สวัสดีค่า วันนี้เราจะพาไปรีวิวไฮไลท์ของเมืองโอตารุ (Otaru) ช่วงหน้าหนาวกันนะคะ กับงานเทศกาลหิมะ Otaru Snow Light Path Festival ซึ่งจัดบริเวณจัดงานหลักก็อยู่แถวคลองโอตารุ (Otaru Canal) ตรงใจกลางเมืองเลยค่ะ ใครที่ชอบวิวแสงไฟสวยๆ และความโรแมนติก ห้ามพลาดงานนี้เลย!

เกี่ยวกับงาน Otaru Snow Light Path Festival

Otaru Snow Light Path Festival (Otaru Yuki Akari no Michi / 小樽雪あかりの路) เป็นงานเทศกาลหิมะของเมืองโอตารุ (Otaru) ในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีความพิเศษตรงที่ผลงานต่างๆ ในงานจะให้ความสำคัญกับ ‘ความอบอุ่นของผู้คน’ นำมาสู่การสร้างสรรค์งานเทศกาลนี้ที่ ‘ทำด้วยมือ (Hand Made)’ โดยเป็นการร่วมแรงของอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้คนในท้องถิ่น ตลอดทั้งทางเดิน คลอง สถานีรถไฟ จะเต็มไปด้วยผลงานของคนในชุมชนเลยค่ะ

กำหนดการจัดงาน

ปีวันที่
202410 – 17 กุมภาพันธ์ 2024
202311 – 18 กุมภาพันธ์ 2023
202211 – 13 กุมภาพันธ์ 2022
2021ยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส
20209 – 16 กุมภาพันธ์ 2020
20198 – 17 กุมภาพันธ์ 2019
20189 – 18 กุมภาพันธ์ 2018

หมายเหตุ: เปิดไฟตั้งแต่ 17:00 – 21:00 น.

ข้อมูลเพิ่มเติม: yukiakarinomichi.org (ภาษาอังกฤษ)

บริเวณจัดงาน

เดิมมีการจัดการ 3 แห่ง ตั้งแต่ปี 2023 ได้เพิ่มเป็น 5 แห่งได้แก่

  1. The Canal Site A: บริเวณคลองโอตารุ ตั้งแต่สะพาน Asakusa ถึงสะพาน Chuo [ดูแผนที่]
  2. The Canal Site B: ※ใหม่ บริเวณคลองโอตารุ ตั้งแต่สะพาน Chuobashi ถึงสะพาน Ryugu [ดูแผนที่]
  3. The North Canal Site ※ใหม่ บริเวณคลองโอตารุ ใกล้กับ Hokkai Seikan Otaru Factory No.3 Warehouse [ดูแผนที่]
  4. Former Temiya Railway Line Site: บริเวณทางรถไฟเก่า ระหว่างสถานี Otaru และคลองโอตารุ [ดูแผนที่]
  5. Asarigawa Hot Spring Village Site: อยู่นอกเมืองโอตารุ ต้องนั่งรถบัสไปประมาณ 30 นาที [ดูแผนที่]

วิธีการเดินทาง

  • นั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line มาลงที่สถานี Otaru แล้วเดินต่อไปยังบริเวณจัดงาน

รีวิว Otaru Snow Light Path Festival

แอดมินเดินทางมาจากเมืองซัปโปโร่แล้วมาเดินเล่นในเมืองโอตารุที่พิพิธภัณฑ์ Otaru Music Box Museum และถนน Sakaimachi Street ก่อนจะมาที่งาน Otaru Snow Light Path Festival บริเวณคลองโอตารุ (Otaru Canal) ในตอนเย็นค่ะ จากข้อมูลด้านบนเราจะเห็นได้ว่ามีการเปิดไฟสำหรับช่วงเทศกาลตั้งแต่เวลาประมาณ 17:00 น. เป็นต้นไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ประมาณ บ่ายสี่โมงครึ่งฟ้าก็มืดเกือบสนิทแล้ว จึงมีโอกาสได้เห็นร้านค้าและบ้านเรือนของเมืองหิมะในช่วงเวลากลางคืนไปด้วยค่ะ

