สวัสดีค่า นักเรียนทุกคน! ขอต้อนรับเข้าสู่คอร์ส Japan 101 ติวเข้มก่อนไปญี่ปุ่นครั้งแรก นะคะ ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น แนะนำให้ลองบทความดูก่อนนะคะ ซึ่งวันนี้เราได้ลิส 60 ข้อน่ารู้เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกด้วยตัวเอง ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์จริงของตัวเอง บางอย่างก็ไม่มีในหนังสือท่องเที่ยวนะคะ อยากให้ได้ลองอ่านกันก่อนที่จะไปญี่ปุ่นกัน จะได้เที่ยวกันได้อย่างราบรื่น

60 ข้อน่ารู้เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกด้วยตัวเอง

เจดีย์แดงชูเรโต (Chureito Pagoda)
เจดีย์แดงชูเรโต (Chureito Pagoda)

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

1. ทำเลที่ตั้ง

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกในมหาสมุทรแปซิฟิก

2. สภาพภูมิศาสตร์

หมู่เกาะแบ่งเป็น 4 เกาะหลัก / 8 ภูมิภาค / 47 จังหวัด

ข้อมูลเพิ่มเติม: แผนที่และรายชื่อ 8 ภูมิภาคและ 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น

3. เมืองหลวง

โตเกียว (Tokyo)

ข้อมูลเพิ่มเติม: คู่มือท่องเที่ยวโตเกียว (Tokyo Guide)

Tokyo Tower Night View
โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

4. เมืองท่องเที่ยว

ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกไปเมืองไหนดี? เราขอแนะนำเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมไล่จากเหนือลงใต้ ดังนี้

  • ภูมิภาคคันไซ (Kansai)
  • ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku)
  • ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)
    • ฟุกุโอกะ (Fukuoka) [ดูรีวิว]
    • นางาซากิ (Nagasaki)
    • คุมาโมโต้ (Kumamoto)
    • เบปปุ (Beppu)
    • โอกินาว่า (Okinawa) [ดูรีวิว]

ข้อมูลเพิ่มเติม: คู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่น (Japan Guide)

วางแผนเที่ยวและจัดทริปญี่ปุ่น
ซากุระที่แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River)

5. อุณหภูมิ/ฤดูกาล

อุณหภูมิและสภาพอากาศอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและจังหวัด ควรเช็คพยากรณ์อากาศในแต่ละเมืองที่จะเดินทางไป ในตารางข้างนี้เป็นข้อมูลคร่าวๆ สำหรับการวางแผนในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองและการเตรียมเสื้อผ้าจัดกระเป๋า

ฤดูใบไม้ผลิ
เดือนอุณหภูมิเฉลี่ย
โซนพื้นที่ทั่วไป
อุณหภูมิเฉลี่ย
โซนที่มีหิมะ/อากาศหนาว
มีนาคม6 – 12 องศาลบ 2 – 8 องศา
เมษายน10 – 18 องศา2 – 10 องศา
พฤษภาคม15 – 21 องศา7 – 15 องศา
ฤดูร้อน
เดือนอุณหภูมิเฉลี่ย
โซนพื้นที่ทั่วไป
อุณหภูมิเฉลี่ย
โซนที่อากาศหนาว
มิถุนายน17 – 25 องศา12 – 18 องศา
กรกฎาคม17 – 25 องศา15 – 23 องศา
สิงหาคม24 – 30 องศา17 – 25 องศา
ฤดูใบไม้ร่วง
เดือนอุณหภูมิเฉลี่ย
โซนพื้นที่ทั่วไป
อุณหภูมิเฉลี่ย
โซนที่อากาศหนาว
กันยายน20 – 25 องศา15 – 23 องศา
ตุลาคม17 – 21 องศา7 – 17 องศา
พฤศจิกายน10 – 17 องศา1 – 8 องศา
ฤดูหนาว
ฤดูใบไม้ร่วงอุณหภูมิเฉลี่ย
โซนพื้นที่ทั่วไป
อุณหภูมิเฉลี่ย
โซนที่มีหิมะ/อากาศหนาว
ธันวาคม5 – 11 องศาลบ 3 – 5 องศา
มกราคม4 – 9 องศาลบ 8 – ลบ 1 องศา
กุมภาพันธ์3 – 9 องศาลบ 10 – 4 องศา

※อุณหภูมิและสภาพอากาศอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและจังหวัด ควรเช็คพยากรณ์อากาศในแต่ละเมืองที่จะเดินทางไป
※หิมะในญี่ปุ่นจะเริ่มตกได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมในพื้นที่บนเขาสูงในทางตอนบนของญี่ปุ่น ถ้าให้ชัวร์ก็จะเป็นช่วงธันวาคม – กุมภาพันธ์

ข้อมูลเพิ่มเติม: แต่งตัวเที่ยวญี่ปุ่น+สภาพอากาศ 12 เดือน ไปญี่ปุ่นแต่งกายอย่างไร?

แบงค์ 1,000 เยน
แบงค์ 1,000 เยน

6. สกุลเงิน

  • เยน (Japanese Yen: JPY)
  • ตัวหนังสือญี่ปุ่น 円
  • สัญลักษณ์ ¥

หมายเหตุ:

※อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 เยน = 0.26 บาท (เมษายน 2023)
※แลกตามร้านรับแลกเงิน เช่น Super Rich จะได้เรทดีกว่าธนาคาร
※ปัจจุบันนิยมใช้ Travel Card เนื่องจากได้เรทถูกกว่าร้านแลกเงิน และสามารถแลกเมื่อไหร่ก็ได้ผ่านแอปฯ

ปลั๊กไฟที่ญี่ปุ่น
เต้าเสียบปลั๊กที่ญี่ปุ่น

7. กระแสไฟฟ้า

100V (ใช้ปลั๊ก 2 ขาหัวแบน)

ข้อมูลเพิ่มเติม: ปลั๊กไฟญี่ปุ่น กระแสไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น เขาใช้แบบไหนกันนะ??

