คู่มือเที่ยวโตเกียว (Tokyo Guide)
ข้อมูลและรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในกรุงโตเกียวที่ห้ามพลาด ทั้งในเมืองและรอบๆ แหล่งช้อปปิ้งเด็ดๆ ตลอดจนสภาพอากาศ วิธีการเดินทางและที่พัก สำหรับการวางแผนท่องเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง
ที่เที่ยวแนะนำในโตเกียว
สถานที่ท่องเที่ยวภายในโตเกียวนั้นมีหลากหลายให้เลือกเที่ยวชม ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางวัฒนธรรม วัดและศาลเจ้า สวนสนุก แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้ง ภายในเมืองยังมีการคมนาคมโดยรถไฟบนดินและใต้ดินที่ครอบคลุม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วในราคาที่ไม่แพง
ย่านต่างๆ ในโตเกียวนั้นค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากมีเวลาท่องเที่ยวไม่มาก สามารถเลือกเที่ยวชมเฉพาะย่านที่ชอบก็ได้ ในบทความนี้จึงได้ยกย่านที่เที่ยวโตเกียวซึ่งได้รับความนิยมมานำเสนอ เพื่อให้เห็นภาพรวมของย่านนั้นๆ ก่อน จะได้เป็นแนวทางในการตัดสินใจว่าควรจะวางแผนไปเที่ยวที่ไหนดีบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านต่างๆ อาทิ
- ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
- ย่านชิบุย่า (Shibuya)
- ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
- ย่านอาซากุสะ (Asakusa)
- ย่านอุเอโนะ (Ueno)
- ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara)
- ย่านอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro)
- ย่านกินซ่า (Ginza)
- ย่านรปปงหงิ (Roppongi)
- เกาะโอไดบะ (Odaiba)
- สถานีโตเกียว (Tokyo Station) เป็นต้น
รวมทั้งสถานที่สำหรับชมวิวจากมุมสูงบนหอคอย ได้แก่ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และ โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมหานครแห่งนี้
ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
ย่านชินจูกุ (Shinjuku / 新宿) เป็นย่านศูนย์กลางของกรุงโตเกียวที่เต็มไปด้วยอาคารสูงระฟ้า อาทิ ศาลาว่าการกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Building) ที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิวได้ และยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมโดยมีรถไฟผ่านกว่า 10 สาย บริเวณรอบๆ สถานีรถไฟ Shinjuku เป็นที่ตั้งของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงแทบทุกแบรนด์ของญี่ปุ่น ส่วนย่านคาบุกิโจ (Kabuikicho) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสถานีก็ยังเป็นแหล่งรวมสถานบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงสวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden) ซึ่งเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว และก็ยังมีแลนด์มาร์คใหม่ Cross Shinjuku Vision ที่ฉายเจ้าแมวสามสีสุดน่ารักบนจอขนาดใหญ่
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● คู่มือท่องเที่ยวชินจูกุ (Shinjuku)
● รวมบทความเที่ยวชินจูกุ (Shinjuku)
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku / 原宿) มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งวัฒนธรรม และแหล่งธรรมชาติในใจกลางเมือง ร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นญี่ปุ่นในด้านแฟชั่น มีเครปญี่ปุ่นเป็นของขึ้นชื่อ หากมาในย่านนี้ต้องไม่พลาดแวะขอพรที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) ต่อด้วยการช้อปปิ้งที่ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street) หากเป็นสายสตรีทก็ต้องมาช้อปรองเท้าผ้าใบและเสื้อผ้าแฟชั่นที่ถนนฮาราจูกุ (Harajuku Steet) ส่วนในฝั่งของโอโมเตะซันโด (Omotesando) นั้นเรียกได้ว่าเป็นถนนแห่งร้านแบรนด์เนมซึ่งเป็นย่านสำหรับวัยผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย หรือจะแวะพักผ่อนหย่อนใจเดินชมสวนโยโยงิ (Yoyogi Park) ก็ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● คู่มือท่องเที่ยวฮาราจูกุ (Harajuku)
● รวมบทความเที่ยวฮาราจูกุ (Harajuku)
ย่านชิบูย่า (Shibuya)
ย่านชิบูย่า (Shibuya / 渋谷) มีแลนมาร์คที่มีชื่อเสียง คือ ห้าแยกขนาดใหญ่ที่มีคนเดินข้ามมหาศาล และรูปปั้นฮาจิโกะซึ่งเป็นสุนัขยอดกตัญญู ย่านนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของแหล่งช็อปปิ้งของหนุ่มสาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านแฟชั่น ที่นี่มีศูนย์การค้าขนาดกลางและขนาดใหญ่นับสิบแห่ง อาทิ Shibuya Scramble Square, SHIBUYA109, Shibuya Hikarie, MIYASHITA PARK, PARCO รวมทั้งร้านค้าและร้านอาหารตามถนนและตรอกซอกซอยต่างๆ อีกมากมายจบนับไม่ถ้วน เป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● คู่มือท่องเที่ยวชิบูย่า (Shibuya)
