ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

วันนี้เราจะพาเข้าเมืองหลวงมาเที่ยวกันที่โตเกียว (Tokyo) กันบ้างนะคะ โดยเราจะพาไปที่ SHIBUYA SKY (ชิบูย่า สกาย) ซึ่งเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่บนตึกระฟ้า Shibuya Scramble Square (ชิบูย่า สแครมเบิ้ล สแควร์) และเป็นตึกที่สูงที่สุดของย่านชิบูย่าด้วยค่า สามารถชมวิวของโตเกียวได้อย่างอลังการแบบ 360 องศา พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ ซึ่งถ้าอากาศดีก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย

วันนี้เราจะพามายังจุดชมวิวอ่าวโอซาก้ากันที่ Sakishima Cosmo Tower Observatory (จุดชมวิวบนอาคาร ซากิชิมะ คอสโม ทาวเวอร์) ซึ่งอยู่บนความสูงถึง 252 เมตร จากตรงนี้สามารถมองเห็นตรง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN) และชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel) ได้มุมสูงแบบสวยๆ ด้วยนะคะ และที่สำคัญคือ คนที่ใช้บัตร Osaka Amazing Pass สามารถขึ้นมาชมได้ฟรีเลยจ้า

รีวิวนี้เราก็ยังอยู่กันบริเวณริมอ่าวโอซาก้านะคะ โดยเราจะแวะมากินมื้อเที่ยงที่ห้างเท็มโปซาน มาร์เก็ต เพลส (Tempozan Market Place) ตรงธีมพาร์คศูนย์อาหาร Naniwa Kuishinbo Yokocho ที่อยู่ด้านบนของห้างค่ะ ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารท้องถิ่นของโอซาก้า มีให้เลือกหลากหลายชนิดและยังตกแต่งในธีมย้อนยุคพร้อมกับมีจุดถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วยค่ะ

วันนี้เราจะพามาเที่ยวกันแถบริมอ่าวของโอซาก้า (Osaka) ที่บริเวณเท็มโปซาน ฮาร์เบอร์ วิลเลจ (Tempozan Harbor Village) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของโอซาก้าเลยค่ะ โดยสถานที่แรกนั้นเราจะพามานั่งชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel) กันก่อน

วันนี้เราจะพามาเที่ยววัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) ซึ่งเป็นวัดชื่อดังของโอซาก้า (Osaka) ที่มีอายุกว่า 1,400 ปีเลยค่ะ ที่นี่มีจุดเด่นตรงเจดีย์ห้าชั้นที่มีความสวยงามตามสไตล์ญี่ปุ่น และยังเป็นต้นแบบของเจดีย์แดงที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิที่เราเห็นกันบ่อยๆ ตามรูปโปรโมทการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยค่ะ นอกจากนี้หากใครมีบัตร Osaka Amazing Pass (บัตรเหมาเที่ยวโอซาก้า) ก็สามารถใช้เข้าชมบริเวณด้านในวัดได้ฟรีอีกด้วยนะคะ

วันนี้แอดมินมีสาระน่ารู้ดีๆ มาฝากกันอีกแล้วจ้า นั่นก็คือเรื่อง "วิธีการแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่น" นั่นเอง บอกเลยว่าได้สามารถนำไปใช้งานได้แน่นอน ทั้งนักท่องเที่ยวและคนที่ต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่น หรือแม้แต่จะมาประยุกต์ใช้กับออนเซ็นที่ไทยก็ยังได้นะคะ

พามาเดินเล่นริมอ่าวชมวิวยามค่ำกันที่โกเบฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) นะคะ เป็นสถานที่ที่คิดว่าว่าห้ามพลาดเลยสำหรับคนที่มาเที่ยวเมืองโกเบ (Kobe) เพราะเป็นแหล่งรวมแลนด์มาร์คสำคัญๆ ของเมืองไว้ และยังมีแหล่งช้อปปิ้งให้เลือกช้อปอย่างจุใจ อีกทั้งยังมีบรรยากาศโรแมนติกอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเย็นๆ ค่ำๆ

วันนี้เรามีมินิรีวิวสำหรับอนุสาวรีย์เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28 (Tetsujin 28-go Monument) หรือที่เรียกกันว่า "โกเบ ไอรอนแมน (Kobe Iron man)" ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองโกเบ (Kobe) สามารถเดินทางมาชมได้ไม่ยากจากแหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมืองค่ะ

วันนี้เรายังอยู่กันที่เมืองโกเบ (Kobe) เมืองท่าอันแสนโรแมนติกของฝั่งคันไซนะคะ โดยเราจะพามารีวิวย่านคิตาโนะ อิจินคัง (Kitano Ijinkan) ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์ตะวันตกแบบย้อนยุค ราวกับว่าได้ไปเดินเที่ยวในยุโรปกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีจุดชมวิวมุมสูงให้เก็บภาพสวยๆ ของเมืองโกเบอีกด้วยนะคะ

