สวัสดีค่า วันนี้เราจะพามาเที่ยวเมืองฟุราโนะ (Furano) บนเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ในช่วงหน้าหนาวตอนหิมะฟูๆ กันค่ะ หลายคนที่ได้ยินชื่อเมืองนี้ก็อาจจะนึกถึงทุ่งลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อน แต่ที่นี่ในช่วงฤดูหนาวก็มีที่เที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กันนะคะ มาดูกันดีกว่า ใน 1 วัน ณ เมืองฟุราโนะแห่งนี้ เราสามารถไปทำกิจกรรมอะไรได้บ้างค่ะ
เกี่ยวกับเมืองฟุราโนะ (Furano)
เมืองฟุราโนะ (Furano / 富良野) เป็นเมืองในกิ่งจังหวัดคามิคาว่า (Kamikawa / 上川) ของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เนื่องจากว่าเมืองนี้ตั้งอยู่ใจกลางเกาะฮอกไกโดพอดี จึงได้ชื่อเล่นว่า “เฮะโซะ โนะ มะชิ (Heso no Machi)” หรือแปลได้ว่า “เมืองสะดือ” นั่นเอง
เมืองฟุราโนะมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กันยายน ซึ่งเป็นช่วงการชมทุ่งลาเวนเดอร์และทุ่งดอกไม้หลากสีกว้างสุดลูกหูลูกตา และในฤดูหนาวในเดือนธันวาคม – มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางมายังลานสกีที่ขึ้นชื่อในเรื่องความท้าทาย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองบิเอะ (Biei) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการชมธรรมชาติ จึงสามารถจัดไว้ในทริปเดียวกันได้เลยค่ะ
วิธีการเดินทางมาฟุราโนะ (Furano)
• พิกัดสถานี: JR Furano Station (JR Furano Line, JR Nemuro Line)
จาก Sapporo – Furano
- นั่งรถไฟ LTD. EXP จากสถานี Sapporo – Takikawa ใช้เวลาประมาณ 50 นาที แล้วต่อรถไฟ JR Nemuro Line จากสถานี Takikawa – Furano ใช้เวลาประมาณ 66 นาที
- นั่งรถไฟ LTD. EXP จากสถานี Sapporo – Asahikawa ใช้เวลาประมาณ 85 นาที แล้วต่อรถไฟ JR Furano Line จากสถานี Asahikawa – Furano ใช้เวลาประมาณ 70 นาที
- นั่งรถบัส Chuo Bus จากสถานี Sapporo – Furano ใช้เวลาประมาณ 90 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการเดินทาง Sapporo – Furano – Biei ด้วยรถบัสและรถไฟ
หมายเหตุ:
- หากเดินทางมาจากสนามบิน New Chitose Airport จะต้องนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Sapporo ก่อน
ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการเดินทางจากสนาม New Chitose Airport – Sapporo
จาก Asahikawa / Asahikawa Airport – Furano
- นั่งรถไฟ JR Furano Line จากสถานี Asahikawa – Furano ใช้เวลาประมาณ 70 นาที
- นั่งรถบัส Lavender Bus ซึ่งจะวิ่งจากสถานี Asahikawa – Asahikawa Airport – Furano ใช้เวลาประมาณ 90 นาที
รีวิวเที่ยวเมืองฟุราโนะ (Furano)
เมื่อทำความรู้จักกับเมืองฟุราโนะกันพอสังเขปแล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่เมืองนี้กันแล้วค่ะ สำหรับจุดมุ่งหมายในทริปนี้ก็มีอยู่ 3 ที่ด้วยกันนะคะ โดยกิจกรรมแรกนั้นอยู่ที่ฟาร์มม้า Furano Trekking Support YUMA จากนั้นก็ไปที่ลานสกีของโรงแรม New Prince Furano Hotel และปิดท้ายด้วยการเที่ยวชมหมู่บ้าน Ningle Terrace ทั้งหมดนี้จะอยู่ในละแวกเดียวกัน สามารถเดินทางไปไม่ยากเลยค่ะ