● รวมบทความเที่ยวชิบูย่า (Shibuya)
ย่านอาซากุสะ (Asakusa)
ย่านอาซากุสะ (Asakusa / 浅草) เป็นย่านที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นโบราณและความเป็นสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน แลนมาร์คที่สำคัญในย่านนี้ คือ โคมไฟสีแดงที่หน้าวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือที่เรียกกันติดปากว่าวัดอาซากุสะ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน และ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) ซึ่งเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูง 634 เมตร ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 2012 นอกจากนั้นแล้วย่านอาซากุสะยังมีถนนช็อปปิ้งเก่าแก่ ร้านขนมญี่ปุ่น และศูนย์การค้าให้เลือกเที่ยวชม รวมไปถึงการเช่าชุดกิโมโนเดินเที่ยว หรือจะล่องเรือในแม่น้ำสุมิดะ (Sumida) ชมทัศนียภาพก็ได้ เป็นย่านที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งหากได้มาเที่ยวโตเกียว
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● คู่มือท่องเที่ยวอาซากุสะ (Asakusa)
● รวมบทความเที่ยวอาซากุสะ (Asakusa)
ย่านอุเอโนะ (Ueno)
ย่านอุเอโนะ (Ueno / 上野) เป็นแหล่งที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโตเกียวที่มีความหลากหลาย โดยประกอบไปด้วย สวนอุเอโนะ (Ueno Park) ซึ่งได้รับความนิยมในการมาชมซากุระบาน, สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo) ที่มีแพนด้าอาศัยอยู่, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะอีกหลายแห่ง ตลอดจนวัดและศาลเจ้า นอกจากนั้น ย่านอุเอโนะก็ยังมีตึกม่วงหรือร้าน TAKEYA ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าราคาถูกและปลอดภาษียอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว และตลาดอะเมะโยโกะ (Ameyoko Market) ที่มีร้านค้ามากมาย รวมถึงตลาดสด เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักช้อปที่ต้องการหาสินค้าราคาไม่แพงก็ว่าได้
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● รวมบทความเที่ยวอุเอโนะ (Ueno)
ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara)
ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara / 秋葉原) เป็นแหล่งขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของญี่ปุ่น มีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าดังๆ อาทิ Yodobashi Camera, Labi, Sofmap, Laox นอกจากนั้นแล้วยังเป็นแหล่งรวมร้านต่างๆ สำหรับนักเล่นเกมส์ ผู้ที่ชื่นชอบในการ์ตูนญี่ปุ่นและวงไอดอลสาวๆ อาทิ Radio Kaikan, Akihabara Crossfield ร้านขายชุดคอสเพลย์ อีกทั้งยังมีคาเฟ่ชื่อดัง รวมถึงร้านเมดคาเฟ่ (Maid Cafe) อีกหลากหลายร้านซึ่งจะมีสาวเสิร์ฟแต่งชุดน่ารักๆ คอยให้บริการ
※หมายเหตุ: GUNDUM CAFE ได้ปิดให้บริการเดือนมกราคม 2022
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● รวมบทความเที่ยวอากิฮาบาระ (Akihabara)
ย่านรปปงหงิ (Roppongi)
ย่านรปปงหงิ (Roppongi / 六本木) เป็นย่านที่มีสีสันอย่างมากในช่วงกลางคืน เป็นแหล่งรวมของผับ บาร์ และสถานบันเทิงยามราตรีที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนในตอนกลางวันก็ยังมีให้ที่ให้เที่ยวเช่นกัน โซนท่องเที่ยวดังๆ ของย่านนี้มีอาทิ รปปงหงิฮิลส์ (Roppongi Hills) ซึ่งเป็นหมู่อาคารคอมเพล็กซ์ที่ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร จุดชมวิวที่ความสูง 238 เมตรบนตึกโมริทาวเวอร์ (Mori Tower) รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ สถานีโทรทัศน์อาซาฮี (TV Asahi) ส่วนอีกโซนหนึ่งก็คือ โตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown) ซึ่งเป็นหมู่อาคารคอมเพล็กซ์เช่นกัน และล่าสุดก็คือ Azabudai Hills ซึ่งเป็นที่ตั้งของ teamLab Borderless (※จะเปิดให้บริการ 9 กุมภาพันธ์ 2024) นอกจากนั้น ในทางทิศตะวันออกของย่านรปปงหงิก็ยังเป็นที่ตั้งของหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● รวมบทความเที่ยวรปปงหงิ (Roppongi)
เกาะโอไดบะ (Odaiba)