ใครที่ชอบเที่ยวชมสวนดอกไม้และชมวิวมุมสูงสวยๆ วันนี้เราก็มีที่เที่ยวแนะนำค่ะ นั่นก็คือ สวนสมุนไพรนุโนบิกิ (Nunobiki Herb Gardens) ที่อยู่ในเมืองโกเบ (Kobe) นั่นเอง ทำเลที่ตั้งนั้นก็อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟชินคันเซ็นนิดเดียว สามารถเดินทางมาได้สะดวกมากๆ ทั้งในตัวเมืองโกเบเอง หรือจะมาจากเมืองโอซาก้าก็ใช้เวลาแค่ 10 นาทีนิดๆ

การเยี่ยมชมปราสาทในญี่ปุ่นนั้นถือเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยค่ะ สำหรับในภูมิภาคคันไซ (Kansai) นี้ก็มีปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และสามารถเดินทางมาไม่ยากจากเมืองโอซาก้าซึ่งเป็นเมืองหลักของภูมิภาคด้วยค่ะ สำหรับในรีวิวนี้เราจะพามาชมปราสาทฮิเมจิแห่งนี้ในตอนปลายเดือนพฤศจิกายนนะคะ

วันนี้เราจะพามาชมวัดขนาดใหญ่มากกกอีกแห่งของเกียวโต (Kyoto) นั่นก็คือวัดไดโกจิ (Daigoji Temple) นั่นเองค่ะ เป็นวัดที่มีวิวสวยมากทั้งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีตอนปลายเดือนพฤศจิกายน รวมถึงช่วงซากุระบานตอนต้นเดือนเมษายนค่ะ ขอบอกก่อนเลยว่าใครจะมาเที่ยววัดนี้ต้องฟิตแข้งขากันสักหน่อยนะคะ เพราะมีพื้นที่กว้างขวางจริงๆ ค่ะ

มาชมใบไม้แดงกันต่อแบบนอนสต็อปที่วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple) นะคะ ที่นี่เป็นหนึ่งในวัดชื่อดังของเกียวโต (Kyoto) มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัดเอคันโด (Eikando Temple) เรียกได้ว่าถ้ามาแถบนี้ จัดแพ็กคู่ได้เลยค่ะ แน่นอนว่าที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตของเกียวโต โดยมีจุดเด่นที่สะพานคลองส่งน้ำกับประตูไม้โบราณขนาดใหญ่มาก

วันนี้เราจะพามาเที่ยวจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังอีกแห่งของเมืองเกียวโต (Kyoto) ซึ่งก็คือวัดเอคันโด (Eikando Temple) นะคะ ขอบอกก่อนเลยว่าเป็นวัดที่มีใบไม้แดงเยอะมาก อีกทั้งยังมีบริเวณกว้างขวางและมีจุดถ่ายรูปสวยๆ หลายมุม คนที่จะมาชมใบไม้เปลี่ยนสีต้องจดไว้ในลิส ห้ามพลาดเลยค่ะ!

พามาเที่ยวกันที่ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher's Path) ของเมืองเกียวโต (Kyoto) นะคะ ถนนสายนี้อยู่ใกล้ๆ กับวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดเงิน" นั่นเอง นอกจากจะมีธรรมชาติอย่างใบไม้แดงให้ชมในช่วงฤดูใบร่วงหรือซากุระในฤดูใบไม้ผลิแล้ว แถบนี้ก็ยังมีร้านขายของและคาเฟ่น่ารักๆ กับน้องแมวที่อาจจะโผล่มาให้ทาสอย่างเราๆ ได้แชะรูปด้วยจ้า

กลับมาอีกครั้งกับช่วงรีวิวเที่ยวเมืองเกียวโต (Kyoto) โดยเราจะพามาที่ "วัดเงิน" หรือ "วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple)" ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตอนปลายเดือนพฤศจิกายนกันค่ะ เป็นวัดที่ค่อนข้างเงียบสงบ สามารถเดินเที่ยวชมวิวได้แบบชิลๆ ยิ่งมาตอนเช้าๆ คนยังไม่เยอะก็สามารถถ่ายรูปได้สบายๆ เสร็จแล้วก็ยังสามารถเดินต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในระแวกนี้ได้โดยไม่ต้องต่อรถให้วุ่นวายอีกด้วยนะคะ

ถ้าพูดถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น ลิสแหล่งท่องเที่ยวแรกๆ ที่นึกถึงเลยก็คือเกียวโต (Kyoto) นอกจากจะมีสถานที่ชมวิวทางธรรมชาติอันงดงามแล้ว ยังมีวัดและศาลเจ้าที่สวยๆ อีกเเยอะมากค่ะ อย่างวันนี้สตรอเบอร์รี่น้อยฯ จะขอพาไปเที่ยวทิพย์ที่ วัดรุริโคอิน (Rurikoin Temple) เป็นวัดใน Top 5 ของเราเลยก็ว่าได้ค่ะ

ตารางพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต (Kyoto) ปี 2021 มาให้เป็นพิเศษ ซึ่งคราวนี้ก็มีทั้งหมด 32 สถานที่ จัดมาให้อย่างจุใจเลยนะคะ โดยมีทั้งสถานที่ที่ได้บรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นสุดๆ เช่น วัดและศาลเจ้า นอกจากนี้ยังมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เน้นความเป็นธรรมชาติของภูเขา แม่น้ำบริเวณรอบๆ เมืองอีกด้วย