เมื่อเดินมาใกล้บริเวณจัดงานเรื่อยๆ ก็จะเริ่มเห็นหิมะที่ถูกปั้นด้วยมือของอาสาสมัครในเมืองนี้ ส่วนตัวนี้เป็นขนาดบิ๊กเบิ้ม รอบๆ มีกำแพงหิมะข้างในเป็นตะเกียง ยิ่งอยู่ในบรรยากาศมืดๆ ยิ่งรู้สึกถึงความอบอุ่นเลยค่ะ

ส่วนตัวที่ไม่มีกำแพงล้อมก็จะมีการส่องไฟให้ความสว่างเช่นนี้ หน้าตาน่ารักมากๆ แต่เขาก็จะติดป้ายเอาไว้ว่ากรุณาอย่าจับ ใครอยากถ่ายรูป สามารถถ่ายได้ แต่อย่าไปทำลายนะคะ ^ ^

นอกจากตุ๊กตาหิมะขนาดใหญ่แล้ว ใกล้ๆ กันนั้นก็ยังมีร้าน Taisho Glass (大正硝子館 本店) [ดูแผนที่] ซึ่งเป็นร้านขายของที่ระลึกที่มีแสงสว่างให้ความอบอุ่น ด้านในจะมีอะไรนั้นก็เข้าไปดูกันดีกว่าค่ะ

โอ้โห~ พอเราเข้าไปถึงกับอุทานคำนี้ออกมาเลยนะคะ เนื่องจากว่าร้านนี้เป็นร้านที่วางขายของที่ระลึกที่ทำจากแก้วและคริสตัลค่ะ บรรยากาศภายในร้านก็น่ารักอบอุ่นอย่างนี้ และแน่นอนว่าก็คลอด้วยเสียงเพลงเบาๆ สุดแสนโรแมนติก บรรยากาศในร้านล้วนแฝงด้วยเสน่ห์ในแบบของโอตารุ เป็นบรรยากาศที่หายาก และแสนคิดถึงทุกครั้งเลยค่ะ

จุดนี้เป็น Snow Crystal Series ที่เราชื่นชอบมาก เพราะเขาทำออกมาในคอนเซ็ปต์ของหิมะและดวงดาว ซึ่งประกอบด้วย สร้อยคอ ต่างหู และเครื่องประดับอื่นๆ อีกมากมาย หลากหลายดีไซน์ให้เลือกซื้อ เห็นแล้วอยากได้มาก ตัดใจเดินออกจากตรงนั้นยากมากจริงๆ T T

ภายในร้านยังมีพื้นที่สำหรับทำเวิร์คช็อปเป่าแก้วด้านในด้วยค่ะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสร้างสรรค์ผลงานเป่าแก้วเป็นของตัวเองได้ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะทำไม่ได้นะคะ เพราะมีพี่ๆ ใจดีคอยสอนและกำกับอยู่ข้างๆ ตลอด นอกจากนั้นแล้ว ด้านในยังมีส่วนที่เป็นโรงเป่าแก้วขนาดใหญ่ ปกติเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ วันนี้มาเห็นของจริงก็ต้องจับตาดูแบบไม่ให้คลาดสายตาเลยค่ะ ส่วนช่างเป่าแก้วก็เท่ห์มากๆ

ส่วนบริเวณนอกร้านตรงหน้าต่างที่ติดกับถนนก็มีการจัดไฟประดับให้เข้ากับบรรยากาศด้านในร้านไปด้วย เมื่อมองจากข้างนอกจะให้ความรู้สึกราวกับบ้านของซานตาคลอส และเห็นแสงในหิมะเป็นตะเกียงไฟเล็กๆ ที่ให้ความอบอุ่น