เกาะโอไดบะ (Odaiba / お台場) เป็นเกาะที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ตั้งอยู่ในอ่าวโตเกียว โดยเป็นแหล่งรวมด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ มีสวนสนุกในธีมต่างๆ ตั้งอยู่หลายที่ และยังมีจุดชมวิวซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว รวมถึงแลนด์มาร์คที่เป็นที่รู้จักหลายแห่ง เช่น สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge), เทพีเสรีภาพขนาดย่อม, หุ่นกันดั้มยักษ์ (Gundam) ที่หน้าห้าง DiverCity Tokyo Plaza, สถานีฟูจิทีวี (Fuji TV), พิพิธภัณฑ์ศิลปะ teamLab Planets TOKYO, สวนสนุกในร่ม Immersive Fort Tokyo (※เปิดให้บริการ 1 มีนาคม 2024) หรือจะนั่งรถไฟลอยฟ้า Yurikamome ชมรอบๆ เกาะโอไดบะก็ได้
※ชิงช้าสวรรค์ที่ Palette Town ได้ปิดให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคม 2022
※พิพิธภัณฑ์ศิลปะ teamLab Planets TOKYO ได้ขยายวันเปิดไปจนถึงสิ้นปี 2027
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● รวมบทความเที่ยวโอไดบะ (Odaiba)
ย่านอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro)
ย่านอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro / 池袋) เป็นย่านเอนเตอร์เทนเมนท์อีกแห่งที่ได้รับความนิยมในโตเกียว มีห้างสรรพสินค้าอาทิ Tobu, Seibu ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง และศูนย์ศิลปะมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Space) ซึ่งตั้งอยู่รอบๆ สถานี Ikebukuro ไม่ไกลนักยังมี อาคารซันไชน์ซิตี้ (Sunshine City) ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วย SKY CIRCUS Sunshine 60 Observatory จุดชมวิวบนความสูง 240 เมตร, สวนสนุก Namja Town และ J-World Tokyo ของค่ายเกมส์ Namco และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซันไชน์ (Sunshine Aquarium)
ย่านกินซ่า (Ginza)
ย่านกินซ่า (Ginza / 銀座) เป็นย่านการค้าหรูของกรุงโตเกียว เต็มไปด้วยช็อปแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารอันหรูหรา รวมถึงร้านขนมหวานและขนมญี่ปุ่นเก่าแก่ อาคารต่างๆ ในย่านนี้ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกได้อย่างลงตัว มีแลนด์มาร์คที่สำคัญคือ ห้างกินซ่าวาโกะ (Ginza Wako) ซึ่งมีหอนาฬิกาสไตล์ยุโรปของแบรนด์ SEIKO ตั้งอยู่ด้านบน นอกจากนั้นในช่วงเวลา 12.00-17.00 น. ของทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ยังมีการปิดถนน Chuo Dori ให้เป็นถนนคนเดินอีกด้วย
ย่านซึกิจิ (Tsukiji)
ย่านซึกิจิ (Tsukiji / 築地) เดิมเป็นที่ตั้งของ ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งปลาที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ตัวตลาดแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดในและตลาดนอก แต่ในปัจจุบัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 ส่วนของตลาดในที่เป็นร้านค้าอาหารทะเลที่มีการประมูลปลาทูน่านั้นได้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ณ ตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu Fish Market) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานี Shijo-mae ส่วนที่ยังเปิดทำการอยู่ในย่านซึกิจินั้นก็คือ ตลาดซึกิจินอก (Tsukiji Outer Market) ที่จะเป็นแหล่งร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ซาชิมิ และไข่หวานย่าง นอกจากนั้น ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ Tsukiji ยังมีวัดซึกิจิ ฮงกันจิ (Tsukiji Hongan-ji Temple) ให้เยี่ยมชม
สถานีโตเกียว (Tokyo Station)
สถานีโตเกียว (Tokyo Station / 東京駅) ตั้งอยู่ในเขตมารุโนะอุจิ (Marunouchi) เป็นสถานีรถไฟหลักของกรุงโตเกียวซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 ตัวอาคารภายนอกมีสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิกที่งดงามและโดดเด่นด้วยอิฐสีแดงซึ่งได้รับการอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบัน ภายในยังเป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนมและของฝากอีกมากมาย ที่ห้ามพลาดสำหรับคนที่ชอบของน่ารักๆ และสินค้าจากการ์ตูนก็คือ Tokyo Character Street ส่วนด้านบนของสถานียังเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูและห้าง Daimaru สำหรับบริเวณรอบๆ สถานีโตเกียวก็ยังมีศูนย์การค้าอีกหลายแห่ง เช่น KITTE, Marunouchi Building เป็นต้น
บทความแนะนำ:
● รวมบทความเที่ยวสถานีโตเกียว (Tokyo Station)
พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)
พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace / 皇居) เป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นและราชวงศ์ ตัวพระราชวังรายล้อมด้วยกำแพงหินและคูน้ำ มีสะพานที่สำคัญคือ สะพานนิจูบาชิ (Nijubashi Bridge) แต่ไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมนอกจากช่วงโอกาสพิเศษ เช่น วันปีใหม่และวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระจักรพรรดิ หรือต้องจองทัวร์ผ่านทางเว็บไซต์ของพระราชวัง (ไม่มีค่าใช้จ่าย) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมมาถ่ายรูปของสะพานนิจูบาชิหรือสะพานแว่นตาที่สามารถมองเห็นจากด้านนอก รวมถึงการเยี่ยมชมในส่วนสวนพระราชวังอิมพีเรียลด้านตะวันออก (Imperial Palace East Gardens) ซึ่งเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นและเป็นที่ตั้งเดิมของปราสาทเอโดะ
ย่านซุยโดบาชิ (Suidobashi) / โคราคุเอ็น (Korakuen)
ย่านซุยโดบาชิ (Suidobashi / 水道橋) หรือ โคราคุเอ็น (Korakuen / 後楽園) มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ โตเกียวโดมซิตี้ (Tokyo Dome City) ซึ่งประกอบด้วย Tokyo Dome สเตเดียมที่ใช้จัดการแข่งขันเบสบอลและจัดคอนเสิร์ต สวนสนุก Tokyo Dome City Attractions ที่มีทั้งรถไฟเหาะและชิงช้าสวรรค์ให้เล่น นอกจากนั้นยังมี LaQua ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านสปาและร้านเสริมความงาม รวมถึงสวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอ็น (Koishikawa Korakuen) ซึ่งเป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ของโตเกียว
ย่านยานากะกินซ่า (Yanaka Ginza)
ย่านยานากะกินซ่า (Yanaka Ginza / 谷中銀座) เป็นถนนช้อปปิ้งใกล้กับสถานี JR Nippori บรรยากาศของร้านค้าที่นี่จะออกแนวย้อนยุคหน่อยๆ โดยมีจุดดึงดูดก็คือน้องแมวเหมียวที่พบได้ตามป้ายของร้านค้ารวมทั้งสินค้าที่จำหน่าย รวมทั้งบันไดยูยาเกะดันดัน (Yuyake Dandan) ที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเช่น วัดเท็นโนจิ (Tennoji Temple) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่จำลองมาจากองค์พระใหญ่ของเมืองคามาคุระ (Kamakura) และ สุสานยานากะ (Yanaka Cemetery) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมในโตเกียว
บทความแนะนำ:
● รีวิวเที่ยวยานากะกินซ่า (Yanaka Ginza)
ย่านจิยูกาโอกะ (Jiyugaoka)
ย่านจิยูกาโอกะ (Jiyugaoka / 自由が丘) เป็นย่านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของคาเฟ่ ร้านขนมหวานและเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่รวมร้านขายสินค้าเก๋ๆ ไว้มากมายทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่ง ถนนที่ขึ้นชื่อของย่านนี้ก็คือ ถนน Green street ซึ่งมีร้านค้าอยู่สองฝั่งและตรงกลางมีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ผู้คนไม่แออัด เหมาะสำหรับคนที่จะมาเดินเล่นชิลๆ รวมทั้งมาแวะทานของหวานอร่อยๆ ที่ร้านป่าขนมหวาน Jiyugaoka Sweets Forest ซึ่งมีร้านขายขนมให้เลือกหลากหลายชนิด
บทความแนะนำ:
● รีวิวเที่ยวจิยูกาโอกะ (Jiyugaoka)
โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท (Tokyo Disney Resort)
โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท (Tokyo Disney Resort) ที่จริงแล้วตั้งอยู่ที่จังหวัดชิบะ (Chiba) แต่อยู่ใกล้กับโตเกียว ใช้เวลานั่งรถไฟมาจากสถานี Tokyo เพียง 15 – 30 นาที ภายในดิสนีย์ รีสอร์ท แบ่งออกเป็น 2 สวนสนุก ประกอบด้วย โตเเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ซึ่งเน้นไปทางธีมการ์ตูนของดิสนีย์ ออกแนวน่ารักๆ ส่วนโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) จะเน้นความโรแมนติกและการผจญภัยทางน้ำ ทั้งสองสวนสนุกนี้ต้องซื้อบัตรเข้าอย่างละใบ หากต้องการเที่ยวให้อย่างเต็มอิ่ม ควรแยกเที่ยวที่ละวัน นอกจากนั้นแล้วยังมีโรงแรมอยู่ภายในดิสนีย์ รีสอร์ทอีกด้วย
บทความแนะนำ:
● รวมบทความเที่ยวโตเเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
● รวมบทความเที่ยวโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
สถานที่ท่องเที่ยวรอบโตเกียว
