วันนี้เรามีรีวิวเอาใจสาวกเจ้าหมีริลัคคุมะกับร้าน Arashiyama Rilakkuma Tea House ที่อาราชิยาม่า (Arashiyama) ในจังหวัดเกียวโต (Kyoto) นะคะ บอกเลยว่าเราเป็นแฟนตัวยงของริลัคคุมะ หมดทรัพย์กับที่นี่ไปหลายตังค์เลยทีเดียว นอกจากการทานมื้อเที่ยงที่คาเฟ่แล้ว ก็ยังโดนของพวกกิฟท์ช็อปในร้านกระชากเงินในกระเป๋าไปอีก เอิ๊ก~
เกี่ยวกับร้าน Arashiyama Rilakkuma Tea House
Arashiyama Rilakkuma Tea House หรือในชื่อญี่ปุ่นว่า Arashiyama Rilakkuma Sabo (嵐山 りらっくま茶房) ตั้งอยู่ที่อาราชิยาม่า (Arashiyama) ในจังหวัดเกียวโต (Kyoto) เป็นร้านขนาดสองชั้นที่มีการตกแต่งเป็นร้านน้ำชาสไตล์เกียวโต ซึ่งคำว่า “茶房 (Sabo)” นั้นก็หมายถึง “ร้านน้ำชา (Tea House)” นั่นเอง
ร้านริลัคคุมะสาขาที่อาราชิยาม่านี้มีคอนเซ็ปต์เป็น “น้ำผึ้ง” ซึ่งภายในร้านสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 โซน คือ
- Rilakkuma Restaurant: คาเฟ่ที่จำหน่ายอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มแบบนั่งทานในร้าน
- Rilakkuma Honey Stand: ร้านที่จำหน่ายซอฟท์ครีม ของหวาน และเครื่องดื่มแบบ Take-out
- Honey Shop: โซนจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับน้ำผึ้ง แยม และขนมต่างๆ จากริลัคคุมะ
- Goods Shop: โซนจำหน่ายสินค้าออริจินอลของริลัคคุมะ และสินค้าแบบพิเศษที่จำหน่ายเฉาะที่นี่เท่านั้น
เวลาทำการ
ช่วงปกติ (6 มีนาคม – 5 ธันวาคม)
- Restaurant: 10: 30 – 17: 30 น.
Last Order:- Lunch 16:30 น.
- Cafe 17:00 น.
- Take-out: 10: 00 – 17: 30 น.
- Goods Shop: 10: 00 – 18: 00น.
ช่วงฤดูหนาว (6 ธันวาคม – 5 มีนาคม)
- Restaurant:10: 30 – 17: 00 น.
Last Order:- Lunch 16:00 น.
- Cafe 16:30 น.
- Take-out: 10: 00 – 17: 00 น.
- Goods Shop: 10: 00 – 17: 30 น.
วิธีการเดินทาง
- จากสถานี Saga-Arashiyama (รถไฟสาย JR Sagano Line(JR San-In Line)) ใช้เวลาเดินประมาณ 9 นาที
- จากสถานี Arashiyama (รถรางสาย Randen Arashiyama Line) ใช้เวลาเดินประมาณ 1 นาที
- จากสถานี Arashiyama (รถไฟสาย Hankyu Arashiyama Line) ใช้เวลาเดินประมาณ 12 นาที
รีวิวร้าน Arashiyama Rilakkuma Tea House
จากในรีวิวตอนที่แล้วเราเดินมาจากวัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) ซึ่งอยู่อีกฝั่งของถนนเองค่ะ แค่ข้ามถนนมาก็เจอแล้ว สำหรับตัวร้านอาหารแบบนั่งทานที่ร้านนั้นอยู่บนชั้นที่ 2 นะคะ
เครื่องจองคิวอัตโนมัติ
ทางร้านก็มีเครื่องจองคิวตั้งไว้ตรงบันไดทางขึ้น ก็จิ้มจองกันไว้ก่อนตรงปุ่มสีน้ำเงินที่เขียนว่า “受付” ก็จะได้เลขมา พอกดจองคิวแล้วจากนั้นเราก็มาเดินสำรวจร้านบริเวณชั้นล่าง และแวะช้อปปิ้งซื้อหาของฝากกันก่อนเป็นการเรียกน้ำย่อย
Rilakkuma Honey Stand
ตรงนี้เป็นโซน Take-out มีพวกขนมหวานอย่างซอฟท์ครีม และ เครื่องดื่ม เช่น ชาและกาแฟค่ะ
ส่องตัวอย่างอาหารสำหรับมื้อเที่ยงกันไว้ก่อน หน้าตาน่ารักทุกเมนู
ริลัคคุมะ โคะริลัคคุมะ และคิอิโรยโทริบนโถน้ำผึ้งตรงบริเวณหน้าร้าน
ริลัคคุมะในชุดกิโมโนตรงหน้าร้านขายของ
ขนมคัสเตลลาแบบลิมิเต็ดตรงหน้าร้าน Honey Shop
หลังจากช้อปเสร็จจนแทบหมดตัว (ฮา~) ก็กลับมารอตรงบันไดทางขึ้น เมื่อถึงเวลาพนักงานก็จะมาเชิญให้เราขึ้นไป แล้วพาไปที่โต๊ะค่ะ จากนั้นก็เอาเมนูมาให้ดูก่อน ซึ่งหากมาช่วงนี้ก็จะมีเมนูพิเศษของฤดูใบไม้ร่วงด้วยนะคะ
ตัวอย่างเมนู น่าทานทุกเมนูเลย ราคาก็แรงเช่นกัน (หุหุ)
บนโต๊ะมีพร็อพเป็นตุ๊กตาวางไว้ให้เราได้ถ่ายรูปด้วย ส่วนแผ่นรองแก้วนี้สามารถเอากลับไปเป็นที่ระลึกได้นะคะ
เซ็ตเบนโตะซูชิและข้าวปั้นราคา 1,650 เยน
เสิร์ฟพร้อมกับซุปมิโสะ ข้าวปั้นเป็นรูปหมีน่าร้ากกก จนไม่กล้าทานเลย
เซ็ตซูชิอินาริและโซบะชาเขียวราคา 1,480 เยน
เป็นซูชิเต้าหู้หน้าหมีและโซบะชาเขียวซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะทานแบบร้อนหรือเย็นค่ะ
ราคานี้ยังไม่รวมเครื่องดื่มและภาษีนะคะ ซึ่งเราก็สั่งน้ำมะนาวเพิ่มอีกราคา 500 เยน ทานเสร็จก็กระเป๋าเบาเลย นอกจากอาหารคาวแล้วก็ยังมีพวกของหวานอย่างแพนเค้ก พาเฟ่ต์ ขนมญี่ปุ่นอีกนะคะ ใครกระเป๋าหนักก็ตบของหวานกันต่อได้ (โหะๆ)
