา นอกจากนี้ก็ยังมีราคาแบบเหมาอีกด้วย
- ในบางครั้งอาจเป็นระบบไว้ใจ ให้จอดรถเอาไว้แล้วหย่อนเงินลงในตระกร้าเองได้เลยโดยไม่มีคนเฝ้า แอดมินเคยเจอที่วัดแห่งหนึ่งในนารา จึงควรสังเกตป้ายด้วยนะคะ
วิธีการใช้ที่จอดรถแบบอัตโนมัติในญี่ปุ่น
จากประเภทของที่จอดรถในแบบต่างๆ ข้างต้น แบบที่มีคนเฝ้าหรือไม้กั้น เรายังคุ้นเคยกันบ้าง เพราะว่าคล้ายกับรูปแบบที่จอดรถในไทย ส่วนการจอดแบบจองเวลา ส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้งานถ้าไม่ใช่บริษัททัวร์ หรือสำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถมินิบัสเอง
วันนี้เราจึงอยากแนะนำรูปแบบที่พบได้บ่อยในญี่ปุ่นและในไทยยังไม่ค่อยมีใช้ นั่นก็คือ ที่จอดรถอัตโนมัติแบบแผงกั้นใต้ท้องรถ (Flap-lock Parking Lot) หรือที่เรียกกันว่า “ที่จอดรถแบบหยอดเหรียญ (Coin Parking Lot)” นั่นเอง จะมีวิธีการใช้งานอย่างไร ไปดูกันแบบ Step by Step เลยค่ะ
1. ค้นหาที่จอดรถ
แนะนำให้ค้นหาสถานที่จอดรถใกล้เคียงกับสถานที่ที่เราจะไปก่อน โดยใช้แอปฯ หรือเว็บไซต์ต่างๆ เช่น
- Google Maps: ใช้ค้นหาจากแอปฯ ในโทรศัพท์แล้วนำทางได้เลย
- NAVITIME Parking: เป็นภาษาญี่ปุ่นให้ใช้ Chrome ช่วยแปลภาษา
- Japan Map Code Search: มีภาษาอังกฤษ ใช้เพื่อค้นหารหัส Map Code สำหรับเอาไปใช้กับ GPS ในรถเช่า เพื่อใช้ในการนำทาง
📌 ทริคน่ารู้
วิธีมองหาที่จอดรถระบบอัตโนมัติแบบมีแผงกั้นใต้ท้องรถในญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ยากค่ะ มีจุดสังเกตเพียงแค่ 3 จุดเท่านั้น ได้แก่
- สัญลักษณ์ “P” (Parking): หน้าลานจอดรถจะมีตัวอักษร P ขนาดใหญ่ ซึ่งหมายถึง Parking เพื่อแสดงว่าเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ
- แผงกั้นใต้ท้องรถ: บนพื้นที่จอดรถมีเหล็กสี่เหลี่ยมผืนผ้าความยาวประมาณ 50-80 เซนติเมตร วางเป็นจุดๆ ตามช่องจอด ส่วนใหญ่มักเป็นสีเหลืองหรือสีเทา
- เครื่องชำระค่าจอดรถ: เป็นตู้ชำระเงินเล็กๆ มักตั้งอยู่มุมใดมุมหนึ่งของลานจอดรถนั้นๆ ไว้สำหรับคิดเงินก่อนเอารถออก
2. ตรวจสอบว่ามีที่จอดว่างหรือไม่
วิธีการตรวจสอบว่าลานจอดรถนั้นสามารถนำรถเข้าจอดได้หรือไม่นั้นมีอยู่ 2 วิธีง่ายๆ ได้แก่
- มองหาด้วยตาของเราเอง: ให้สายตาของเราสอดส่องดูว่ามีที่จอดรถว่างหรือไม่ วิธีการนี้ใช้ได้เฉพาะลานจอดรถที่มองเห็นได้พื้นที่โล่งแจ้งเท่านั้น
- ดูจากป้ายในลานจอดรถ: ให้ดูจากตัวหนังสือบนป้าย LED หรือสังเกตจากสีของตัวหนังสือ
- 空 (ว่าง): ป้ายเขียนด้วยตัวอักษรญี่ปุ่นสีเขียว หรือสีฟ้า หรือสีขาว หมายถึง มีที่จอดว่างอยู่ เราสามารถนำรถเข้าจอดได้เลยค่ะ
- 満 (เต็ม): ป้ายเขียนด้วยตัวอักษรญี่ปุ่นสีแดง หรือสีขาว (พบได้ไม่บ่อย) หมายถึง ที่จอดเต็ม ไม่สามารถนำรถเข้าจอดได้แล้วนั่นเองค่ะ
3. นำรถเข้าจอดในที่จอด