รอบๆ กรุงโตเกียวยังมีเมืองน่าเที่ยวต่างๆ อีกมากมายซึ่งใช้เวลาเดินทางจากใจกลางโตเกียวเพียง 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง โดยสามารถเที่ยวได้ใน 1 วันแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ อาทิ ไปชมวิวริมโรแมนติกที่เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama), ไปไหว้พระใหญ่ที่เมืองคามาคุระ (Kamakura), ไปล่องเรือโจรสลัดที่ฮาโกเน่ (Hakone) ไปชมภูเขาไฟฟูจิที่คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ไปชมเมืองมรดกโลกและธรรมชาติที่นิกโก้ (Nikko), ไปเที่ยวเมืองเอโดะน้อยที่คาวาโกเอะ (Kawagoe) แวะชมวัดนาริตะซัน (Naritasn Shishoji Temple) ใกล้สนามบินนาริตะ (Narita Airport) ที่จังหวัดชิบะ (Chiba) เป็นต้น
บทความแนะนำ:
● รวมบทความเที่ยวรอบโตเกียว (Tokyo)
สถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดใหม่ 2023 – 2024
Warner Bros. Studio Tour Tokyo – The Making of Harry Potter
—เปิด 16 มิถุนายน 2023: สวนสนุกในธีมภาพยนตร์ Harry Potter รวมถึง Fantastic Beasts ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นใหม่ในบริเวณเดิมของสวนสนุกโทชิมะเอ็น (Toshimaen) บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ภายในมีการจำลองฉากต่างๆ ในภาพยนตร์ เช่น ห้องโถงใหญ่โรงเรียนฮอกวอตสต์ ตรอกไดแอกอน ให้ได้ถ่ายรูปอย่างจุใจ
※ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าเท่านั้น ไม่มีจำหน่ายที่หน้าสวนสนุก [สามารถซื้อตั๋วได้ที่ klook.com]
Toyosu Senkyaku Banrai
—เปิด 1 กุมภาพันธ์ 2024: Toyosu Senkyaku Banrai เป็นแหล่งเอนเตอร์เทนเมนท์แห่งใหม่ในธีมย้อนยุคสมัยเอโดะ ที่จะเปิดใกล้กับตลาดปลา Toyosu Fish Market ภายในแบ่งเป็น 2 โซน คือ Toyosu Offsite Edomae Market ที่รวมร้านค้าที่นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ จากตลาดปลาโทโยสุ และอีกโซนก็คือ Tokyo Toyosu Manyo Club ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำแบบเซนโต (Sento) โดยมีทั้งบ่อน้ำแบบ Open-air ที่เป็นน้ำพุร้อนจาก Hakone-Yugawara รวมถึงบริการนวดและสปา
teamLab Borderless: MORI Building DIGITAL ART MUSEUM
—เปิด 9 กุมภาพันธ์ 2024: teamLab Borderless พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลสุดอลังการที่เคยเปิดที่ย่านโอไดบะได้ปิดให้บริการไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 และมีกำหนดจะกลับมาเปิดใหม่ที่ Azabudai Hills ในย่านรปปงหงิ โดยจะเริ่มเปิดขายตั๋วเข้าชมตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2024
[สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ klook.com]
Immersive Fort Tokyo
—เปิด 1 มีนาคม 2024: Immersive Fort Tokyo สวนสนุกในร่มแบบเสมือนจริงแห่งใหม่ของย่านโอไดบะ มาในธีมซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการแสดงละครแบบอินเทอร์แอคทีฟในลอนดอนในช่วงปี 2000 มีเครื่องเล่น 12 ชนิด ภายในมีการตกแต่งภายในสไตล์ยุโรปโดยเป็นการรีโนเวทจากห้าง Venus Fort ที่ได้ปิดตัวลงเมื่อปี 2022
[สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ klook.com]
Fantasy Springs ของ Tokyo DisneySea
—เปิด 6 มิถุนายน 2024: Fantasy Springs เป็นโซนใหม่ของ Tokyo DisneySea ประกอบไปด้วย 3 ธีม ได้แก่ Frozen Kingdom จากเรื่อง Frozen, Rapunzel’s Forest จากเรื่อง Rapunzel และ Peter Pan’s Neverland จากเรื่อง Peter Pan
เกี่ยวกับกรุงโตเกียว
โตเกียว (Tokyo / 東京) เป็นเมืองหลวงและเป็นหนึ่งใน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ ติดกับอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay / 東京湾) ในภูมิภาคคันโต (Kanto / 関東) บนเกาะฮอนชู (Honshu / 本州) ซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “มหานครโตเกียว (Tokyo Metropolis / 東京都)”
ประวัติความเป็นมา
ชื่อ “โตเกียว (Tokyo / 東京)” นั้นมีความหมายว่า “เมืองหลวงทางตะวันออก” เดิมมีชื่อว่า “เอโดะ (Edo / 江戸)” ซึ่งแปลว่า “ปากแม่น้ำ” ก่อตั้งโดยโทกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) เมื่อปี ค.ศ. 1603 ก่อนที่จะมีการย้ายเมืองหลวงมาที่เอโดะ (Edo) และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “โตเกียว (Tokyo)” อย่างที่ใช้ในปัจจุบันในช่วงการปฏิรูปเมจิเมื่อปี ค.ศ. 1868
สัญลักษณ์ที่สำคัญของโตเกียวมีอยู่หลายอย่างและล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง อาทิ โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) ซึ่งเป็นหอคอยสีส้มๆ แดงๆ, โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) ซึ่งเป็นหอคอยสีขาวที่สร้างใหม่, โคมไฟยักษ์สีแดงที่หน้าวัดเซนโซจิ (Sensoji Temple), ทางม้าลายที่ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya) เป็นต้น
เขตการปกครองของโตเกียว
