[รีวิว] Osaka Museum Of Natural History ชมวิวัฒนาการเมืองโอซาก้าที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ

สวัสดีค่า วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวแบบมีสาระกันบ้าง ถือว่าได้เปิดโลกกว้างด้วยค่ะ โดยสถานที่ที่จะพาไปนั่นก็คือ “Osaka Museum Of Natural History” หรือ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาโอซาก้า” นั่นเอง หากมองเผินๆ อาจดูไม่น่าสนใจ แต่ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เราจะสามารถดูได้เฉพาะที่โอซาก้าเท่านั้น ฉะนั้นก็อย่าพลาดเลยค่ะ

เกี่ยวกับ Osaka Museum Of Natural History

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาโอซาก้า (Osaka Museum Of Natural History / 大阪市立自然史博物館) ตั้งอยู่ภายในบริเวณสวนนะงะอิ (Nagai Park) ของเมืองโอซาก้า (Osaka) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองโอซาก้า รวมทั้งความสัมพันธ์ของมนุษย์และธรรมชาติ

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบครอบครัวกับเด็กๆ มีไฮไลท์อยู่ที่การจัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์ทีขุดพบในจังหวัดโอซาก้า และที่แห่งนี้ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Museum of Nature and Science) ที่โตเกียว (Tokyo) อีกด้วย

ข้อมูลการเยี่ยมชม

• เว็บไซต์: http://www.mus-nh.city.osaka.jp/english/
• ค่าเข้าชม: 
  • ผู้ใหญ่ 300 เยน
  • นักศึกษาและนักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน (แสดงบัตรนักเรียน/นักศึกษา)
  • นักเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นลงไป ไม่เสียค่าเข้าชม
    *ใช้ Osaka Amazing Pass เข้าชมได้ฟรี
• เวลาทำการ:
  • มีนาคม – ตุลาคม 9:30 – 17:00 น.
  • พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 9:30 – 16:30 น.
• วันหยุด:
  • ทุกวันจันทร์ (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดในวันถัดไป)
  • ช่วงปีใหม่ (28 ธันวาคม – 4 มกราคม)
• ที่อยู่: 1-23 Nagaikoen, Higashisumiyoshi-ku, Osaka-shi, Osaka
• การเดินทาง:
  • เดิน 10 นาทีจากสถานี Nagai รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line (Exit 3)

รีวิวเที่ยว Osaka Museum Of Natural History

การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์นั้นก็สะดวกสบายด้วยรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ถ้ามาจากสถานี Shin-osaka, Umeda หรือ Namba ก็ขึ้นรถต่อเดียวเท่านั้น เมื่อมาถึงสถานี Nagai ก็ให้ออกประตูทางออกทิศใต้ Exit 3 ค่ะ

พิพิธภัณฑ์ Osaka Museum Of Natural History แห่งนี้ตั้งอยู่ในสวน Nagai Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโอซาก้า ก่อนที่เราจะเข้าไปถึงพิพิธภัณฑ์ เราก็ต้องเดินผ่านสวนด้วย และเป็นโชคดีของเราที่เจอใบไม้เปลี่ยนที่ยังร่วงไม่หมด (ประมาณปลายเดือนธันวาคม) ก็เลยแชะภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ

แน่นอนว่าอยู่ในสวน การตกแต่งสถานที่ก็ต้องเกี่ยวกับดอกไม้ใบหญ้า แค่พื้นก็ยังมีเรื่องราวนะคะ เพราะดอกไม้แต่ละชนิดบนพื้นกระเบื้อง เป็นดอกไม้ตามฤดูต่างๆ แสดงถึงความสวยงามของสวนแห่งนี้ตลอดทั้งปีค่า

หลังจากมองหาทางเข้าอยู่นานและหลงไปสามบ้านแปดบ้านเพราะมีหลายประตู เราก็ได้เข้ามายังส่วนของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา Osaka Museum Of Natural History แล้วจ้า พอผ่านประตูทางเข้าก็จะเจอกับลานกว้างๆ ไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่แหงนมองเจ้าโครงกระดูกมหึมานี่! คือใหญ่มากกก สุดท้ายเราก็ได้รู้ว่าเจ้าโครงกระดูนี้คือโครงกระดูกของวาฬฟินนั่นเองค่ะ