8. เขตเวลา

Timezone ของญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง (UTC +9)

สนามบินนาริตะและสายการบินเจแปนแอร์ไลน์
สนามบินนาริตะ (Narita Airport)

9. ระยะเวลาในการเดินทางจากกรุงเทพ

  • ขาไป ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงขึ้นไป
  • ขากลับ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมงขึ้นไป

※อ้างอิงจากเที่ยวบินตรงมาโตเกียว

ข้อมูลเพิ่มเติม: เส้นทางบินไปญี่ปุ่น & สายการบินไปญี่ปุ่น แบบบินตรงและแวะพัก

การทำพาสปอร์ต (Passport)
พาสปอร์ตประเทศไทย

10. วีซ่าท่องเที่ยว

  • ไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว (ได้ฟรีวีซ่า 15 วัน) แค่มีพาสปอร์ตก็ไปเที่ยวได้เลย
    ※เริ่มกลับมาใช้ฟรีวีซ่าอีกครั้งตั้งแต่ 11 ตุลาคม 2022
  • วิธีนับคือ ให้นับวันที่เดินทางถึง + 15 วัน
    เช่น ถ้าเดินทางถึง วันที่ 1 + 15 วัน = อยู่ในญี่ปุ่นได้ไม่เกินวันที่ 16 เวลา 23:59 น
  • หากวางแผนท่องเที่ยวเกิน 15 วัน ต้องยื่นขอวีซ่าระยะสั้น
    (ค่าธรรมเนียมวีซ่า 870 บาท + ค่าดำเนินการของศูนย์ JVAC 705 บาท = 1,575 บาท)

ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีทำพาสปอร์ต ต่อพาสปอร์ต แบบปกติ & จองคิวออนไลน์

Visit Japan Web Procedure 2024
การเดินทางเข้าญี่ปุ่น

11. การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น

  • เพื่อความรวดเร็วในกระบวนการเข้าประเทศ ควรลงทะเบียนในเว็บไซต์ Visit Japan Web ให้เสร็จก่อนเดินทางมาถึงญี่ปุ่น เพื่อกรอกข้อมูลตม. (Immigration (Disembarkation Card)) และใบศุลกากร Customs Declaration
  • หากลงทะเบียนในเว็บมาแล้ว ก็ให้แสดง QR Code ที่ได้มาสแกนในจุดต่างๆ ตามขั้นตอนการเข้าสู่ประเทศ
  • หากไม่ลงทะเบียนกรอกข้อมูลในเว็บไซต์สามารถกรอกในใบสีเหลือง 2 ใบที่สนามบินได้เช่นกัน
  • ปัจจุบันบางสายการบินไม่แจกใบสีเหลืองบนเครื่องบินให้แล้ว ต้องมากรอกก่อนผ่านตม. ซึ่งอาจทำให้เสียเวลา

※สามารถลงทะเบียนเพื่อใช้ QR Code สำหรับตอนจ่ายเงิน Tax-free Shop โดยไม่ต้องยื่นพาสปอร์ตตัวจริงได้ผ่านทางเว็บไซต์ Visit Japan Web
※ตั้งแต่ 29 เมษายน 2566 ได้ยกเลิกการลงทะเบียนใบรับรองการฉีดวัคซีนและใบรับรองการตรวจโควิดไปแล้ว เนื่องจากได้ลดระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาอยู่ที่ระดับ 5 (เท่าไข้หวัดใหญ่)

ข้อมูลเพิ่มเติม: เที่ยวญี่ปุ่น 2023 ญี่ปุ่นเปิดประเทศให้เที่ยวเอง มีเงื่อนไขอย่างไร?

4G Pocket WiFi
Pocket WiFi

12. อินเทอร์เน็ต

  • ที่ญี่ปุ่นมี Wifi ให้ใช้ฟรีในหลายสถานที่ เช่น โรงแรม สนามบิน สถานีรถไฟ  ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า
  • สามารถเช่า Pocket Wifi จากไทยไป (สามารถแชร์เน็ตกันได้หลายคน แต่ต้องอยู่ใกล้ๆ กัน)
  • ปัจจุบันนิยมซื้อ Sim Card หรือเปิด Roaming กับค่าโทรศัพท์ก็ได้แล้วแต่ความสะดวก

โรงแรมและที่พักในญี่ปุ่น

APA Hotel Keisei Narita Ekimae
ห้องพักในโรงแรม APA Hotel Keisei Narita Ekimae

13. ทำเลที่พัก

  • สถานที่ที่ญี่ปุ่นมักจะบอกระยะทางเป็นเวลาในการเดิน (โดยใช้ความเร็วแบบคนญี่ปุ่น ถ้าเป็นคนไทยก็คูณ 2 ได้เลย)
  • พยายามเลือกที่พักที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ เดินไม่เกิน 5 นาที (ประมาณ 500 เมตร) ถ้าไม่อยากเดินกันจนปวดน่อง

14. การ Check in – Check out

  • โรงแรมโดยทั่วไปจะเปิดให้ Check-in หลัง 15:00 น. และ Check-out ก่อน 10:00 น.
  • ทั้งก่อนและหลัง Check-in และ Check-out สามารถฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ตอน Check-in จะต้องใช้พาสปอร์ต พนักงานจะถาม (พอเป็นพิธี) ว่าขอก๊อปปี้พาสปอร์ตของเราได้มั้ย?

ข้อมูลเพิ่มเติม: แนะนำและรีวิวโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น การจองโรงแรมราคาถูก ที่พักราคาประหยัด

ห้องพัก
ห้องพักในโรงแรม Residential Hotel Hare Shin-Osaka

15. ภาษีที่พัก

บางพี่พักและบางเมืองอาจมีการเรียกเก็บภาษีโรงแรมตอน Check-in เริ่มต้นที่ 100 เยน/คืน/คน โดยอัตราภาษีแตกต่างกันไปตามแต่ละเมือง

ตัวอย่างภาษีที่พัก
โตเกียว (ปรับราคาเริ่ม 1 ตุลาคม 2022)
ค่าที่พัก/คืน/ห้องภาษีที่พัก/คืน/คน
ต่ำกว่า 10,000 เยนไม่มี
10,000-15,000 เยน100 เยน
มากกว่า 15,000 เยน200 เยน
โอซาก้า (เริ่ม 1 ตุลาคม 2022)
ค่าที่พัก/คืน/ห้องภาษีที่พัก/คืน/คน
ต่ำกว่า 10,000 เยนไม่มี
10,000-15,000 เยน100 เยน
15,000-20,000 เยน200 เยน
มากกว่า 20,000 เยน300 เยน