จากในบทความก่อนเราได้มาเที่ยวบ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond แล้วมานอนค้างที่เมืองฟุราโนะที่ Minshuku Akiba ซึ่งเป็นเกสต์เฮาส์สไตล์ญี่ปุ่นอยู่ใกล้กับสถานี Furano ทำให้เรามีเวลาเที่ยวได้มากขึ้นและสบายมากขึ้นเพราะไม่ต้องรีบออกแต่เช้าเพื่อเดินทางข้ามเมืองค่ะ
Minshuku Akiba
- ที่ตั้ง: เดิน 1-2 นาที จากสถานี JR Furano [ดูแผนที่]
- ราคาห้องพัก: 4,000 – 10,000 เยน ต่อคืน (ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล) [เช็คราคาและห้องว่างที่นี่]
- รูปแบบห้องพัก: เป็นห้องเดี่ยวสไสล์ญี่ปุ่นขนาดกลาง มีห้องอาบน้ำแบบญี่ปุ่นซึ่งอาบได้ทีละ 1 คน แต่ใช้ห้องรวมกัน (เหมือนห้องอาบน้ำในบ้านที่ใช้ร่วมกันหลายคน)
- สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก: ฟูกญี่ปุ่น โทรทัศน์ เซ็ตชาเขียว (สามารถหาน้ำร้อนได้จากจุดที่โรงแรมให้บริการ) ตู้เสื้อผ้า น้ำเปล่า (มีที่เก็บรองเท้าสกี และที่เก็บอุปกรณ์การเล่นสกีไว้ในพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม)
Furano Trekking Support YUMA
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เราจะพาไปนั้นก็คือ Furano Trekking Support YUMA (フラノトレッキングサポート遊馬) เป็นฟาร์มที่มีกิจกรรมทดลองขี่ม้าในช่วงหน้าร้อนและมีกิจกรรมขี่สุนัขลากเลื่อนในฤดูหนาว แค่ฟังก็ฟินกันแล้วใช่มั้ยคะ อิ อิ
ข้อมูลฟาร์ม Furano Trekking Support YUMA
- ที่อยู: 4 Line, Nakagoryo, Furano, Hokkaido 076-0016
- เบอร์ติดต่อ: 0167-23-5110
- เวลาทำการ: ฤดูร้อน 8:30 – 17:00 น. / ฤดูหนาว 9:00 -15:00 น.
- เว็บไซต์: http://yuma-horseback.com/english/
การเดินทางมายัง Furano Trekking Support YUMA
เดินทางจากสถานี Furano:
- สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากสถานี Furano ต้องนั่งรถบัสสาย 御料線 (อ่านว่า Goryousen) มาลงป้าย 4 線 (อ่านว่า Yonsen) ราคา 220 เยน แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที [ดูแผนที่]
หมายเหตุ:
- สามารถนั่งรถบัสสายอื่น ๆ ที่ไปยัง New Furano Prince Hotel (อยู่ใกล้กัน) แล้วเดินย้อนลงมาตรงตีนเขา (มีทางลัด เดินประมาณ 5 – 10 นาที)
- จากเกสต์เฮาส์ ใกล้ลานสกีโดยรถยนตร์หรือแทกซี่ประมาณ 10 นาที (ประมาณ 1,000-2,000 เยนโดยประมาณ)
ตารางรถบัสสาย Goryou Line (御料線) : Furano – Line 9
แผนที่ตัวอย่างสำหรับจุดขึ้นรถบัสหน้าสถานี Furano
จุดขึ้นรถบัสต้องเดินออกจากบริเวณหน้าสถานีออกมาที่ถนนใหญ่เล็กน้อย
ตามสัญลักษณ์วงกลมตามภาพตัวอย่างด้านบนค่ะ
เดินทางจากเมือง Asahikawa
- เราสามารถเดินทางจากเมืองอาซาฮีคาว่า ทั้งจากสถานี Asahikawa หรือ สนามบิน Asahikawa โดยนั่งรถ Lavender Bus (Asahikawa Station – Asahikawa Airport – Furano) มาลงป้าย 御料4線 (อ่านว่า Goryo Yonsen) หรือป้าย New Prince Furano Hotel แล้วเดินตรงลงมายังฟาร์มได้ภายในเวลา 5 – 10 นาที [ดูตารางรถบัสที่นี่]
