เนื่องจากเมืองไทยประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กันทุกสารทิศ คนไทยจึงตื่นตัวกับเรื่องหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นพอสมควร ซึ่งหลายคนก็นึกถึงญี่ปุ่นขึ้นมาทันใด เพราะมีเป็นประเทศที่คนนิยมใส่หน้ากากอนามัยและยังมีสินค้าให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่า “จะเลือกใช้หน้ากากอนามัยแบบไหนดี?” เช่น คนที่มาเที่ยวช่วงไข้หวัดใหญ่หรือไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ระบาดก็ต้องป้องกันระดับไหน หรือคนที่อยากซื้อกลับไทยไปใช้ป้องกันฝุ่น PM2.5 ก็ต้องใช้แบบไหนถึงจะดี เพื่อประหยัดงบประมาณ
แอดมินจึงได้เลือกซื้อหน้ากากอนามัยญี่ปุ่นมา 6 ชนิด ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา โดยมีจุดขายและการใช้งานแตกต่างกันออกไป รวมถึงความสามารถในการกันฝุ่น PM2.5 และไวรัสขนาดเล็กอื่นๆ และหลังจากที่แอดมินใช้ทุกวันเพื่อทดสอบดูแล้วก็เลยเอามารีวิวให้รับชมกัน น่าจะช่วยให้ใครหลายคนตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นนะคะ
รีวิว 6 หน้ากากอนามัยญี่ปุ่น
快適ガード贅沢仕立て
(Kaiteki Guard Zeitaku Shitate)
- แบรนด์: 白元アース (Hakugen Earth)
- ราคาโดยประมาณ: 5 ชิ้น 400 เยน
- เหมาะสำหรับคนที่ผิวบอบบาง: เช่น ผิวระคายเคืองง่าย หรือผิวแห้งจนโดนอะไรนิดหน่อยก็เจ็บ รวมถึงคนที่มักจะเจ็บหูตอนใช้หน้ากากอนามัย รุ่นนี้จึงมาพร้อมสรรพคุณที่อ่อนโยนต่อหูและผิวหน้าเป็นพิเศษ
รีวิวคุณสมบัติและการใช้งาน
ตรงที่เกี่ยวหูจะฟูๆ นุ่มๆ และรอยต่อระหว่างหน้ากากก็เนียนดี กระชับหน้าระดับหนึ่ง เนื้อไม่แข็ง ไม่เป็นขุยง่าย ใส่เป็นเวลานานๆ ก็ไม่รู้สึกเจ็บนะ ใส่ได้ทั้งวัน แม้จะมีฟิวเตอร์ถึง 4 ชั้นแต่กลับบางเฉียบไม่อึดอัด สามารถรองรับฝุ่น PM2.5 รวมถึงไวรัสที่มีขนาดเล็กขนาด 0.1 ไมครอนอีกด้วย แต่อย่าลืมเลือกขนาดที่เหมาะกับตนเองนะคะ ถ้าเลือกไม่กระชับหน้ามันก็กันฝุ่นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
快適ガードプロ プリーツタイプ
(Kaiteki Guard Pro Pleat Type)
- แบรนด์: 白元アース (Hakugen Earth)
- ราคาโดยประมาณ: 5 ชิ้น 400 เยน
- เหมาะสำหรับคนใส่แว่นโดยเฉพาะ: คนที่มักจะมีปัญหาเรื่องแว่นมัวเมื่อใส่หน้ากากอนามัยหรือต้องคอยเช็ดแว่นบ่อยๆ เลนส์มัวขึ้นมาทันที่ที่หายใจ เป็นต้น
มีโฟมรองตรงหน้าบน
รีวิวคุณสมบัติและการใช้งาน
ส่วนที่เป็นเหล็กดัดตามรูปจมูกเรามีโฟมรูปทรงเหมือนกับแว่นตาให้อากาศถ่ายเท ทำให้ความชื้นไม่ขึ้นไปที่แว่น และด้านล่างมีการเย็บให้เข้ารูปมากขึ้น เพื่อให้พอดีกับรูปหน้า เนื้อฟิลเตอร์หนา แอบแข็งนิดหน่อย สายเป็นแบบแบนใส่แล้วไม่เจ็บ แต่ใส่นานๆ มีเมื่อยๆ หูนิดหน่อย