การจัดการกระเป๋าสัมภาระ

ตู้ล็อคเกอร์ที่สถานี Takayama
ตู้ล็อคเกอร์ที่สถานี Takayama

16. ตู้ล็อคเกอร์

ตู้ล็อคเกอร์เป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องใช้ในการฝากสัมภาระ โดยขนาดและค่าบริการตู้ล็อคเกอร์โดยทั่วไปมีดังนี้

ประเภทขนาดค่าบริการ
เล็ก (S)35x43x57 ซม.300 เยน/วัน
กลาง (M)57x43x57 ซม.400 เยน/วัน
ใหญ่ (L)117x43x57 ซม.500-600 เยน/วัน
  • ตู้ล็อคเกอร์มีอยู่ทั่วไปตามสถานีรถไฟและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก
  • บางแห่งอาจมีเพียงไซส์เล็ก ไม่สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ได้
  • ถ้าเป็นสถานีรถไฟใหญ่ๆ จะมีตู้ล็อคเกอร์ตั้งแต่ช่องเล็กจนใหญ่ แต่ช่องใหญ่ๆ มักมีจำนวนน้อยและอาจไม่ว่างด้วย
  • ค่าบริการตู้ล็อคเกอร์อาจแพงขึ้นตามสถานที่ตั้ง
  • มีตู้ที่ใช้หยอดเหรียญ (ใช้กุญแจ) และตู้ที่ชำระด้วยบัตร IC Card (ใช้รหัส)
  • สามารถฝากได้ไม่เกิน 3 วัน (ถ้าเกิน 3 วันจะต้องเสียค่าปรับ)
บริษัทแมวดำ Yamato (Kuroneko)
เคาน์เตอร์ Yamato Transport ที่สนามบิน

17. บริการ Delivery

  • ถ้าไม่อยากลากกระเป๋าเอง ก็มีบริการส่งกระเป๋าระหว่างสนามบินและที่พัก รวมถึงการส่งกระเป๋าจากที่พักข้ามเมือง
  • บางที่มีแบบ Sameday Delivery (ถึงในวันเดียว) แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1 วัน (ถึงในวันถัดไป)
  • ที่นิยมใช้คือบริการของบริษัทแมวดำ ​Yamato Transport

ข้อมูลเพิ่มเติม: [รีวิว] ส่งกระเป๋าจากสนามบินไปยังโรงแรม ด้วยบริษัท Yamato (Kuroneko)

ของฝากและการช้อปปิ้ง

Don Quijote Shinjuku Higashiguchi Honten
ร้านดองกิ (Don Quijote)

18. การชำระเงิน

  • เวลาจ่ายเงินให้วางเงินลงในถาดสีฟ้าตรงแคชเชียร์ (ถ้ามี)
  • ตามร้านค้าใหญ่ๆ สามารถจ่ายได้ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต รวมถึง Travel Card และ IC Card (ให้สังเกตสัญลักษณ์ตรงแคชเชียร์)
รับคูปองส่วนลด 5% ที่ร้านดองกิในญี่ปุ่น
เมื่อซื้อ 10,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)
Don Quijote Discount Coupon

19. ภาษีการบริโภค

  • สินค้าส่วนใหญ่จะมีภาษี (Tax) 10% (※มีการปรับภาษีจาก 8% เป็น 10% เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2019)
  • บางอย่างก็ยังคงไว้ที่ 8% เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งกลับบ้าน (ถ้ากินในร้านคิด 10% จึงห้ามสั่งกลับบ้านแล้วมานั่งกินในร้าน)
Japan Tax Free Bag
ตัวอย่างถุง TAX FREE

20. การขอคืนภาษี

  • ที่ญี่ปุ่นจะมีร้านที่มีป้าย TAX FREE ซึ่งชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นไม่เกิน 6 เดือน จะสามารถขอคืนภาษี (Tax Refund) ได้
  • ร้านที่ร่วม TAX FREE หาได้ง่ายมากในญี่ปุ่น โดยสังเกตได้จากป้ายหน้าร้าน แม้แต่ 7-11 (บางสาขา) ก็ยังร่วม
  • สามารถทำเรื่องขอคืนภาษีที่ร้านค้าที่ซื้อหรือเคาน์เตอร์ Tax Refund ภายในวันที่ซื้อสินค้าเท่านั้น
  • สามารถแบ่งประเภทสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ โดยมีเงื่อนไขที่ต่างกันดังนี้
ประเภทสินค้ามูลค่าเงื่อนไข
สินค้าทั่วไป
(เช่น เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้)
5,000 เยนขึ้นไป· ไม่ต้องใส่ในถุงพิเศษ (ใช้ในประเทศได้)
· ต้องนำออกนอกประเทศภายใน 6 เดือน นับจากวันที่เข้าญี่ปุ่น
สินค้าอุปโภคบริโภค
(เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง)
5,000 เยนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 500,000 เยน· ต้องใส่ในถุงพิเศษ (ใช้ในประเทศไม่ได้)
· ต้องนำออกนอกประเทศภายใน 30 วัน นับจากวันที่ซื้อ
สินค้าทั่วไป + สินค้าอุปโภคบริโภค
(ซื้อรวมกันในร้านเดียวกันและในวันเดียวกัน)
รวมกันตั้งแต่ 5,000 เยนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 500,000 เยน· ต้องใส่ในถุงพิเศษ (ใช้ในประเทศไม่ได้)
· ต้องนำออกนอกประเทศภายใน 30 วัน นับจากวันที่ซื้อ

※ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2018 เป็นต้นไป ไม่ต้องแยกประเภทสินค้า เพียงแค่ซื้อสินค้าครบ 5,000 เยน (ร้านค้าเดียวกัน) ก็จะได้รับยกเว้นภาษีทันที
※ต้องยื่นพาสปอร์ตตัวจริงตอนชำระเงิน (ใช้สำเนาไม่ได้)
※ปัจจุบันไม่ต้องเย็บบิลติดไว้ที่พาสปอร์ต และไม่ต้องดึงบิลใส่กล่องตรงศุลกากรก่อนผ่านต.ม. ที่สนามบินแล้ว
※สินค้าอุปโภคบริโภคที่ทำเรื่องยกเว้นภาษีห้ามแกะใช้ในประเทศญี่ปุ่น (เผื่อโดนเรียกตรวจ แต่ที่ผ่านมาแอดมินก็ไม่เคยเจอตรวจ)