หลังจากที่ชำระเงินแล้วก็ได้ทิชชู่มาเป็นที่ระลึก นี่ก็น่ารักจนไม่กล้าใช้ (ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ใช้ 555)
ปิดท้ายด้วยศาลเจ้าพ่อริลัคคุมะที่อยู่ตรงป่าไผ่ด้านหลังร้าน ที่จริงแล้วเป็นรูปปั้นหินประดับสวนนะคะ มีความคาวาอี้มาก บรรยากาศใกล้เคียงกับเส้นทางป่าไผ่ (Bamboo Grove) ที่ไปเดินชมมาก่อนหน้านี้เลย
ส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับคาเฟ่เจ้าหมีขี้เกียจริลัคคุมะ แฟนคลับอย่างแอดมินก็ฟินมากค่ะ ใครมาเที่ยวที่อาราชิยาม่าก็แวะมากันได้เลยนะคะ ทำเลดี ไม่ไกลจากป่าไผ่เลยด้วยค่ะ สำหรับในตอนหน้าเราก็จะออกเดินเที่ยวกันต่อแถวๆ บริเวณสะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ซึ่งเป็นแลนมาร์คของที่อาราชิยาม่าแห่งนี้ รอติดตามชมกันนะคะ สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า
อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวสะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ชมใบไม้เปลี่ยนสีริมแม่น้ำที่อาราชิยาม่า
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในเกียวโต
บทความเที่ยวเกียวโต (Kyoto)
การเดินทาง
- สนามบินคันไซ (Kansai Airport) และวิธีการเดินทางเข้าเมือง
- [รีวิว] รถไฟ JR HARUKA เดินทางเข้าเมืองจาก Kansai Airport
- Kansai Thru Pass พาสท่องเที่ยวคันไซแบบคุ้มๆ ด้วยรถไฟเอกชน
- JR Kansai Wide Area Pass พาสนั่งรถไฟเที่ยวทั่วคันไซ 5 วัน
สถานที่ท่องเที่ยว
› เกียวโตกลาง (Central Kyoto)
› เกียวโตตะวันออก (Eastern Kyoto)
- [รีวิว] ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) & เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda)
- [รีวิว] วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) วัดน้ำใสแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] ย่านกิออน (Gion) ย่านเกอิชาและไมโกะแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) ศาลเจ้ากิออน เมืองเกียวโต
- [รีวิว] สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park) ชมซากุระที่เกียวโต
- [รีวิว] วัดชิออนอิน (Chionin Temple) ชมงานประดับไฟช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
- [รีวิว] วัดโชเร็นอิน (Shorenin Temple) ชมงานประดับไฟช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
- [รีวิว] วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) วัดเงินแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher's Path) ในเกียวโต
- [รีวิว] วัดเอคันโด (Eikando Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ
- [รีวิว] วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ
› เกียวโตตะวันตก (Western Kyoto)
- [รีวิว] อาราชิยาม่า (Arashiyama) ชมป่าไผ่และใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต
- [รีวิว] วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต
- [รีวิว] สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี
› เกียวโตเหนือ (Northern Kyoto)
- [รีวิว] วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) วัดทองแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดฮมมันจิ (Homman-ji Temple) ชมซากุระยักษ์ยืนหนึ่ง
- [รีวิว] ศาลเจ้าคิฟุเนะ (Kifune Shrine) ศาลเจ้าบันไดสวย
- [รีวิว] วัดรุริโคอิน (Rurikoin Temple) ชมวิวภาพสะท้อนราวกับฝัน
› เกียวโตใต้ (Southern Kyoto)
- [รีวิว] ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha) ศาลเจ้าเสาแดง
- [รีวิว] วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ
- [รีวิว] เมืองอุจิ (Uji) เมืองชาเขียว & วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
- [รีวิว] วัดไดโกจิ (Daigoji Temple) ชมเจดีย์กลางน้ำและใบไม้เปลี่ยนสี
- [รีวิว] วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusangendo Temple) วัดเจ้าแม่กวนอิม
- [รีวิว] วัดโชจุอิน (Shojuin Temple) วัดหน้าต่างหัวใจ
ร้านอาหาร
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com