และในส่วนที่ติดกับลานโชว์กระดูกของวาฬก็เป็นสวนพฤษศาสตร์ที่แสดงดอกไม้และพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่คาดว่าได้มีการเจริญเติบโตอยู่ในโอซาก้าเมื่อประมาณ 2 ล้านปีก่อนค่ะ แต่ส่วนของสวนพฤษศาสตร์ต้องเสียค่าเข้าชมแยกต่างหากนะคะ

เมื่อเดินผ่านลานกระดูกวาฬมาแล้วจะเจออาคารด้านในที่จัดแสดงโครงกระดูกสัตว์โปราณเอาไว้ด้วยค่ะ ที่เราชอบเป็นพิเศษคือกวางมูสค่ะ สวยงามมาก สัตว์แต่ละตัวก็ดูมีชีวิตชีวามากด้วย

ชุดนี้คือบริเวณด้านห้องโถงใหญ่ที่มีความสูงประมาณ 3 ชั้นตึก ซึ่งจัดแสดงรวมสัตว์โบราณที่ถูกค้นพบในจังหวัดโอซาก้า ช้างแมมมอส สัตว์น้ำทะเลลึกรูปร่างแปลกๆ (แอบกลัวนิดๆ เพราะใหญ่มากๆ)

จริงๆ เราเคยเห็นพวกโครงกระดูกพวกนี้ผ่านโทรทัศน์มานับครั้งไม่ถ้วนนะคะ แต่ส่วนตัวเมื่อได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว มันยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดไว้มาก สัตว์บางชนิดก็ทำให้รู้เราสึกทั้งทึ่งและกลัว คิดว่าถ้าสมัยนั้นเราเป็นมนุษย์คงไม่รอด เพราะแต่ละตัวนี่ แค่เหยียบเราก็ตายแล่ว!

นอกจากส่วนห้องโถงกลางแล้วรอบๆ ก็ได้จัดแสดงพวกสัตว์ดึกดำบรรพ์ หรือวิวัฒนการของสัตว์ที่ยังมีให้เห็นในปัจจุบัน จากอดีตสู่ปัจจุบันค่ะ

รูปนี้เป็นรูปห้องโถงใหญ่จากอีกมุมหนึ่งที่เราถ่ายจากชั้นบนค่ะ ด้านบนผนังจะเห็นว่ามีกระดูกโผล่มาด้วย นั้นเป็นโครงกระดูกสัตว์ประเภทนก บางส่วนก็มีโครงกระดูกสัตว์เลี้อยคลานด้วย ใหญ่จนไม่กล้าใกล้ ฮือออ กลัวแต่ก็อยากเห็นอะไรแบบนั้นค่ะ อิ อิ

นอกจากนี้ยังมีทั้งโครงกระดูกของมนุษย์ ประการัง สัตวเล็กๆ จากมหาสมุทรอีกมากมาย รวมทั้งประวัติทางธรณีวิทยาอีกด้วยค่ะ เรียกว่า ค่าเข้าชมถูกมากๆ หากเทียบกับสิ่งที่เราจะได้รับจากที่แห่งนี้ ครอบครัวพาเด็กๆ มาก็คงชอบค่ะ

ส่งท้าย

ที่ประเทศญี่ปุ่นในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เขานิยมพาเด็กๆ ให้เข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ กันตั้งแต่ยังเล็กๆ ทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ดอกไม้ ศูนย์วิจัยต่างๆ เพื่อให้เด็กได้ศึกษาหาความรู้อย่างสนุกสนาน เป็นเคล็ดลับการสอนลูกแบบคนญี่ปุ่นค่ะ (ส่วนตัวเราก็เคยพาเด็กๆ ไปเที่ยวแบบนี้เหมือนกัน)

สำหรับวันนี้เราขอรีวิวพิพิธภัณฑ์กันเพียงเท่านี้ คราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนโอซาก้ากันต่อนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

เขียนเมื่อ Nov 8, 2016
อัพเดทล่าสุด Sep 4, 2019