[รีวิว] ไปชิลๆ ที่คาวากุจิโกะกันเถอะ! ชมวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะและภูเขาไฟฟูจิ

ในตอนก่อนเราได้แนะนำวิธีการเดินทางภายในคาวากุจิโกะและออกเดินทางมาถึงป้ายแรกที่แวะซึ่งก็คือ “Kawaguchiko Herb Hall” เรียบร้อยแล้ว

คราวนี้ก็มาชมวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะและภูเขาไฟฟูจิกันต่อเลย!

หลังจากเราทานมื้อกลางวันแล้วก็เดินทางกันต่อโดยไม่รอรถเพราะอยากเดินชมรอบๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ เดินไปเรื่อยๆ ผ่านโรงแรมที่แช่บ่อออนเซน ร้านขายของฝากและเดินๆ เดินอย่างเดียว ประมาณ 30 นาที จนถึงด้านที่เขาจัดพื้นที่ไว้ให้ชมฟูจิ และสิ่งที่เราได้เจอระหว่างการเดินกินลมชมวิวคือนี่ค่ะ

ในภาพนี้เป็นจุดสำหรับเช่าเรือ ใครใคร่นั่งเรือเป็ดมุ๊งมิ๊ง กุ๊กกิ๊กเชิญทางนี้ ส่วนใครชอบตกปลาก็มีเรือเล็กสำหรับตกปลาไว้ให้เช่า แถมมีสปีดโบทเอาไว้นั่งไปกรี๊ดไป ตอนทัวร์ทะเลสาบอีกด้วย ใครชอบนั่งเรือชิลๆ หรือชอบแบบตื่นเต้นๆ งานนี้อย่าพลาดดด

เรือเล็กช่วงที่ไม่ได้ใช้ก็เก็บเอาไว้ข้างๆ ทะเลสาบกันงี้เลย

เมเปิ้ลกำลังเปลี่ยนสี(อ้อมถ่ายสุดฤทธิ์)

เดินๆ ไปก็เจอต้นเมเปิ้ลต้นหนึ่งกำลังเปลี่ยนสีล่ะ จริงๆ ไม่คิดว่าจะเจอ เดินลัดเลาะไปตามข้างทะเลสาบจะเจอกับบ้านคนและบางบ้านฝั่งที่ติดกับทะเลสาบเขาจะทำสวนดอกไม้ เราสามารถเดินเข้าไปดูได้เลยนะ เขาไม่หวง แต่ละประเภทมีติดชื่อเอาไว้เรียบร้อย เท่าที่เราเห็นช่วงต้นเดือนต.ค.อย่างนี้อากาศสบายๆ ดอกไม้จะคล้ายๆ ดอกไม้บ้านเราที่จะบานช่วงอากาศหนาว ๆค่ะ

เดินเรียบทะเลสาบไปอีกนิด จะเจอป้ายทางขึ้นศาลเจ้า ซึ่งมีชื่ออะไรก็ไม่รู้ (ฮา) แค่ออกจากถนนเส้นหลัก เดินไปตามป้ายก็จะเจอ ออกจากถนนใหญ่ไปไม่ไกลแต่เงียบมากไม่มีคนเลย แต่ที่อึ้งคือต้นไม้มันใหญ่มว๊ากกกกก ต้นสนยักษ์ชัดๆ ตัวศาลนั้นมีขนาดเล็ก พอให้กราบไหว้ได้ ด้านหลังมีทางเชื่อมกับสวนสาารณะที่ลึกเข้าไปบนเขาด้วย แต่เรากลัวหลงก็เลยไม่ได้เข้าไปค่ะ และตัดสินใจเดินดูรอบๆ แทน

บ้านคนแถวนี้ต้องบอกว่า เขาชอบปลูกดอกไม้ ผลไม้กันจริงๆ ใจดีด้วย บางบ้านไม่มีรั้วกั้นนะคะ จะเป็นดงดอกไม้แทน ให้คนละอารมณ์กับในเมืองมากๆ

ดงดอกไม้นั้นหรือคือรั้วบ้านค่ะ 555+

รั้วบ้านนี้เป็นต้นลูกพลับค่ะ คนข้างบ้านชอบกินลูกพลับ! อิอิ

เดินออกนอกลู่นอกทางกันพอสมควรแล้ว เดินต่อค่ะ จนกระทั่งถึงจุดชมวิวฟูจิ เราก็คิดว่าคงจะเห็นบ้างเพราะว่าวันนี้อากาศดีมาก แต่สุดท้ายก็แห้ววว ฮื่อออ เพราะว่าเมฆบังตรงยอด เห็นแค่ฐานเขาใหญ่ๆ หมดแรงเลย เดินก็ไกลฟูจิก็ไม่เห็น

ฟูจิซังค่ะ เห็นแต่ตีนเขา คุณเมฆบังมิดเลย

สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นนั่งรับลมแทน เอาแผนเที่ยว จัดการพักเหนื่อย แดดสาดมาก็กางร่มตรงนั้นเลยล่ะ และเมื่อดูแผนที่รถบัสแล้ว แถวๆ นี้เป็นจุดชมวิวฟูจิ ด้านหลังจะเป็นโรงแรมออนเซน และมีบริการชมวิวแบบขึ้นกระเช้า แถมมีโชว์ลิงด้วย

จากการทบทวนดูแล้ว คือตัดลิงกับกระเช้าออกค่ะ เพราะกระเช้า ขึ้นไปมันก็เขียวๆ อีกอย่างเดินไปอีกนิดมีจุดชมวิวฟรีด้วย เดินนิดๆ ถึงจะไม่สูงมากนักแต่ก็ถือว่าดีค่ะ สบายกว่า ส่วนลิงเราก็ไม่พิศวาสมันเท่าไหร่บ้านเราก็มีโชว์ และตัดสินใจจะขึ้นรถบัสตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไป เพื่อเข้าสู่ “เมืองเนรมิต” ที่ป้ายหมายเลข 18 กัน!