กรุงโตเกียวมีขนาดของพื้นที่ประมาณ 2,190 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศญี่ปุ่น แต่มีประชากรอาศัยอยู่รวมกันทั้งหมดมากกว่า 13 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศจากทั้งหมด 47 จังหวัด
ถือได้ว่ากรุงโตเกียวเป็นเมืองขนาดใหญ่และมีประชากรหนาแน่นแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีศูนย์กลางของเมืองอยู่ที่เขตชินจูกุ (Shinjuku) และมีศาลาว่าการกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government) เป็นศูนย์กลางของการบริหาร โดยใช้ระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งสามารถแบ่งเขตต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้
● พื้นที่ 23 เขต (23 Ward Area)
ประกอบด้วย 23 เขตที่ลงท้ายด้วย -ku /区 เป็นเขตสำคัญและเป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆ ของโตเกียว เฉพาะในเขตนี้มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 9 ล้านคนเลยทีเดียว เช่น Shinjuku-ku, Shibuya-ku เป็นต้น
● พื้นที่ฝั่งทามะ (Tama Area)
เขตทางฝั่งตะวันตกของโตเกียว ประกอบด้วย 26 เมือง (City) ที่ลงท้ายด้วย -shi / 市 และ 3 เมืองเล็ก (Town) ที่ลงท้ายด้วย machi / 町 และ 1 หมู่บ้าน (Village) ที่ลงท้ายด้วย -mura / 村
● หมู่เกาะ (Islands)
หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกก็รวมอยู่ในโตเกียวเช่นกัน ได้แก่
- หมู่เกาะอิซุ (Izu Islands) ประกอบด้วย 2 เมืองเล็ก (Town) ลงท้ายด้วย –machi / 町 และ 6 หมู่บ้าน (Village) ที่ลงท้ายด้วย -mura / 村
- หมู่เกาะโองาซาวาระ (Ogasawara Islands) ประกอบด้วย 1 หมู่บ้าน (Village) คือ Ogasawara-mura (小笠原村)
รวมทั้งหมดแล้วโตเกียวประกอบด้วย 23 เขต (Ward [-ku /区]), 26 เมือง (City [-shi / 市]), 5 เมืองเล็ก (Town [machi / 町]) และ 8 หมู่บ้าน (Village [-mura / 村])
ข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก metro.tokyo.jp
สภาพอากาศและฤดูกาลของโตเกียว
สภาพอากาศโตเกียวประกอบด้วย 4 ฤดูกาลอันมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน หากชอบอากาศแบบเย็นสบายและบรรยากาศธรรมชาติสวยๆ แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นช่วงดอกไม้ต่างๆ อย่างดอกบ๊วยและซากุระบานกำลังผลิบาน
หากชอบบรรยากาศโรแมนติก ก็แนะนำเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้ตามสถานที่ต่างๆ และตามสองข้างทางถนนได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีแดงสวยงาม หรือจะเป็นช่วงฤดูหนาวตอนปลายปีที่จะมีการประดับไฟต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสอย่างอลังการ
ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)
เดือนมีนาคม – พฤษภาคม
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 – 20 องศา
อากาศในช่วงฤดูนี้เย็นสบายและจะเริ่มร้อนขึ้นในเดือนพฤษภาคม เป็นฤดูที่คนนิยมมาท่องเที่ยว มีไฮไลท์อยู่ที่การชมดอกซากุระซึ่งจะบานช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
บทความแนะนำ:
● ตารางพยากรณ์ซากุระบานที่ญี่ปุ่น 2022 ที่ญี่ปุ่น แบบละเอียดยิบ
● จุดชมซากุระบานยอดนิยมในใจกลางโตเกียว (Tokyo) ที่ห้ามพลาด!
ฤดูร้อน (Summer)
เดือนมิถุนายน – สิงหาคม
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 – 30 องศา
อากาศในช่วงฤดูร้อนค่อนข้างคล้ายกับที่ประเทศไทย และจะร้อนมากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม สามารถแต่งตัวด้วยเสื้อแขนสั้นสบายๆ ในช่วงฤดูนี้ยังมีฝนตกชุกอีกด้วยในช่วงเดือนมิถุนายน
ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn)
เดือนกันยายน – พฤศจิกายน
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 – 20 องศา
ช่วงเดือนกันยายนเป็นช่วงมรสุมซึ่งจะมีพายุไต้ฝุ่นเข้า จากนั้นอากาศจะเย็นลงในช่วงเดือนตุลาคม และใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม
บทความแนะนำ:
● 58 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต (Kyoto) พร้อมตารางพยากรณ์ 2023
ฤดูหนาว (Winter)
เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 – 10 องศา
เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นและอาจมีหิมะตกได้ ช่วงคริสต์มาสจะมีการประดับไฟตามสถานที่ต่างๆ ในโตเกียวได้บรรยากาศโรแมนติก อากาศจะหนาวมากในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
บทความแนะนำ:
● แต่งตัวเที่ยวญี่ปุ่น+สภาพอากาศ 12 เดือน ไปญี่ปุ่นแต่งกายอย่างไร?