ROYCE' CHOCOLATE
ROYCE’ CHOCOLATE ในสนามบินนาริตะ

21. ของฝากยอดฮิต

ของฝาก/ของที่มักโดนฝากซื้อยอดนิยม ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี? ถ้านึกไม่ออกลองเลือกจากลิสนี้ได้เลย

  • ขนม เช่น KitKat สารพัดรส, ช็อกโกแลต ROYCE, ขนมกล้วย Tokyo Banana, คุกกี้สอดไส้ช็อคโกแลต Shiroi Koibito, มันฝรั่ง Calbee
    ※ขนมทั่วไปอย่าง KitKat ซื้อตามร้านในเมืองจะถูกกว่าในสนามบิน
    ※ขนมของฝากอย่าง ROYCE, Tokyo Banana ซื้อใน Duty Free ที่สนามบินจะถูกกว่าเพราะไม่มีภาษี
  • กิฟต์ช็อป เช่น ตุ๊กตา พวงกุญแจ อุปกรณ์เครื่องเขียน ของเล่น
  • ของใช้ เช่น ร่มพับ ตะเกียบ พัด ของจากร้าน 100 เยน
  • เครื่องสำอางญี่ปุ่น เช่น SK-II, Kate, Elixir, HADA LABO, Anessa
  • กระเป๋า เช่น BAO BAO, Samantha Thavasa, Anello
  • รองเท้าผ้าใบ เช่น Nike, Adidas, Onitsuka Tiger
Matsumoto Kiyoshi, Ueno Ameyoko
ร้านขายยา Matsumoto Kiyoshi

22. ร้านขายเครื่องสำอาง

เครื่องสำอางมีขายตามร้านค้าต่างๆ มากมาย ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามแหล่งท่องเที่ยว

  • ร้านขายยา เช่น Matsumoto Kiyoshi, Daikoku Drug, Sun Drug, OS Drug, Kokumin
  • ร้านขายเครื่องสำอาง เช่น @cosme Store, It’s DEMO
  • ร้านขายสินค้าลดราคา เช่น Don Quijote (ร้านดองกิ)
  • ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น BicCamera, LABI, Yodobashi Camera

23. ร้านขายเสื้อผ้า

  • เสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่นผู้หญิงที่ขายทั่วไป ส่วนใหญ่มีแต่ไซส์ M (บ้านเราก็คงเรียก Free Size) ถูกๆ หน่อยก็เริ่มที่ 1,000 กว่าเยน ถ้ามียี่ห้อก็เริ่มประมาณ 3,000 เยน (จะซื้อให้ได้ Tax Free ก็ต้องเกิน 5,000 เยนต่อบิล)
  • ห้องลองเสื้อที่ญี่ปุ่นจะมีการยกพื้นขึ้นมา เวลาเข้าไปลอง ให้ถอดรองเท้าไว้หน้าห้องลองซึ่งต่างจากที่ไทยที่ใส่รองเท้าเข้าไปได้เลย

ข้อมูลเพิ่มเติม: 30 แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่นสวยๆ น่ารักๆ และน่าซื้อเมื่อไปญี่ปุ่น!!!

Shibuya MODI (渋谷モディ)
ห้าง Shibuya MODI

24. ห้างสรรพสินค้า/ร้านค้า

  • ห้างสรรพสินค้าที่ญี่ปุ่นปิดเร็วมาก ประมาณ 20:00 – 21:00 น. แต่ร้านอาหารในห้างอาจเปิดจนถึง 23:00 น.
  • ร้านค้าบางร้าน เช่น Don Quijote, Matsumoto Kiyoshi ในบางสาขาก็อาจเปิดตลอด 24 ชั่วโมง สามารถช้อปกันได้อย่างจุใจ

25. การกด ATM

  • ช้อปเพลิน เงินหมด กดเงินเยนจากแบงค์ที่ไทยได้ที่ตู้ ATM ของ SEVEN BANK (※มีภาษาไทย), Japan Post Bank หรือตู้อื่นๆ ที่มีโลโก้ Visa หรือ PLUS, Master หรือ Cirrus เป็นต้น
  • สามารถหาตู้ ATM ได้ง่ายตามสถานีรถไฟ และร้าน 7-11 แต่ว่าตู้ ATM ในญี่ปุ่นไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงแบบที่ไทยนะจ๊ะ
  • ตู้ ATM ของ SEVEN BANK มีค่ากดประมาณ 100 บาทต่อครั้ง กดได้สูงสุด 100,000 เยน (ถ้าเป็นบัตรที่เป็นแถบแม่เหล็กถอนเงินได้ไม่เกิน 3 หมื่นเยน)
  • หากใช้ Travel Card (บัตรสำหรับรูดใช้จ่ายที่ต่างประเทศ) กดเงินเยนที่ญี่ปุ่น ก็จะมีค่ากดแตกต่างกันไป

อาหารการกินและเครื่องดื่ม

อาหารราคาประหยัด
ร้านขายอาหารที่อุเอโนะ (โตเกียว)

26. ราคาอาหาร

จริงๆ แล้วอาหารในญี่ปุ่นไม่แพงเลย 500 เยนก็อิ่มได้ (ส่วนใหญ่จะหมดเงินไปกับพวกขนมมากกว่า)

  • ข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้ออยู่ประมาณ 400-500 เยน โดยมากมักมีที่นั่งให้นั่งกินในร้านด้วย
  • เบอร์เกอร์ใน McDonald ก็ 500 กว่าเยน ถ้าเป็นเซ็ทก็ 700 กว่าเยน
  • อาหารตามร้านที่เป็น Local (คือมีแต่ภาษาญี่ปุ่นทั้งร้าน ฮาาา) จานละประมาณ 400 เยน เป็นเซ็ทมีเครื่องเคียง มีซุปก็ 700-800 เยน ส่วนใหญ่จะเป็นเคาน์เตอร์นั่งกินเร็วเคลมเร็ว ถ้าเข้าร้านที่ดูดีหน่อยก็ 800 เยนอัปต่อจาน
  • ราเมงอยู่ที่ชามละประมาณ 900 เยน ถ้าเพิ่มท็อปปิ้งด้วยก็เป็น 1,000 เยนขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: [รีวิว] ค่าครองชีพด้านอาหารการกินในประเทศญี่ปุ่น สำหรับตั้งงบเที่ยว