*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 18: Kawaguchiko Monkey Show Theater/Konohana Art Museum ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 16

ต้องขอบอกก่อนว่าที่เรียกว่า “เมืองเนรมิต” เพราะโซนนี้ไม่เจอบ้านคนและสถานที่ต่างๆ ถูกสร้างเพื่อให้มีรูปแบบที่น่าพอใจสำหรับผู้พบเห็น เหมือนเขาจะสร้างเมืองขึ้นมาทั้งเมืองเลยล่ะ ดังนั้นเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องเสียตังค์ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อิอิ ในโซนเมืองเนรมิตที่เราแวะจะมีดังนี้ค่ะ

Kawaguchiko Konohana Museum

Kawaguchiko Konohana Museum ส่วนตัวเราเรียกว่า ร้านท่านเค้าท์แมว! เพราะว่าทุกอย่างในนี้จะขายผลิตภัณฑ์ทุกอย่างเกี่ยวกับแมว สินค้าต่างๆ จะมีตราน้องแมวติดอยู่ ย้ำว่าทุกอย่าง คุณสาวๆ ดูจะชอบกันมากๆ เป็นทาสแมวแล้วต้องทำใจค่ะ ใครเจอที่นี่เข้าไปจนทุกราย อิอิ

ท่านเค้าท์แมว โอมจงเสียตังค์ 555

ข้างๆ พิพิธภัณฑ์ท่านเคาท์แมวจะเป็น คาเฟ่แบบยุโรปนิดๆ จะมีที่นั่งด้านนอกด้วย ในฤดูที่อากาศสบาย การได้นั่งพักผ่อนกับขนมหวานๆ นี่ฟินมาก

เห็นหนุ่มสาวมาจีบกันก็เยอะอยู่ อิอิ

เดินเลยมาอีกนิดหนึ่งจะเป็นร้านอาหาร อารมณ์เหมือนร้านจิบน้ำชายามบ่ายมากกว่า เพราะว่าสวนด้านหลังจะสามารถชมทะเลสาบและชมวิวฟูจิได้ล่ะ ช่วงฤดูใบ้ไม้ร่วง ต้นไม้ในสวนจะเปลี่ยนสีทำให้ฟินยิ่งขึ้น แต่วันนี้ที่มาให้ความรู้สึกสบายๆ แบบพักผ่อนในวันหยุดมากกว่าทั้งสงบ อากาศดี อาหารอร่อยยย

สวนด้านหลังของร้าน

เราใช้เวลาชมวิวทิวทัศน์กินลม กิมขนม กันประมาณ ชม. เศษ ก็กลับมานั่งบัสอีกครั้งเพื่อไปสถานีสุดท้ายกันค่ะ เรียกว่าเป็นสถานีที่สามารถชมฟูจิได้ชัดที่สุด

Kawaguchiko Natural Living Center

ที่นี่ตั้งอยู่ป้ายหมายเลข 22 ซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายของรถบัสรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ จะมีร้านขายของฝากที่โดดเด่นในเรื่องบลูเบอร์รี่ ผลิตภัณฑ์ของสินค้าในพื้นที่ สวนดอกไม้ รวมทั้งยังเป็นจุดที่มีสวนเพาะต้นกล้าอีกด้วย

*ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2019) ป้ายหมายเลข 22: Kawaguchiko Natural Living Center ได้เปลี่ยนเป็น หมายเลข 20

ช่วงฤดูที่ดอกไม้บานที่นี้จะสวยมาก (ดูเพิ่มเติมที่ » [รีวิว] ทุ่งลาเวนเดอร์ในฝัน ณ Oishi park ที่ Kawaguchiko) แต่ว่าคิดว่าความสะดวกสบายคงสู้เวลาที่เรามาตอนต้นเดือนไม่ได้ เพราะสามารถเดินอ้อยอิ่งได้ คนไม่เยอะ นั่งทานไอศกรีมกันสนุกสนาน วิ่งเล่น สูดอากาศสดชื่นเข้าปอดยาวๆ ซื้อของฝาก และรอรถบัสเพื่อกลับโรงแรม

ดอกไม้ในสวนจ้ะ ชอบเป็นพิเศษก็สีม่วงอ่อนนี่แหละ

ในตอนที่เรานั่งรถย้อนกลับไปทางเดิมเป็นโอกาสที่จะได้เก็บทุกภาพความทรงจำที่เราได้เดินทางกันมาตลอดทั้งวัน รู้สึกขอบคุณที่ได้มาที่นี่ เมื่อถึงที่พักเราก็ได้รู้ว่า เตียงนุ่มๆ นั้นมีแรงดึงดูดมหาศาล

สำหรับวันนี้จบแล้วกับการชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ และภูเขาไฟฟูจิแบบชิลๆ ไปก่อน ใครอยากพักผ่อนก็ลองดูนะคะ หนีจากความวุ่นวายในเมืองแล้วมาสำผัสกับธรรมชาติดูบ้าง บะบายยย