หลังจากลงรถบัสที่ป้าย 4 線 (Yonsen) แล้ว จะต้องข้ามถนน (จากฝั่งที่ลงรถบัส) แล้วจะเจอทางเดินขึ้นไปบนเขา ให้เดินเข้าไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นฟาร์ม YUMA ตั้งอยู่ทางด้านขวามือ แนะนำให้ดู GPS ไปด้วย หรือคนที่พกแผนที่แบบกระดาษ ให้ตั้งระยะเอาไว้ที่ประมาณ 500 เมตร เมื่อเดินเข้ามาแล้วให้มองขวามือเอาไว้ เราจะเห็นป้ายไม้ขนาดใหญ่แบบด้านบนนี้ค่ะ ถ้าเห็นป้ายเช่นนี้แสดงว่าไม่หลงทางแน่นอน
เมื่อมองเข้าไป เราจะเห็นแค่สิ่งปลูกสร้างเล็กๆ สีเหลืองด้านซ้ายมือ เป็นส่วนที่ใช้สำหรับรับแขก และทางด้านขวามือเป็นที่อยู่ของสัตว์ภายในฟาร์มค่ะ
อาคารสีเหลืองแห่งนี้นอกจากจะเป็นเหมือนที่พักขนาดเล็กของสต๊าฟในฟาร์มแล้ว ก็ยังเป็นโต๊ะประชาสัมพันธ์ไปในตัวด้วย ก่อนที่เราจะเข้าไปสัมผัสกับเหล่าสัตว์ในฟาร์มได้ ต้องมาทำความเข้าใจกฎต่างๆ ของฟาร์ม รวมถึงชำระค่าบริการให้เรียบร้อยก่อนค่ะ
กฎและอัตราค่าบริการได้เขียนเอาไว้ตามป้ายนี้ค่ะ ซึ่งแอดมินจะแปลเป็นภาษาไทยให้ตามด้านล่างนี้นะคะ
กฏหรือคำสัญญาสำหรับขี่ม้า
- กรุณาอย่าวิ่ง
- กรุณาอย่าส่งเสียงดัง
- กรุณาอย่าเข้าหาม้าจากด้านหลัง และกรุณาอย่าจับ
- กรุณาอย่าทำการกระทำใดๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสต๊าฟ
ค่าบริการ
- คอร์สขี่ม้า: 1,000 เยน
- คอร์สขี่ม้า แบบยาว: 3,000 เยน
- คอร์สเรียนขี่ม้าสำหรับผู้เริ่มต้น 30 นาที: 5,000 เยน
- คอร์สเดินป่า 1 ชั่วโมง: 10,000 เยน
- คอร์สเดินป่า 1.5 ชั่วโมง: 15,000 เยน (ไม่มีเขียนบนป้าย)
- คอร์สเดินป่า 2 ชั่วโมง: 18,000 เยน
- คอร์สขี่ม้าแบบอิสระ (สำหรับระดับสูง) กรุณาสอบถามเพิ่มเติม
- คอร์สสุนัขลากเลื่อน 30 นาที: 3,000 เยน (ไม่มีเขียนบนป้าย)
หมายเหตุ: จองคอสล่วงหน้าที่นี่
เนื่องจากว่าวันที่แอดมินไปนั้นมีคนสูญหายไปจากลานสกีใกล้ๆ จึงมีเฮลิคอปเตอร์บินตามหาอยู่ตลอดทั้งวัน จึงไม่สามารถทดลองขี่ม้าได้ เพราะม้าจะตกใจกับเสียงเฮลิคอปเตอร์ ดังนั้นกิจกรรมที่เราจะทำในวันนี้ คือ คอร์สสุนัขลากเลื่อน 30 นาที ในราคา 3,000 เยนค่ะ
เมื่อติดต่อเรื่องการให้บริการของสุนัขลากเลื่อนเรียบร้อยแล้ว สต๊าฟก็พาน้องๆ พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ออกมารับอากาศเย็นๆ แบบนี้ค่ะ เห็นได้ว่านอกจากจะมีตัวใหญ่แล้ว ก็ยังมีสมาชิกตัวน้อยๆ อีกหลายตัวที่กำลังเล่นกันอยู่ทางด้านซ้ายมืออีกด้วย
สมาชิกแต่ละตัวมีชื่อและนามบัตรเป็นของตัวเอง (จะแจกให้เราตอนกลับ) พอรู้จักชื่อกันแล้ว ทางสต๊าฟจะปล่อยให้เราเล่นกับสุนัขเพื่อทำความคุ้นเคยค่ะ
ส่วนคนที่โดนเมินก็จะได้ฟิลลิ่งจากน้องประมาณนี้ ==” สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากรู้จักน้องๆ สมาชิกของฟาร์ม YUMA แต่ละตัว สามารถติดตามได้ที่นี่ (ข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่น)