27. การสั่งอาหาร

การสั่งและชำระเงินในร้านอาหารหลักๆ มีอยู่ 3 แบบ

  • สั่งอาหารและชำระเงินที่แคชเชียร์ แล้วรอรับอาหาร (พบได้ในร้านฟาสฟู้ด และฟู้ดคอร์ท)
  • กดซื้อคูปองตรงทางเข้าร้าน แล้วนำไปยื่นให้พนักงาน (พบได้ในร้านขนาดเล็ก รวมถึงในฟู้ดคอร์ท)
  • สั่งอาหาร กินเสร็จแล้วค่อยลุกไปชำระเงินที่แคชเชียร์ หรือเรียกพนักงานมาคิดเงินที่โต๊ะ (พบได้ในร้านทั่วไป)
  • กดสั่งอาหารจากแท็บเล็ตจากที่โต๊ะได้เลย กินเสร็จแล้วค่อยลุกไปชำระเงินที่แคชเชียร์ (เริ่มมีใช้มากขึ้น)

28. การให้ทิป

ไม่ต้องให้ทิปพนักงาน (ที่ญี่ปุ่นไม่มีธรรมเนียมให้และรับทิป)

29. น้ำประปาดื่มได้

  • น้ำประปาจากก๊อกสามารถดื่มได้ หากไม่ชอบก็สามารถซื้อน้ำเปล่าเป็นขวดได้
  • น้ำแร่ขวดไซส์ทั่วไป 500ml อยู่ประมาณ 90-120 ซึ่งราคาเกือบพอๆ กับพวกชาหรือน้ำอัดลมเลย (ซื้อขวดลิตรมาเทแบ่งจะถูกกว่า)

30. มีน้ำเปล่าบริการฟรี

ตามร้านอาหารและฟู้ดคอร์ทจะมีน้ำเปล่าหรือน้ำชาให้ฟรี เติมได้ไม่อั้น (แต่บางที่อาจแปะป้ายบอกว่าได้โปรดอย่าเอากระติกหรือขวดมาเติมเลย ฮาาา)

ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติในญี่ปุ่น
ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ

31. ตู้ขายอัตโนมัติขายถูกกว่า

ซื้อน้ำจากตู้ขายอัตโนมัติมักถูกกว่าร้านสะดวกซื้อ เพราะไม่มีภาษีอีก 10% บางตู้ยังมีให้เลือกทั้งเครื่องดื่มแบบเย็นและร้อน

ข้อมูลเพิ่มเติม: 7 เหตุผลที่ทำไมคนถึงนิยมใช้บริการตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติที่ญี่ปุ่น

32. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  • คนญี่ปุ่นชอบดื่มเบียร์ ดื่มกันเป็นน้ำเปล่าเลย หาซื้อได้ง่ายมาก สายๆ ก็เห็นมานั่งดื่มกันแล้ว
  • ลานเบียร์นิยมจัดในหน้าร้อน ได้จิบเบียร์เย็นๆ เป็นอะไรที่ฟินมาก (ต่างกับบ้านเราที่นิยมจัดในหน้าหนาว)

※ตามกฎหมายของญี่ปุ่นห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี

การทิ้งขยะในญี่ปุ่น

33. หาถังขยะยาก

  • ที่ทิ้งขยะค่อนข้างหายาก จึงควรพยายามอย่าสร้างขยะ หากจำเป็นควรพกถุงขยะเพื่อนำกลับไปทิ้งที่ที่พัก
  • หากซื้อของกินแล้วควรรีบกินให้เสร็จ แล้วทิ้งลงถังขยะที่ทางร้านจัดไว้ให้ (ไม่ควรเดินไป กินอาหารไปในญี่ปุ่น)

34. ต้องแยกขยะเวลาทิ้ง

  • ถังขยะแต่ละที่จะแยกขยะไม่เหมือนกัน อาจเป็นแบบง่ายๆ เช่น ขยะเผาได้ อย่างพวกกระดาษ และเผาไม่ได้ อย่างพวกพลาสติก (หนาๆ) แก้ว โลหะ
  • หากแยกแบบละเอียดขึ้นมาอีก อาจจะแบ่งเป็น กระดาษ ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระป๋อง และขยะอื่นๆ เป็นต้น

35. กำหนดวันทิ้งขยะ

ที่ญี่ปุ่นมีกำหนดวันทิ้งขยะแต่ละประเภท แต่ถ้าพักตามโรงแรมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ อย่างมากแค่แยกขยะทิ้งให้ถูกถังตามที่โรงแรมจัดไว้ให้

ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการแยกขยะและทิ้งขยะง่ายๆ แบบคนญี่ปุ่น เป็นนักท่องเที่ยวก็ทำได้!

การใช้ห้องน้ำในญี่ปุ่น

ห้องน้ำในโรงแรม
ห้องน้ำในโรงแรม

36. ห้องน้ำหาได้ง่าย

ห้องน้ำหาได้ง่ายตามสถานีรถไฟ ห้างสรรพสินค้า รวมถึงร้านค้าใหญ่ๆ สะอาดด้วย ฟรีด้วย! (บางคนบอกว่าห้องน้ำหาง่ายกว่าถังขยะอีก!)