อีกร้านหนึ่งสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบสินค้าสไตล์ญีปุ่น ชื่อว่าร้าน Gekkabijin (月下美人) [ดูแผนที่] ซึ่งมีความหมายว่าดอกโบตั๋น ด้านในจำหน่ายทั้งเครื่องประดับ กิโมโน และของที่ระลึกอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อรวมเข้ากับบรรยากาศของเมืองโอตารุยามค่ำคืนก็จะได้ความรู้สึกคลาสสิคไปอีกแบบค่ะ

นอกจากร้านขายของแล้ว บริเวณคลองยังมีการประดับด้วยโคมไฟหิมะรวมกับตะเกียงประดับตามทางเดินเรียบคลองเล็กๆ ให้ซึมซับความอบอุ่นท่ามกลางหิมะเย็นๆ ได้ดีไม่น้อยเลยล่ะค่ะ และที่มาของโคมไฟหิมะนั่นก็คือ แสงเทียนในถ้วยแก้วนั่นเอง

เมื่อแสงไฟเล็กๆ ส่องสว่างรวมกันทั้งเส้นทางบรรยากาศเงียบเหงาๆ ริมคลองก็จะส่องสว่างขึ้นมาประมาณนี้ค่ะ

เดินเล่นมาจนถึงจุดไฮไลท์ของเมือง แน่นอนว่าก็คือ คลองโอตารุ (Otaru Canal) ตรงจุดนี้จะมีจุดที่ให้นักท่องเที่ยวเอาไว้ถ่ายรูป ถือว่าเป็นมุมมหาชนที่สวยงามมากๆ อีกจุดหนึ่ง เพียงแต่อาจจะมีคนเยอะตลอดเส้นทางค่ะ

ผลงานการปั้นหิมะของอาสาสมัครที่มีส่วนร่วมในการประดิษฐ์โดยการนำพวกต้นไม้ใบหญ้ามาประกอบกันแล้วจุดเทียนลงไป ได้เป็นโคมไฟหิมะแบบสวยๆ อย่างที่เห็น

กำแพงหิมะที่ทำจากมือ พอประดับไฟก็สวยไปอีกแบบค่ะ จะเห็นได้ว่าไม่ใช่งานปั้นที่เน้นไปทางด้านความสวยงาม แบบสมบูรณ์แบบ แต่เป็นความสวยงามที่เป็นธรรมชาติของหิมะในแบบที่ทำจากมือ นอกจากด้านบนแล้วก็ยังมีผลงานปั้นหิมะในรูปแบบอื่นๆ อีก ที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ไปชมกันค่ะ สามารถคลิกชมรูปได้จากแกลลอรี่ข้างล่างนี้เลยนะคะ

ส่งท้าย

เพื่อนๆ ที่อยากชมบรรยากาศโรแมนติก สวยงามและความอบอุ่นของ งานเทศกาลหิมะ Otaru Snow Light Path Festival ก็สามารถมาเที่ยวได้ในช่วงต้นกุมภาพันธ์ของทุกปี รับรองมาเมืองนี้แล้วจะได้รับความประทับใจ ไม่ผิดหวังแน่นอน! คราวหน้าเราจะพาไปชมเมืองอื่นในฮอกไกโดกันต่อ รอติดตามกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

อ่านตอนต่อไป » วิธีการเดินทาง Sapporo – Furano – Biei ด้วยรถบัสและรถไฟ

เขียนเมื่อ Feb 24, 2018
อัพเดทล่าสุด Feb 5, 2021

เทียบราคาโรงแรมที่พักในฮอกไกโด


บทความเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)

รีวิวเที่ยวฮอกไกโดช่วงเทศกาลหิมะ
รีวิวเที่ยวฮอกไกโด *เพราะคิดถึงจึงมาหา♥ (ซัปโปโร – โอตารุ)

+ ดูบทความเที่ยวฮอกไกโดทั้งหมด

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com