เมื่อเราทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยกับน้องหมาที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์ของเราทุกตัวแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนการสอนการยืนบนพาหนะที่เราจะให้น้องหมาลากค่ะ เนืองจากว่าเป็นเลื่อนขนาดเล็ก จึงสามารถยืนได้แค่ครั้งละคนนะคะ โดยสต๊าฟจะเป็นคนสอนให้เอง สต๊าฟพยายามสอนเป็นภาษาอังกฤษให้ต่างชาติค่ะ แต่อาจจะไม่ได้เป๊ะ 100% อาศัยท่าทางประกอบเอาค่ะ เพื่อนๆ ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษและภาษามือ สามารถอ่านวิธีการการยืนจากบทความนี้ไปก่อน จะช่วยได้มากนะคะ
วิธีการยืนที่ถูกต้อง
- ยืนกางขาออก แบะปลายเท้าออกด้านนอกประมาณ 45 องศา หรือเท่าที่คิดว่าไม่ผิดร่างกายจนเกินไป โดยให้กลางฝ่าเท้าเหยียบอยู่บนเลื่อนที่เราต้องทรงตัวให้ได้ จะทำให้เท้าล็อคกับเลื่อนได้พอดีโดยไม่หลุดค่ะ
- ย่อเข่าลงพอให้ยืนได้ โดยให้หัวเข่าตั้งอยู่ในแนวเดียวกันกับข้อเท้า ลักษณะที่ได้จะเหมือนกับเรานั่งเก้าอี้ในอากาศค่ะ
การเบรคหรือหยุดเลื่อน
- ด้านหน้าตรงกึ่งกลางระหว่างที่วางเท้าจะมีโครงเหล็กยาวตามแนวเลื่อนอยู่ค่ะ ซึ่งใช้เป็นเบรคของเลื่อน เมื่อต้องการหยุดให้กะระยะก่อนหยุดประมาณ 2 – 3 เมตร
- ค่อยๆ เหยียบเบรคให้เหล็กสัมผัสกับหิมะที่พื้น ซึ่งต้องใช้น้ำหนักค่อนข้างเบาในช่วงแรก แล้วค่อยๆ กดน้ำหนักค่ะ เมื่อน้องหมารู้สึกถึงการเบรค ก็จะค่อยๆ ลดความเร็วลงจนหยุดในที่สุดค่ะ ถ้าน้องหมาหยุดวิ่งเราก็กดเบรคแบบจมหิมะพอดี
ข้อควรระวัง: การประมาณน้ำหนักเท้าเวลาเบรกเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเบรคทันทีด้วยความตกใจจะทำให้น้องหมาบาดเจ็บได้ค่ะ
เอาล่ะค่ะ เมื่อสอนเสร็จแล้ว ทางสต๊าฟจะสาธิตให้ดูทั้งวิธีการยืนและการเบรคในการวิ่งจริง 1 รอบ แล้วก็มาถึงคิวของเราที่ต้องขี่จริงๆ แล้วค่าาา
เส้นทางเป็นการวิ่งรอบๆ ลู่วิ่งในฟาร์ม ไม่ไกลมาก พอให้ซึมซับความรู้สึกประมาณ 3 – 5 นาทีเท่านั้น แต่น้องๆ สุนัขของเราก็ทำงานกันหนักมากนะคะ วิ่งให้หลายคน หลายรอบ 555 หลายคนอาจจะคิดว่า “ไหนว่า 30 นาทีไง?” มันคือ 30 นาทีจริงๆ ค่ะ แต่เราต้องคิดด้วยว่ามันมีขั้นตอนทำความรู้จักกับน้องหมา การสอน การสาธิต และรอบจริงด้วย ทั้งหมดนี้รวมอยู่ด้วยทั้งหมดค่ะ เพราะมาคิดดูแล้ว ให้น้องวิ่งลากคน ตลอด 30 นาที คงลิ้นห้อยกันพอดี
หลังจากการเล่นกับหมาลากเลื่อนแล้ว (แม้จะแป๊บเดียวก็เถอะ) ทางสต๊าฟจะมอบนามบัตรของบัดดี้ของเราให้ไว้เป็นที่ระลึกค่ะ เสร็จแล้วก็ขออนุญาตสต๊าฟเดินดูในฟาร์มบ้าง ส่วนภาพที่เห็นด้านบนนี้เป็นบ้านของน้องหมาค่ะ แหมม นอนแบบกลางหิมะขนาดนี้คงจะเย็นสบายดี (บึ๋ยยย~) มีบ้านแยกเป็นสัดส่วน เป็นครอบครัวเชียวค่ะ
เดินลึกเข้ามาด้านในจะเริ่มเจอคอกม้าค่ะ ขนมันเงาวับ สวยมาก ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เรียนขี่ม้าสมใจ ก็ยังสามารถมาเดินดูม้าได้ แต่ก็อยู่ในช่วงที่เรารู้สึกเสียวๆ หน่อยๆ เพราะเฮลิคอปเตอร์บินวนเวียนทำให้ม้าตะหนกง่าย ก็ต้องระวังกันหน่อย อีกอย่างม้าตัวใหญ่มากกด้วยค่ะ