โดยส่วนตัวคิดว่าการมีอะไรมาวางบนสันจมูกถึง 2 ชิ้น มันมีความรู้สึกเหมือนให้เราต้องมองปลายจมูกตัวเองค่ะ มันเมื่อยจมูก เกะกะไปนิดเวลาจะใส่จะถอด เหมือนมีอะไรทิ่มแทงตลอดเวลา ไม่เจ็บนะคะ แต่มันน่ารำคาญ แอดมินว่าใส่นั่งทำงานหรือเท่าที่จำเป็นได้ค่ะ แต่ถ้าต้องเคลื่อนที่เยอะๆ ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ตัวนี้รองรับฝุ่น PM2.5 และไวรัสที่มีขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนเช่นกันค่ะ
小顔にみえマスク
(Kogao ni Mie Mask)
- แบรนด์: ユニ・チャーム (Unicharm)
- ราคาโดยประมาณ: 7 ชิ้น 300 เยน
- เหมาะสำหรับสาวๆ รักสวยรักงาม: หญิงสาวมักมีปัญหาไม่กี่อย่างกับหน้ากากอนามัย และหนึ่งในนั้นคือการใส่แล้วหน้าบาน! หรือรู้สึกว่าไม่สวยและเหมือนจะป่วยตลอดเวลา หน้ากากชนิดนี้ทำมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ คือใส่แล้วดูหน้าเล็กขึ้นมาทันไดจ้า
มีส่วนโค้งเข้ากับโครงหน้า
รีวิวคุณสมบัติและการใช้งาน
คุณสมบัติเรื่องการใช้งานนั้นเป็นอย่างที่เขาโฆษณาเอาไว้เลยว่าใส่แล้วหน้าดูเล็ก พอลองใส่แล้วจริงๆ มันคือหน้ากากอนามัยที่ดีไซส์มาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ คือเราจะไม่ให้เนื้อฟิลเตอร์ส่วนเกินออกมาจากปลายคางเลย เหมือนห่อหน้าเอาไว้นั่นเอง
ข้อเสียคือฟิวเตอร์ดูบางกว่า 2 ตัวด้านบนอยู่มากค่ะ ส่วนข้อดีของจุดนี้คืออากาศรั่วไหลน้อย แม้จะไม่ได้โฟกัสไปที่ฝุ่น PM2.5 แต่ด้านหลังเขียนเอาไว้ว่ารองรับ ฉะนั้นซื้อได้ อิ อิ แต่ตัวนี้ใส่ทั้งวันมีเจ็บหูนิดหน่อย
超立体マスク
(Cho-rittai Mask)
- แบรนด์: ユニ・チャーム (Unicharm)
- ราคาโดยประมาณ: 7 ชิ้น 400 เยน
- เหมาะสำหรับคนกลัวเชื้อโรค: ซึ่งมีอยู่หลายประเภท บางคนสุขภาพอ่อนแอป่วยง่าย แต่บางคนคือระแวงมาก (ฮา~) การจะใช้หน้ากากอนามัยสักชิ้นก็ดูเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทีเดียว อย่างไรก็ตามที่แนะนำตัวนี้ เนื่องจากว่าเขาหยิบยกเรื่องการป้องกันเชื้อโรคขึ้นมาเป็นจุดขาย เราจึงคิดว่าเหมาะกับคนที่ค่อนข้างระมัดระวังเชื้อโรคเป็นอย่างมากค่ะ
รีวิวคุณสมบัติและการใช้งาน
ด้านคุณสมบัตินั้นสามารถกรองเชื้อโรคได้หลายระดับ เนื่องจากว่าทำมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จริงๆ แล้วมีเชื้อเชื้อโรคต่างๆ นาๆ เขียนเอาไว้ที่ห่อด้วย แต่แอดมินบอกได้ว่าเชื้อโรคที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าฝุ่น PM2.5 เสียอีก เพราะมีอนุภาคเล็กไปจนถึง 0.1 ไมครอนเลยทีเดียว แน่นอนว่าเรื่องของการป้องกัน PM2.5 นั้นอยู่ในออฟชั่นที่รองรับอยู่แล้วค่ะ
