สวัสดีค่า และแล้วก็มาถึงคิวของเกียวโต (Kyoto) เมืองนี้ที่หลายคนรอคอยพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในปีนี้ เพราะนอกจากจะเป็นเมืองยอดนิยมทางด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเก่าแก่ที่บ่มเพาะกันนับพันปีตั้งแต่สมัยเฮอันเลยค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของเกียวโตได้แก่ วัดทอง Kinkaku-ji Temple ที่แสดงความโอ่อ่าหรูหราของขุนนางสมัยเฮอัน รวมทั้งวัดเงิน Ginkaku-ji Temple ที่แสดงถึงความสงบ เรียบง่ายของนิกายเซน วัดน้ำใส Kiyomizu-dera Temple ที่ได้รับความนิยมด้านการชมใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระ นอกจากนี้ยังมี Arashiyama ที่มีธรรมชาติโดดเด่นและป่าไผ่อันเลื่องชื่ออีกด้วย
เอาล่ะค่ะไปดูกันดีกว่า ว่าจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมแต่ละจุดของเกียวโตมีสถานที่ไหนและช่วงเวลาไหนที่เหมาะแก่การชมบ้าง
ตารางพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในจังหวัดเกียวโตปี 2018
หมายเหตุ:
- การพยากรณ์นี้ไม่ได้แยกเป็นต้นเมเปิ้ลหรือต้นแปะก๊วย แต่จะเป็นการแนะนำสถานที่ที่สามารถหาชมใบไม้เปลี่ยนสีและช่วงเวลาที่พีคของใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งใบไม้ในช่วงนี้จะมีสีสดสวยมากๆ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การชมอย่างยิ่ง
- ชื่อสถานที่ที่มีรูปดาว ★ เป็นจุดที่แอดมินแนะนำให้ไปชม ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในบรรดาหมู่นักท่องเที่ยวค่ะ
- สามารถคลิกที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้
พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีอัพเดตล่าสุด Oct 19, 2018
ใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตนั้นจะกินเวลาตั้งแต่ประมาณวันที่สิบต้นๆ ของเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงกลางเดือนธันวาคม มีอัตราการเปลี่ยนสีอย่างสม่ำเสมอ ในสถานที่หนึ่งๆ ช่วงพีคจะอยู่ประมาณสัปดาห์กว่าๆ ช่วงเวลาที่เหมาะสมมากที่สุดในการท่องเที่ยวอยู่ที่ช่วงตั้งแต่วันที่ 21 – 30 พฤศจิกายน ซึ่งสามารถเลือกชมได้ตามความชื่นชอบของแต่ละคนเลยค่ะ
สถานที่ที่แอดมินแนะนำแน่นอนว่าต้องเป็นวัดน้ำใส Kiyomizu-dera Temple แต่เนื่องจากว่ามีบางส่วนที่ปิดปรับปรุงอยู่อาจจะทำให้เสียอรรถรสในการชมอยู่บ้าง จึงขอแนะนำวัด Tofuku-ji Temple แทน ซึ่งเป็นอีกวัดหนึ่งที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีในมุมสูงจากระเบียงไม้ของวัดได้ รวมถึงวัด Eikando Zenrin-ji Temple ที่งดงามทั้งสถาปัตยกรรมและใบไม้เปลี่ยนสี
อีกวัดหนึ่งที่แนะนำคือวัด Enko-ji Temple ที่สร้างในสมัยเอโดะและยังเคยเป็นโรงเรียนมาก่อนอีกด้วย แต่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ สวนหย่อมแบบญี่ปุ่นที่สามารถนั่งชมใบเมเปิ้ล สระน้ำ ที่สามารถนั่งชมได้จากตัวอาคารแบบญี่ปุ่นเก่าแก่ และทางเดินท่ามกลางป่าไผ่ที่ขึ้นสลับอับเมเปิ้ล ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบ้ไม้เปลี่ยนสีที่ควรค่าแก่การไปมากที่สุด
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกมากมายที่น่าสนใจจนเขียนเอาไว้ในหนึ่งบทความคงไม่พอ แต่โดยพื้นฐานแล้วอยากให้เพื่อนๆ คำนวณตามวันที่เราเดินทางไปถึงสถานที่นั้นๆ แล้วจึงค่อยเลือกสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ถูกใจนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า
อ้างอิงข้อมูลจาก : weathernews.com
จังหวัดใกล้เคียง
- ตารางพยากรณ์ 15 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีจังหวัดโอซาก้า (Osaka) ปี 2018
- ตารางพยากรณ์ 16 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีจังหวัดนารา (Nara) ปี 2018
บทความท่องเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ภูมิภาคคันโต (Kanto)
- [รีวิว] เที่ยวนิกโก้ (Nikko): ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Shinkyo Bridge และ Lake Chuzenji
- [รีวิว] เที่ยวนิกโก้ (Nikko: ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น้ำตก Kegon Waterfall
- [รีวิว] สวนโชวะ เมมโมเรียล พาร์ค (Showa Memorial Park) ชานกรุงโตเกียว
- [รีวิว] ภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao) ชานกรุงโตเกียว
- [รีวิว] Gyoko-dori ชมใบไม้เปลี่ยนสีตอนกลางคืนหน้าสถานี Tokyo
ภูมิภาคคันไซ (Kansai)
- [รีวิว] ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
- [รีวิว] น้ำตกมิโน (Minoo Park) ชมใบไม้เปลี่ยนสีบนหุบเขาชานเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] อาราชิยาม่า (Arashiyama) ชมป่าไผ่และใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต
- [รีวิว] วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] เที่ยวอุจิ (Uji) & วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดชิออนอิน (Chionin Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดโชเร็นอิน (Shorenin Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) วัดน้ำใสแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) วัดทองแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) วัดเงินแห่งเมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดเอคันโด (Eikando Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดไดโกจิ (Daigoji Temple) เมืองเกียวโต
- [รีวิว] วัดรุริโคอิน (Rurikoin Temple) เมืองเกียวโต
ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
ค้นหาโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น
ข้อมูลการอัพเดทพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี
ครั้งที่ 1 : Oct 19, 2018
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com