พอเข้าไปใกล้ๆ ก็จะโดนม้าสะบัดตูดใส่ประมาณนี้ ขนไม่ยาวนะคะ เห็นเดินย่ำหิมะเหมือนไม่หนาวเลย แต่ว่าตัวนี้แผงขนยาวน่าลูบค่ะ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วด้านบนว่ามีกฏอยู่ด้วยว่าห้ามเข้าทางข้างหลังม้านะจ๊ะ ถ้าเห็นม้าสะบัดตูดให้แบบนี้อย่าเข้าใกล้จะดีกว่าค่ะ เพื่อความปลอดภัย
นอกจากการชมม้าแล้ว ก็มาชมบริเวณที่ใช้ในการเรียนขี่ม้าค่ะ เราก็จะได้ใช้เส้นทางนี้ขี่ม้าท่ามกลางหิมะ (ฮือ~ แอดมินอยากขี่ม้ามากเบย) นอกจากนี้ก็เป็นการชมวิวทิวทัศน์บริเวณรอบๆ ฟาร์มค่ะ ถือว่าเป็นอะไรที่เราไม่ค่อยได้เห็นเนอะ
ส่งท้าย
หลังจากเดินเที่ยวแถวๆ Furano Trekking Support YUMA เสร็จแล้ว ก็ไปยังเป้าหมายต่อไปในเมืองฟุราโนะกันค่ะ แต่ว่าต้องอดใจรอในตอนหน้านะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า
อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวลานสกี New Furano Prince Hotel & หมู่บ้าน Ningle Terrace เมือง Furano
เทียบราคาโรงแรมที่พักในฮอกไกโด
รีวิวเที่ยวช่วงเทศกาลหิมะในฮอกไกโด (Hokkaido)
· แพลนเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว 5 วัน ช่วงเทศกาลหิมะ
· บินภายในประเทศกับ Vanilla Air (โตเกียว – ซัปโปโร)
· SUSUKINO ICE WORLD งานเทศกาลน้ำแข็งใจกลางเมือง
· Sapporo Snow Festival งานเทศกาลหิมะซัปโปโร
· Otaru Music Box Museum Main Hall พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ
· Otaru Music Box Hall Number 2 Antique Museum
· Otaru Sakaimachi Street & Kita no Ryoba
· Otaru Snow Light Path Festival งานเทศกาลหิมะโอตารุ
· วิธีการเดินทาง Sapporo – Furano – Biei ด้วยรถบัสและรถไฟ
· เที่ยวเมืองบิเอะ (Biei) แช่ออนเซ็นกลางหิมะที่ Shirogane Onsen
· บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond (Aoi-ike) ที่เมืองบิเอะ (Biei)
· เที่ยวเมืองฟุราโนะ (Furano) เล่นสุนัขลากเลื่อนฟาร์ม YUMA
· เที่ยวลานสกี New Furano Prince Hotel & หมู่บ้าน Ningle Terrace
· เที่ยวตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ในเมืองซัปโปโร
· ลานเบียร์ Sapporo Beer Garden & พิพิธภัณฑ์ Sapporo Beer Museum
· ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office)
· Seafood Buffet NANDA อิ่มไปกับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล
· สวนศิลปะซัปโปโร (Sapporo Art Park)
บทความเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) ดูทั้งหมด »
· คู่มือท่องเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)
· รีวิวเที่ยวซัปโปโร (Sapporo)
· รีวิวเที่ยวโอตารุ (Otaru)
· รีวิวเที่ยวฮาโกดาเตะ (Hakodate)
· ไปฮอกไกโดพักที่ไหนดี? แนะนำที่เที่ยวและที่พักฮอกไกโดตามฤดูกาล
· เตรียมตัวไปเที่ยวฮอกไกโดในฤดูหนาวแบบติดลบ
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com