เมื่อพบว่ามีที่จอดรถว่างอยู่ เราสามารถนำรถเข้าไปจอดได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- นำรถเข้าไปจอดในช่องที่ว่าง: ให้ถอยรถเข้าไปจอดในช่องที่กำหนด โดยให้ล้อคร่อมแผงเหล็กกั้นใต้ท้องรถ หลังจากนั้นเหล็กกั้นจะยกขึ้นมาล็อครถในอัตโนมัติ (ค่าบริการจะเริ่มคิดตั้งแต่ที่เหล็กกั้นยกขึ้นมา)
- มองหาเลขช่องที่จอดรถ: เมื่อลงจากรถ ให้ดูเลขบนพื้นหน้าช่องจอดรถ ให้จำเลขไว้ หรือจะถ่ายรูปเก็บเอาไวก็ได้เช่นกันค่ะ เพื่อใช้ในการชำระเงินค่าจอด
- ตรวจสอบวิธีการชำระเงิน: ก่อนเดินออกจากลานจอดรถ ควรตรวจสอบตู้ชำระเงินว่าสามารถใช้บัตรเครดิตได้หรือไม่ หรือรับแบงค์ใหญ่หรือไม่ เพื่อเตรียมการจ่ายเงินได้ถูกต้อง เนื่องจากบางลานจอดรถอาจจะไม่รับแบงค์ใหญ่อย่างแบงค์ 10,000 เยน หรือแบงค์พิเศษ อย่างแบงค์ 2,000 เยน เป็นต้น
⚠️ ข้อควรระวัง
- ควรจอดให้ตรงตั้งแต่แรกโดยไม่จำเป็นต้องขยับรถซ้ำ เพื่อให้ระบบล็อครถได้อย่างถูกต้อง
- หลังจากจอดรถประมาณ 5-10 นาที แผงเหล็กใต้ท้องรถจะยกขึ้นล็อค เพื่อป้องกันไม่ให้เรานำรถออกได้หากยังไม่ได้ชำระเงิน
4. ตรวจสอบค่าจอดรถบนป้าย
ควรตรวจสอบราคาที่ป้ายแสดงอัตราค่าจอดรถ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ช่วยให้คำนวณค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง และช่วยคำนวณค่าระยะเวลาการจอดที่คุ้มค่าได้อีกด้วย โดยขอแนะนำวิธีการอ่านป้ายที่จอดรถในญี่ปุ่นจากตัวอย่างด้านล่างนี้
- เริ่มอ่านป้ายด้านล่าง ในแถบสีเขียวที่เขียนว่า [通常料金] หมายถึง อัตราค่าธรรมเนียมปกติ เป็นอัตราค่าจอดรถโดยคิดตามระยะเวลา ซึ่งแตกต่างกันไปตามวันและช่วงเวลา
[อัตราค่าธรรมเนียมปกติ]
- เวลา 8:00 ~ 22:00
จันทร์-ศุกร์ 300 เยน / 20 นาที
เสาร์-อาทิตย์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ 15 นาที / 200 เยน - เวลา 22:00 ~ 8.00
ทุกวัน 60 นาที / 100 เยน
- ต่อมาให้ดูที่ป้ายด้านบน ในแถบสีแดงที่เขียนว่า [最大料金] หมายถึง อัตราค่าธรรมเนียมสูงสุด เป็นอัตราค่าจอดสูงสุดต่อ 24 ชั่วโมง สำหรับคนที่จอดนานๆ
[อัตราค่าธรรมเนียมสูงสุด]
- จอดไม่เกิน 24 ชม
จันทร์-ศุกร์ 2,500 เยน
เสาร์-อาทิตย์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ 1,500 เยน
※ในสี่เหลี่ยมทางขวาเป็นคำอธิบายคือ ดูว่าเข้าจอดวันไหน ก็คิดราคาของวันนั้น เช่น เข้าจอดวันศุกร์ ผ่านไป 24 ชม. เอารถออกวันเสาร์ ก็จะคิดอัตราค่าจอดของเรทวันศุกร์ค่ะ
📌 อัตราค่าจอดรถตามระยะเวลาในญี่ปุ่น
- ค่าจอดรถโดยทั่วไปเริ่มที่ 200-600 เยน / 30 นาที
- หากเป็นในเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ค่าจอดรถอาจสูงถึง 400-1,000 เยน / 30 นาที
- บางจุดมีอัตราเหมาไม่เกิน 24 ชั่วโมง หากจอดนานๆ ก็จะถูกกว่าอัตราแบบรายนาที
- ค่าจอดรถในช่วงกลางคืนมักถูกกว่าช่วงกลางวัน เนื่องจากมีความต้องการใช้งานน้อย
5. ชำค่าจอดที่เครื่องชำระเงินอัตโนมัติ
เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วและต้องการนำรถออก ให้เดินไปที่ตู้ชำระเงิน เพื่อชำระค่าที่จอดรถตามอัตราที่ป้ายแสดงไว้ ซึ่งการใช้ตู้ชำระเงินอัตโนมัตินั้นก็ไม่ยุ่งยาก โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