การเดินทางท่องเที่ยวในโตเกียว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วในโตเกียว โดยวิธีการที่แนะนำก็คือการใช้รถไฟ เพราะมีเส้นทางที่หลากหลาย เข้าถึงย่านต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ และยังมีพาสหรือบัตรเหมาสุดคุ้มซึ่งจะช่วยประหยัดค่าโดยสารให้เลือกใช้อีกด้วย
รถไฟในโตเกียว
รถไฟที่ให้บริการในโตเกียวนั้นมีอยู่หลายสาย แต่สำหรับการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ 23 เขตซึ่งอยู่ภายในใจกลางเมืองนั้น จะใช้อยู่หลักๆ 3 บริษัทด้วยกัน ได้แก่
- Tokyo Metro Subway (รถไฟใต้ดิน)
- Toei Subway (รถไฟใต้ดิน)
- Japan Railway (JR) (รถไฟบนดิน)
โดยสามารถตรวจสอบวิธีการเดินทาง ตารางเวลารถไฟและเส้นทางได้ที่ Google Map หรือเว็บไซต์ เช่น
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● วิธีการซื้อตั๋วรถไฟญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
● วิธีการขึ้นรถไฟในโตเกียวไม่ให้ผิด
● เรื่องเล่าของรถไฟในโตเกียวที่ไม่มีในหนังสือ
จองรถไฟ & พาสในญี่ปุ่น
ใส่โค้ด BDOCTJPTRAIN ลดเพิ่ม 7%
สูงสุด 650.- เมื่อจองขั้นต่ำ 7,500.-
ใช้ได้ทั้ง JR Pass, Shinkansen, Keisei Skyliner และรถไฟด่วนต่างๆ
จองได้ตั้งแต่ 18 – 31 ต.ค. 2024
※โค้ดมีจำนวนจำกัด
พาสสำหรับเที่ยวด้วยรถไฟในโตเกียวที่แนะนำ
Tokyo Subway Ticket
ประเภท | ราคาตั๋ว (ผู้ใหญ่) | ราคาตั๋ว (เด็ก) |
---|---|---|
24-hour Ticket | 800 เยน | 400 เยน |
48-hour Ticket | 1,200 เยน | 600 เยน |
72-hour Ticket | 1,500 เยน | 750 เยน |
- ใช้ได้กับรถไฟสาย Tokyo Metro และ Toei Subway
- จำหน่ายให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
- ซื้อได้ทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ Klook.com หรือซื้อที่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ, ร้าน BIC CAMERA เป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติม: Tokyo Subway Ticket (ภาษาไทย)
Tokyo Metro 24-hour Ticket
ราคาตั๋ว (ผู้ใหญ่) | ราคาตั๋ว (เด็ก) |
---|---|
600 เยน | 300 เยน |
- ใช้ได้เฉพาะรถไฟสาย Tokyo Metro เท่านั้น
- สามารถซื้อได้เลยที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟ
ข้อมูลเพิ่มเติม: Tokyo Metro 24-hour Ticket (ภาษาไทย)
Tokyo Metropolitan District Pass (Tokunai Pass)
ราคาตั๋ว (ผู้ใหญ่) | ราคาตั๋ว (เด็ก) |
---|---|
760 เยน | 380 เยน |
- รถไฟสาย JR (ภายใน 23 เขตของโตเกียว ไม่รวมจองที่นั่ง)
- สามารถซื้อได้เลยที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟ
ข้อมูลเพิ่มเติม: Tokyo Metropolitan District Pass (Tokunai Pass) (ภาษาไทย)
Tokyo 1-Day Ticket (Tokyo Free Kippu)
ราคาตั๋ว (ผู้ใหญ่) | ราคาตั๋ว (เด็ก) |
---|---|
1,600 เยน | 800 เยน |
- ใช้งานได้ 1 วันสำหรับ
- รถไฟสาย JR (ภายใน 23 เขตของโตเกียว ไม่รวมจองที่นั่ง)
- รถไฟ Tokyo Metro และ Toei Subway
- Nippori-Toneri Liner
- Tokyo Sakura Tram (Toden Arakawa Line)
- รถบัส Toei Bus (ยกเว้นรถบัสกลางคืนและรถที่ต้องจองที่นั่ง)
- สามารถซื้อได้เลยที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟ
ข้อมูลเพิ่มเติม: Tokyo 1 Day Ticket (ภาษาไทย)
JR Tokyo Wide Pass
ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1 ต.ค. 2023
ประเภท | ราคา |
---|---|
ผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป) | 15,000 เยน |
เด็ก (อายุ 6 – 11 ปี) | 7,500 เยน |
- เหมาะสำหรับเที่ยวรอบๆ โตเกียว เช่น คาวากุจิโกะ, นิกโก้, กาล่า ยูซาว่า, โยโกฮาม่า
- ใช้งานได้ 3 วัน ทั้งสาย JR รวมถึงชินคันเซ็น และรถไฟเอกชนบางสายที่เข้าร่วม
- ซื้อได้ทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ Klook.com หรือซื้อได้ตาม JR Ticket Office หรือ Travel Service Center ในสนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ และสถานี JR ได้แก่ Tokyo, Shinagawa, Ueno, Shinjuku, Shibuya, Ikebukuro, Yokohama, Mito
ข้อมูลเพิ่มเติม: JR TOKYO Wide Pass บัตรรถไฟเที่ยวรอบโตเกียวสุดคุ้มใน 3 วัน
บัตรเติมเงิน (IC Card) ที่นิยมใช้
- Suica (ออกโดย JR-EAST)
- PASMO (ออกโดย Tokyo Metro)
※โดยหลักๆ ทั้ง 2 บัตรสามารถใช้กับรถไฟในโตเกียวได้เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงบริษัทผู้ให้บริการบัตร และการคืนบัตร
※สามารถซื้อและเติมเงินได้เลยที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟ (มีค่ามัดจำบัตร 500 เยน)
※หากมีบัตร IC Card ในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ICOCA ของภูมิภาคคันไซ ก็สามารถนำมาใช้ที่โตเกียวได้เช่นกัน
※เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตบัตร IC Card ขาดแคลน จึงได้งดจำหน่ายบัตร Suica (สีเขียว) และ PASMO ชั่วคราว