37. ห้องน้ำแบบญี่ปุ่น

ห้องน้ำในญี่ปุ่นมี 2 แบบ คือ

  • แบบตะวันตก เป็นโถชักโครก เหมือนกับที่เราใช้ทั่วไป โดยมีทั้งแบบนั่งและแบบยอง
  • แบบญี่ปุ่น เป็นแบบนั่งยองๆ หันหน้าเข้าตรงส่วนยื่นขึ้นมาของโถ (บางคนอาจจะยังไม่คุ้น อาจเล็งได้ยากหน่อย)
วิธีการใช้ห้องน้ำในญี่ปุ่น
วิธีการใช้ห้องน้ำในญี่ปุ่น

38. ชักโครกอัตโนมัติ

ห้องน้ำแบบตะวันตกเป็นแบบสมัยใหม่ โดยมีระดับความทันสมัยต่างกัน

  • บางแห่งมีเซ็นเซอร์ราดน้ำให้เองได้เวลาลุก มีเสียงเพลงหรือเสียงน้ำไหลกลบเสียงทำธุระ
  • บางแห่งต้องหาปุ่มกดราดน้ำเอง กดเปิดเสียงเอง (ที่ทำให้งงที่สุดคือเวลากดราดน้ำนี่ล่ะ บางทีก็เอาปุ่มไปซ่อนไว้ซะไกลโถ)
  • บางที่ยังมีปุ่มกดเรียกขอความช่วยเหลือ (หลายคนก็อาจไปกดผิดได้เพราะคิดว่าเป็นปุ่มราดน้ำ)

39. ที่ฉีดอยู่ในโถ

  • ในห้องน้ำที่ญี่ปุ่นไม่มีสายฉีดแบบบ้านเรา แต่ที่ฉีดจะอยู่ในโถส้วมแบบตะวันตกซึ่งต้องกดปุ่มสั่งเอาเอง
  • เลือกว่าจะฉีดล้างตำแหน่งไหน และยังปรับระดับความแรงได้อีกด้วย

40. ทิ้งกระดาษทิชชู่ในโถ

สามารถทิ้งกระดาษทิชชู่ลงในโถชักโครกได้เลยแล้วกดราดน้ำโดยไม่ทำให้ส้วมตัน เพราะกระดาษทำมาให้เปื่อยยุ่ยได้ง่ายเมื่อโดนน้ำ

41. มีโซนให้แต่งหน้า

  • ในห้องน้ำผู้หญิงโดยมากจะแยกเป็นโซนสำหรับล้างมือ และโซนสำหรับแต่งหน้าพร้อมที่วางกระเป๋าให้ด้วย (จริงจังมาก)
  • ถ้ามีโซนแบ่งกันชัดเจน ก็ไม่ควรไปยืนแต่งหน้าขวางคนที่จะล้างมือ

การเข้าแถวในญี่ปุ่น

ร้านกาแฟ % Arabica Kyoto Arashiyama
คิวหน้าร้านกาแฟ % Arabica Kyoto Arashiyama

42. การรอคิว

  • ระบบคิวโดยทั่วไปในญี่ปุ่นก็จะให้ยืนต่อคิวนั่นเอง บางร้านอาหารอาจมีกระดาษให้เราเขียนชื่อไว้ตามลำดับ เราสามารถไปเดินเล่น หรือยืนรอตรงอื่นได้ เมื่อถึงคิวก็จะมีพนักงานออกมาเรียกให้เราเข้าไปในร้าน
  • หากไปเที่ยวช่วงวันหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหยุดยาว จะเจอคิวยาวเข้าแถวเป็นหางว่าว ไม่ว่าจะเข้าร้านอาหาร ซื้อขนม เข้าห้องน้ำ อันนี้ต้องทำใจอย่างเดียว ถ้าเป็นร้านดังๆ หน่อย ขนาดเลือกกินตอนบ่ายๆ คิวก็ยังยาวอยู่ดี

43. การใช้บันไดเลื่อน

  • เวลาขึ้นบันไดเลื่อน มักนิยมยืนชิดด้านในด้านหนึ่งเพื่อให้คนอื่นได้เดินแซงขึ้นไปได้ โดยแถบโตเกียวจะยืนชิดซ้าย ส่วนแถบโอซาก้าจะยืนชิดขวา
  • ปัจจุบันมีการรณรงค์ไม่เดินหรือวิ่งบนบันไดเลื่อน และให้ยืนคู่กันเป็น 2 แถว แต่บางคนก็ยังยืนด้านใดด้านหนึ่งอยู่ดี จึงควรสังเกตด้วยว่าเวลาใช้งานจริงว่าเขายืนกันอย่างไร เพราะอาจมีคนวิ่งขึ้นมา ซึ่งอาจจะโดนชนได้

การใช้รถไฟในญี่ปุ่น

รถไฟ Keisei Skyliner
รถไฟ Keisei Skyliner

44. การเช็คตารางรถไฟ

เว็บไซต์ที่นิยมใช้เช็คตารางรถไฟและเส้นทางในการเดินทาง

hyperdia.com เคยเป็นเว็บไซต์ที่นิยมใช้ แต่ปัจจุบัน (ปี 2022) ได้งดให้บริการไปแล้ว

วิธีการซื้อบัตร Suica
บัตร Suica

45. การซื้อตั๋ว

  • สามารถซื้อตั๋วรถไฟ บัตรเติมเงิน (IC Card) เติมเงินในบัตร รวมถึงตั๋วส่วนลด (Value Ticket) รวมทั้ง JR Pass บางชนิด ได้ที่ตู้อัตโนมัติในสถานี
  • หากซื้อตั๋วผิด เงินไม่พอ แตะออกช่องตรวจตั๋วไม่ได้ ให้ไปที่ตู้ปรับราคาตั๋ว (Fare Adjustment) ใกล้ๆ บริเวณช่องตรวจตั๋ว เพื่อเสียเงินส่วนต่างเพิ่ม

46. ปิดเสียงโทรศัพท์

  • เวลาอยู่บนรถสาธารณะ ให้เปิดโทรศัพท์มือถือเป็น Manner Mode หรือระบบสั่น (ปิดเสียงเรียกเข้า และเสียงเตือนจากโปรแกรมแช็ทต่างๆ)
  • รวมถึงไม่ควรคุยโทรศัพท์มือถือบนรถสาธารณะ (หากมีความจำเป็นก็ต้องรับสายแบบเสียงกระซิบ)