แต่ความแตกต่างคือรูปทรงที่ดีไซน์ออกมาเพื่อป้องกันเชื้อโรคจึงมีรูปทรงที่แนบติดไปกับใบหน้า คล้ายหน้ากากครึ่งหน้า สายคล้องหูเป็นทางยาวแนวเดียวกับฟิลเตอร์รอยต่อจึงเรียบเนียน อีกทั้งยังนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี การหายใจทำได้สะดวก ไม่มีติดขัด เป็นตัวหนึ่งที่เหมาะกับการทำไปใช้ป้องกัน PM2.5 และการมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงไข้หวัดระบาดเหมาะมาก
จากการใช้งานจริง ตัวหน้ากากสามารถทำงานได้ตามประสิทธิภาพที่กล่าวมา แต่เมื่อใส่นานเกินกว่า 6 ชั่วและมีการดึงเข้าดึงออกบ่อยๆ จะเริ่มมีอากาศเจ็บที่ใบหูเล็กน้อย (นิดเดียวเท่านั้น) เพราะหน้ากากออกแบบมาให้ใส่แนบติดหน้ากากการดึงรั้งบ่อยๆ ย่อมเกิดผลข้างเคียงเป็นธรรมดา โดยรวมแอดมินแนะนำตัวนี้ค่ะ สำหรับเชื้อโรคทั้งหลาย หรือว่าคนที่ต้องทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเยอะๆ รวมถึงคนท้องที่ต้องระวังพวกเชื้อโรคเป็นพิเศษอีกด้วยค่ะ
三次元高密着マスクナノ
(Sanjigen Ko-mitchaku Mask Nano)
- แบรนด์: KOWA
- ราคาโดยประมาณ: 5 ชิ้น 500 เยน
- เหมาะสำหรับคนกลัวฝุ่น: คนที่ไม่ชอบฝุ่น กลัวสิวขึ้น แพ้ฝุ่น หรือแม้กระทั่งไวรัสจะเหมาะกับรุ่นนี้ค่ะ นอกจากนี้แล้วยังเหมาะกับคนที่ต้องเจอกับฝุ่นมากๆ อย่างทำงานต่างจังหวัด การขับรถกลางแจ้ง และอื่นๆ เป็นต้น
มีฟิลเตอร์ด้านข้างและด้านใต้
รีวิวคุณสมบัติและการใช้งาน
หน้ากากรุ่นนี้เน้นไปที่การดับจับฝุ่น เกสรดอกไม้ ไปจนถึงไวรัสขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน คนที่ต้องการระวังเรื่องฝุ่น PM2.5 หรือเชื้อไวรัสต่างๆ แต่ไม่อยากรู้สึกอึดอัด เขาจึงดีไซน์ออกมาให้มีคุณสมบัติที่อยู่ตรงกลางระหว่างหน้ากากปกติและหน้ากากอนามัยแบบครอบ (เหมือน N95) ค่ะ ภายนอกดีไซน์ไม่แตกต่างกัน ทว่าด้านข้างแล้วด้านใต้จะมีฟิลเตอร์ที่คอยปิดช่องโหว่ที่แก้มและใต้คางให้อีกชั้นค่ะ
ในส่วนของการใช้งานค่อนข้างดี (เมื่อมันเข้ารูปแล้ว) สายคล้องหูนิ่ม ดึงบ่อยก็ไม่เจ็บใบหู ตัวฟิลเตอร์นาโนที่ให้มาก็ทำเนื้อฟิลเตอร์ได้นิ่มมาก แต่มีปัญหาเรื่องขอบที่เพิ่มเข้ามานี่แหละค่ะ ตอนที่มาในห่อก็เก็บพับมาแบบเรียบร้อยดี แต่พอจะใช้ ฟิลเตอร์ที่ควรตั้งขึ้นกลับไม่ตั้งขึ้น ต้องแงะด้านล่างสักหน่อย พอด้านล่างตั้งตรง ด้านข้างก็จะกางออกได้องศาพอดีค่ะ ต้องจัดทรงขยับไปมากว่าจะได้องศาที่ตั้งใจไว้ ใส่ตลอดแล้วเดินไปโน่นนี่ไม่มีปัญหาค่ะ แต่คนที่ต้องถอดเข้าๆ ออกๆ ขอบมันก็ตั้งๆ หุบๆ รู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แอดมินว่าขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่าว่าขี้รำคาญ หรือใส่ๆ ถอดๆ บ่อยหรือไม่ค่ะ
三次元のどに潤いマスク
(Sanjigen Nodo ni Uruoi Mask)
- แบรนด์: KOWA
- ราคาโดยประมาณ: 3 ชิ้น 375 เยน