- กดหมายเลขที่จอดรถของเรา แล้วกดปุ่มจ่ายเงิน “精算 (Payment)” บนแป้นหรือหน้าจอ
- ชำระค่าที่จอดรถตามจำนวนที่เครื่องแสดง ด้วยเงินสดหรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์
- รับเงินทอน (ถ้ามี) และรับใบเสร็จ หรือสลิป
📌 ช่องทางการชำระเงิน
- สามารถจ่ายค่าที่จอดด้วยเงินสด ทั้งธนบัตรและเหรียญ (บางเครื่องอาจไม่รับแบงค์ 10,000 เยน หรือ 2,000 เยน และทอนเป็นเหรียญเท่านั้น)
- หากจ่ายด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัตร IC Card (Suica, Pasmo, ICOCA), บัตรเครดิต (Visa, Mastercard, JCB) บางตู้จะให้เลือกวิธีการจ่ายเงินก่อน
6. นำรถออกจากที่จอดรถ
หลังจากชำระเงินเสร็จ แผงกั้นใต้ท้องรถจะลดความสูงลง ให้ตรวจสอบก่อนว่าแผงกั้นลดระดับจนสุดแล้วหรือยัง แล้วค่อยขับรถออกจากช่องจอดรถนะคะ
⚠️ ข้อควรระวัง
- ควรนำรถออกให้เร็วที่สุด หากมีของที่ต้องจัดหรือต้องเตรียมก่อนจะออกรถ เช่น การเก็บของที่ซื้อมา หรือธุระใดๆ แนะนำให้จัดการให้เสร็จก่อนจะไปชำระเงินที่ตู้ค่ะ
- หากรีบจ่ายเงินก่อน แล้วนำรถออกช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ เหล็กกั้นจะยกขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เราต้องเสียเงินค่าจอดอีกรอบ
คูปองส่วนลดสำหรับการเช่ารถในญี่ปุ่น
1,000.-
OFF
คูปองส่วนลด ToCoo!
เช่ารถกับ ToCoo! ตั้งแต่ 10,000 เยนขึ้นไป กรอกรหัสคูปองในขั้นตอนการจองเพื่อรับส่วนลด 1,000 เยน
🎫 รหัสคูปอง: TCJKT1
🏢 สาขาที่ใช้งานได้ : ทุกสาขา
📅 ระยะเวลา: ไม่จำกัด
※ค่าใช้จ่ายสำหรับ ToCoo! Option ไม่สามารถใช่ร่วมกับโปรโมชันนี้ได้
ส่งท้าย
เราสามารถพบเจอที่จอดรถอัตโนมัติแบบแผงกั้นใต้ท้องรถตามตัวอย่างในรีวิวได้เกือบทุกที่ในญี่ปุ่น (ยกเว้นในป่า) เพราะง่าย สะดวก และไม่จำเป็นต้องใช้คนในการดูแล บางครั้งเราอาจเจอที่จอดรถเพียงแค่ 2-4 คันเท่านั้น แต่แค่นี้ก็สามารถทำเงินได้แล้วค่ะ โดยเฉพาะในประเทศที่ค่าปรับแพงมากๆ ผู้คนยอมที่จะเสียค่าที่จอดรถมากกว่าค่าปรับหลักหมื่นเยน หากเพื่อนๆ เรียนรู้วิธีการใช้งานเอาไว้ คิดว่าจะสามารถช่วยเพื่อนๆ ได้มากเลยค่ะ
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในญี่ปุ่น
บทความเกี่ยวกับการเดินทาง
- อยากเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เตรียมตัวอย่างไร มีวิธีการอย่างไร?
- [รีวิว] เช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง การจองรถเช่า การรับและคืนรถ
- [รีวิว] เช่ารถในญี่ปุ่นกับ ToCoo! พร้อม TEP บัตรทางด่วนแบบเหมา
- 15 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
- 9 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่น
- 5 เรื่องราวบนท้องถนนและรถยนต์ในโตเกียว
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com