47. ที่นั่งสำรองพิเศษ

  • ในขบวนรถไฟจะมี Priority Seat ซึ่งเป็นที่นั่งสำหรับ สตรีมีครรภ์ ผู้โดยสารที่มากับเด็กเล็ก ผู้ป่วยเจ็บ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ โดยปกติจะอยู่หัวและท้ายตู้
  • ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือตรงบริเวณ Priortity seat เพื่อป้องกันคลื่นมือถือไปรบกวนคลื่นไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ
  • ไม่ลุกให้เด็กนั่งก็ได้ เพราะไม่จัดอยู่ใน Priority List (เป็นวัฒนธรรมที่ต่างจากบ้านเรา)

48. ตู้รถไฟสำหรับผู้หญิง

  • ในช่วงเวลาเร่งด่วนของตอนเช้าและตอนเย็น จะมีตู้รถไฟสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งโดยมากจะอยู่ตู้แรกหรือสุดท้าย
  • ผู้ชายควรตรวจสอบป้ายบริเวณชานชาลาหรือที่ป้ายที่รถไฟก่อนขึ้น
Ekiben
ข้าวกล่องรถไฟที่ฮอกไกโด

49. การรับประทานอาหารในรถไฟ

  • สามารถดื่มเครื่องดื่มและกินอาหารได้ในสถานีรถไฟ (บนชานชาลายังมีตู้ตั้งขายเลย) รวมทั้งบนรถไฟที่วิ่งระยะไกล
  • สามารถกินอาหารบนรถไฟที่วิ่งไกลๆ ระหว่างเมืองและรถไฟชินคันเซ็นได้ตามสบาย มีที่วางให้พร้อม (บนขบวนก็มีการขายอาหารและเครื่องดื่มด้วย)
  • ไม่มีกฎการห้ามกินอาหารและเครื่องดื่มบนรถไฟในเมือง (เคยเห็นคนญี่ปุ่นยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มเหมือนกัน แต่ยังไงก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่กลิ่นแรงซึ่งจะไปยั่วน้ำลายคนอื่นเค้า เอิ๊ก)

50. การเดินหน้าเส้นเหลือง

  • ในสถานีที่ไม่มีที่กันระหว่างรถไฟกับชานชาลา สามารถเดินหน้าเส้นเหลืองได้ ถ้ารถไฟยังไม่มา เพราะบางช่วงของชานชาลาก็แคบเหลือเกิน
  • ควรงดเดินตอนที่รถไฟมาเพราะอาจโดนลมตีได้ (และอาจโดนเป่านกหวีดปรี๊ดให้สะดุ้งจนแทบจะตกรางรถไฟ)
ภายในรถไฟ JR Yamanote Line
ภายในรถไฟ JR Yamanote Line

51. มีปุ่มเปิด-ปิดประตู

  • ในรถไฟต่างจังหวัด (ที่พบคือสาย Local) ประตูจะไม่ได้เปิดอัตโนมัติ ตอนจะขึ้นรถไฟ เราต้องกดปุ่มเปิด-ปิดเองตรงข้างประตู
  • มีไว้เพื่อป้องกันอากาศหนาวเข้ามาในรถเวลาจอดรอผู้โดยสารที่สถานีนานๆ (คนต่างชาติที่ไม่รู้ก็ยืนรอกันไป ทำไมประตูไม่ยอมเปิดซะที -@-)

52. ช่วงพีคตอนเที่ยงคืน

  • ช่วงเที่ยงคืนใกล้เวลาของรถไฟขบวนสุดท้ายในเมืองใหญ่ๆ รถไฟจะแน่นมากและเต็มไปด้วยคนเมา
  • จะยิ่งพีคมากๆ ตอนช่วงเที่ยงคืนวันศุกร์ หากไม่อยากเจอสภาพเช่นนี้ควรรีบกลับที่พักก่อนเที่ยงคืน

53. ทางออกจากสถานี

  • ทางออกในสถานีรถไฟมีเยอะมาก ให้มองหาป้ายในสถานีเพื่อดูทางออกที่ใกล้สุดกับสถานที่ที่เราจะไป จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียแรงเดินอ้อมโลก
  • เวลานัดใครให้เจอที่ทางออก ควรระบุให้ชัดเลยว่าทางออกอะไร หมายเลขเท่าไหร่ ไม่งั้นเดี๋ยวหากันไม่เจอ

การสูบบุหรี่ในญี่ปุ่น

Smoking Area
ที่สูบบุหรี่หน้าสถานี Shibuya

54. สถานที่สูบบุหรี่

  • คนญี่ปุ่นสูบบุหรี่จัดมาก สถานที่ต่างๆ จึงต้องมีที่สูบบุหรี่ แม้แต่ในห้างสรรพสินค้าหรือสถานีรถไฟก็ยังมีห้องไว้ให้เข้าไปสูบบุหรี่กัน
  • ตามถนนจะมีโซนสำหรับสูบบุหรี่จัดไว้ให้ ห้ามสูบบุหรี่บนทางเท้าและห้ามเดินไปสูบบุหรี่ไป ไม่งั้นอาจโดนปรับ
  • สมัยก่อนสามารถสูบบุหรี่ในร้านอาหารได้ แต่ปัจจุบันญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ภายในร้านอาหาร (เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2020)
  • ร้านอาหารและร้านเหล้าที่ยกเว้นให้สูบบุหรี่ได้จะต้องติดป้ายให้ชัดเจนตั้งแต่หน้าร้าน

※ตามกฎหมายของญี่ปุ่นห้ามจำหน่ายบุหรี่ให้กับบุคคลที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี
※บุหรี่ไฟฟ้าในญี่ปุ่นไม่ผิดกฎหมาย แต่ที่ไทยถือเป็นของผิดกฎหมาย

เมื่อเหตุฉุกเฉินในญี่ปุ่น

55. เจ็บป่วย/บาดเจ็บ

  • ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ญี่ปุ่นนั้นแพงมาก แถมยังต้องหาสถานพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยชาวต่างชาติ ได้อีกไม่งั้นก็คุยกันไม่รู้เรื่องอีก
  • แนะนำให้ทำประกันเดินทางไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างการเจ็บป่วย บาดเจ็บ นอกจากจะช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังมีบริการให้คำแนะนำเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วย
    ※ค่าประกันสำหรับทริป 1 อาทิตย์ เริ่มต้นยังไม่ถึง 1,000 บาทเลย

56. แผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่เกิดได้เสมอในญี่ปุ่น แนะนำให้โหลดแอ๊พ Yurekuru Call (แอปฯ เป็นภาษาอังกฤษ) ไว้ในมือถือจะช่วยเตือนเราได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: 7 วิธีง่ายๆ เตรียมตัวรับมือกับแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น สำหรับนักท่องเที่ยว

57. หลงทาง

  • การหลงทางเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลามาสถานีรถไฟใหญ่ๆ (แม้แต่คนญี่ปุ่นก็ยังหลง) หรือแม้แต่การขึ้นรถผิดฝั่งผิดสาย
  • ควรลองศึกษาเส้นทางไว้ก่อนด้วย Google Street View จะได้พอคุ้นๆ เวลาไปเที่ยวจริงๆ
  • ระหว่างท่องเที่ยวสามารถใช้ GPS ใน Google Map ช่วยได้ (แต่บางทีเดินๆ อยู่กระเด้งไปอยู่อีกถนนบนแผนที่ ก็งงกันไป)

ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการดูแผนที่รถไฟในโตเกียว & การเที่ยวโตเกียว ขึ้นรถไฟไม่ให้ผิดสาย

สิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศ

58. สิ่งของที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น

ที่มักจะทำผิดกันโดยที่ไม่รู้ข้อมูลมาก่อน ก็มีดังนี้

  • เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากสัตว์ เช่น ไส้กรอก แฮม หมูยอ หมูหยอง กุนเชียง แหนม
  • ผักและผลไม้บางชนิด โดยจะต้องได้รับใบรับรองถึงจะอนุญาตให้นำเข้าได้ (ยกเว้นสินค้าแปรรูป ผักและผลไม้ที่แปรรูปด้วยการหมักดอง ที่มีตราสินค้าที่มีมาตรฐาน)
  • ยาบางชนิด ที่ระบุไว้มี 11 ชนิด ได้แก่ TYLENOL COLD, NYQUIL, NYQUIL LIQUICAPS, ACTIFED, SUDAFED, ADVIL COLD & SINUS, DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”, DRISTAN SINUS, DRIXORAL SINUS, VICKS INHALER และ LOMOTIL

※จะมีเจ้าหน้าที่พาน้องบีเกิ้ลดมกระเป๋าตอนที่อยู่ในสนามบิน

59. นำผลไม้สดกลับเข้าไทยเสี่ยงผิดกฎหมาย

  • ผลไม้ญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและอยากซื้อกลับมาเป็นของฝาก แต่การนำเข้าผลไม้สดเป็นสิ่งต้องห้าม ต้องมีใบรับรองสุขอนามัยพืชจากประเทศต้นทาง ต้องขอใบอนุญาตนำเข้าสิ่งต้องห้ามเพื่อการค้า และต้องแจ้งนำเข้ากับด่านตรวจพืช
  • บางคนสามารถนำกลับมาได้ เพราะไม่ได้โดนตรวจ ทางที่ดีควรซื้อกินในญี่ปุ่นจะดีที่สุด

งบในการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

60. ค่าใช้จ่ายในการญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

สามารถสรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรกได้ดังนี้

รายการตัวอย่างค่าใช้จ่าย
ค่าตั๋วเครื่องบิน· Low Cost ยังไม่รวมโหลดกระเป๋า เริ่มประมาณ 9,XXX บาท
· Full Service แบบบินตรง เริ่มประมาณ 15,XXX บาท
· Full Service แบบแวะพัก เริ่มประมาณ 13,XXX บาท
ค่าที่พักโรงแรม 2.5-3 ดาว 2 คน/ห้อง ตกประมาณ 3,XXX บาท/คืน
ค่าเดินทางภายในประเทศลองเช็คเส้นทางสถานที่จะไปก่อน จะได้ดูว่าซื้อพาสจะคุ้มมั้ย
· JR Pass ใช้ได้ทั้งประเทศญี่ปุ่น เริ่มประมาณ 29,XXX เยน
· JR Pass ใช้แต่ละภูมิภาค ประมาณ 5,XXX – 25,XXX เยน
· บัตรโดยสารรถไฟใต้ดิน/รถบัสในเมือง ประมาณ 8XX เยน
ค่าอาหาร + ค่าขนม + ค่าน้ำเฉลี่ยวันละ 5,000 เยน
· อาหารในร้านสะดวกซื้อ ประมาณ 5XX – 1,XXX เยน
· อาหารเซ็ตในร้านอาหาร/รางเมง ประมาณ 8XX – 1,2XX เยน
*หากต้องการกินมื้อใหญ่เช่น เนื้อย่าง ควรเตรียมงบเพิ่มต่างหาก
ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆขึ้นอยู่กับสถานที่ที่จะไป
· สวนสนุก ประมาณ 7,XXX – 9,XXX เยน
· ปราสาท/วัด/ศาลเจ้า/พิพิธภัณฑ์ ประมาณ 3XX – 1,XXX เยน
ค่าช้อปปิ้งของส่วนตัว + ของฝากแล้วแต่งบประมาณ
Klook.com

ส่งท้าย

ท้ายนี้ขอฝากไว้ว่า คนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ควรวางแพลนเที่ยวก่อนไปไว้คร่าวๆ ก็ยังดีนะคะ เช็คว่าเดินทางอย่างไรดี ขึ้นรถลงรถที่ไหน อย่าพยายามไปลุยเอาดาบหน้าถ้าไม่เชี่ยวจริง เพราะจะเสียเวลาโดยใช่เหตุ จะถามเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นแถวนั้น บางทีก็คุยกันไม่รู้เรื่องอีก พาลหงุดหงิดกันไปใหญ่ค่ะ

ควรศึกษาไว้หน่อยว่าสถานที่นี้มีอะไรเด่นๆ บ้าง คิดแพลนสำรองไว้หน่อยด้วย เผื่อบางทีอากาศอาจไม่เป็นใจ เช่น ถ้าฝนตก ก็อาจเปลี่ยนจากเที่ยวกลางแจ้งมาเป็นเที่ยวตามห้างแทน จะได้เที่ยวกันอย่างแฮปปี้และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนะคะ

ค้นหาโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น


บทความเตรียมตัวไปญี่ปุ่น ดูทั้งหมด »

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com