- เหมาะสำหรับคนที่จมูกแห้ง: คนที่อยู่ในห้องที่อากาศแห้งๆ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นช่วงที่อากาศหนาว ตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงโรงแรมส่วนใหญ่จะเปิดฮีตเตอร์ สิ่งที่ตามมาคือจมูกแห้งทำให้หายใจไม่สะดวก จึงเหมาะสำหรับคนที่เจอความลำบากเช่นนี้โดยเฉพาะค่ะ
รีวิวคุณสมบัติและการใช้งาน
จริงๆ แล้วหน้ากากอนามัยทั่วไปสามารถสร้างความชื้นได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับคนที่ไม่เคยใส่จะรู้สึกอึดอัดนิดๆ ซึ่งหน้ากากอนามัยตัวนี้มีจุดเด่นที่การระบายอากาศได้ดีและยังทำความชื้นให้จมูกเราอีกด้วย ส่วนประกอบของหน้ากากชนิดนี้มี 2 ชิ้น ได้แก่ ส่วนฟิลเตอร์หน้ากาก และแผ่นทำความชื้นที่สอดในหน้ากาก
แผ่นทำความชื้นก็ชื้นสมชื่อ แต่เวลาจับไม่เปียก ใส่จริงไม่เปียกจมูก หายใจโล่งและเย็นนิดๆ ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบอากาศถ่ายเท ในทางปฏิบัติแล้วเขาแนะนำให้ใช้เวลานอนค่ะ เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่เราอยู่กับอากาศแห้งๆ ของฮีตเตอร์นานกว่ากลางวัน การใช้งานทั่วไปประสิทธิภาพดี ใส่แล้วหลับสนิททั้งคืน ส่วนสายคล้องไม่แข็ง รวมทั้งไม่มีโครงเหล็กด้านบนเหมือนรุ่นอื่นๆ ทำให้ไม่มีปัญหากับการเปลี่ยนท่านอนตะแคงซ้ายขวา
ช่วงกลางวัน เรียกว่าใช้ได้แต่ไม่เหมาะ (สำหรับญี่ปุ่นฤดูหนาว) เพราะอากาศข้างนอกเย็นอยู่แล้ว และตัวทำความชื้นก็เย็นนิดๆ ทำให้เรารู้สึกเย็นไปหน่อย แต่สำหรับคนขี้ร้อน หรือว่าการนำไปใช้ที่ไทยเรียกว่าเหมาะมาก เพราะอากาศร้อนตลอดทั้งปี หากใส่หน้ากากอนามัยที่ไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยค่ะ ติดอย่างเดียวว่าไม่รองรับการป้องกัน PM2.5 แต่กันลม เกสรดอกไม้และอากาศแห้งได้เท่านั้น
สรุป
เอาล่ะค่ะหวังว่าคุณสมบัติต่างๆ ของหน้ากากอนามัยข้างต้นจะทำให้เพื่อนๆ ติดสินใจซื้อได้ถูกประเภทนะคะ อีกทั้งระวังเรื่องขนาดด้วยค่ะ ซึ่งโดยปกติจะแบ่งเป็นไซส์เด็ก ไซส์เล็ก (สำหรับเด็กโตหรือผู้หญิง) ไซส์ธรรมดา ซื้อมาผิดชีวิตเปลี่ยนจริงๆ เพราะอาจจะกันไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ หรือใส่แล้วอึดอัดเกินไปเพราะไม่พอดีกับหน้า สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า
บทความแนะนำ
- ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี?…20 ไอเดียของฝากน่าซื้อจากญี่ปุ่น ของยอดฮิตที่ห้ามพลาด!
- 20 ร้านสำหรับขาช้อปและร้านขายของฝากที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น
- “Matsumoto Kiyoshi” ร้าน Drugstore ญี่ปุ่นที่ขาช้อปต้องขอแวะ!
ค้นหาโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com