※คนที่ต้องการจะซื้อบัตร IC Card ใหม่ในญี่ปุ่น สามารถซื้อได้เฉพาะ Welcome Suica (สีแดง) และ PASMO PASSPORT (ลายซานริโอ้) ที่สามารถใช้งานได้ 28 วัน ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวระยะสั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการทำบัตร Suica Card ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ
รถเช่า
การเช่ารถขับเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับการเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวที่อยู่รอบโตเกียว เช่น คาวากุจิโกะ นิกโก้ ชิสึโอกะ แถมยังสามารถเช่าและคืนรถคนละจุดได้ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6,000 เยนต่อวัน (ประมาณ 1,000 กว่าบาท) สามารถหารถเช่าในญี่ปุ่นได้จากเอเจนซี่ที่จะหารถจากหลายๆ บริษัทมาเทียบราคากัน เช่น Klook.com และบริษัทรถเช่าโดยตรง อาทิ Toyota Rent a Car, Nissan Rent a Car, Nippon Rent-A-Car, Orix Rent a Car, Times Car Rental, ToCoo! เป็นต้น
บทความแนะนำ: ข้อมูลเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
การเดินทางมาเที่ยวโตเกียว
จากประเทศไทยไปยังโตเกียวทางเครื่องบินโดยเที่ยวบินตรงนั้นใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ส่วนขากลับนั้นใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงซึ่งใช้เวลามากกว่าขาไปเพราะต้องบินต้านลม
สนามบินนานาชาติในโตเกียวมีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน จะเลือกลงที่สนามบินแห่งไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับเที่ยวบินที่ให้บริการ และความสะดวกของผู้โดยสารเอง เช่น ราคาตั๋วเครื่องบิน เวลาที่ถึงสนามบิน ทำเลของที่พัก เป็นต้น
สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport)
สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport / 羽田空港 / ตัวย่อ: HND) เป็นสนามบินนานาชาติแห่งแรกของโตเกียว ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองรวดเร็ว มีรถไฟออกทุก 3-5 นาที ค่าโดยสารนั่งรถเข้าเมืองมีราคาถูก และยังสะดวกต่อการต่อเครื่องบินภายในประเทศไปยังจังหวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่น แต่มีเพียงสายการบินแบบ Full Service เท่านั้นที่มีเที่ยวบินตรงในเส้นทางนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการเดินทางเข้าโตเกียวจากสนามบินฮาเนะดะ
สนามบินนาริตะ (Narita Airport)
สนามบินนาริตะ (Narita International Airport / 成田国際空港 / ตัวย่อ: NRT) สนามบินนาริตะเป็นสนามบินแห่งใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชิบะ (Chiba) ห่างจากใจกลางเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณประมาณ 60 กิโลเมตร ทำให้ใช้เวลาเดินทางระหว่างสนามบินและเมืองโตเกียวมากกว่าที่ฮาเนดะ แต่มีสายการบินมาลงมากกว่า นอกจากสายการบินแบบ Full Service ที่มีเที่ยวบินตรงแล้ว ก็ยังถึงสายการบินแบบ Low Cost ได้แก่ ไทยแอร์เอเชียเอกซ์ (Thai AirAsia X), ซิปแอร์ โตเกียว (ZIPAIR Tokyo), แอร์เจแปน (AirJapan) ให้บริการอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการเดินทางเข้าโตเกียวจากสนามบินนาริตะ
สายการบินที่มีเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพและโตเกียว
สายการบินที่มีเที่ยวบินตรง
- การบินไทย (Thai Airways) [ดูรีวิว]
- เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) [ดูรีวิว]
- ออลนิปปอน แอร์เวย์ (All Nippon Airways) [ดูรีวิว]
- ไทยแอร์เอเชียเอกซ์ (Thai AirAsia X)
- ซิปแอร์ โตเกียว (ZIPAIR Tokyo)
- แอร์เจแปน (AirJapan)※เริ่มบินจากไทยตั้งแต่ 9 กุมภาพันธ์ 2024
สายการบินที่ต้องไปแวะต่อเครื่องที่ประเทศอื่นๆ
- สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines)
- มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines)
- เวียดนาม แอร์ไลน์ (Vietnam Airlines)
- คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific)
- แอร์มาเก๊า (Air Macau)
- ไชน่าแอร์ไลน์ (China Airlines)
- แอร์ไชน่า (Air China)
- ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ (China Eastern Airlines)
- ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ (China Southern Airlines)
- โคเรียนแอร์ (Korean Air)
- เอเชียน่าแอร์ไลน์ (Asiana Airlines)
ข้อมูลเพิ่มเติม: เส้นทางบินไปญี่ปุ่น & สายการบินไปญี่ปุ่น แบบบินตรงและแวะพัก
ย่านที่พักแนะนำในโตเกียว
ย่านที่พักในโตเกียวมีหลายแห่งเนื่องจากเป็นเมืองใหญ่และมีการเดินทางที่สะดวกและหลากหลาย ซึ่งย่านที่แนะนำก็มีดังต่อไปนี้
- ย่านชินจูกุ (Shinjuku): เป็นย่านจุดศูนย์กลางของเมือง ติดกับสถานีรถไฟใหญ่ (ไม่มีชินคันเซ็นผ่าน) ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง มีรถไฟด่วนวิ่งตรงจากสนามบินนาริตะ
- ย่านอุเอโนะ (Ueno): เป็นย่านแหล่งช้อปปิ้ง ที่พักราคาไม่แพง มีรถไฟด่วนวิ่งตรงจากสนามบินนาริตะ รวมทั้งมีสถานีรถไฟชินคันเซ็นที่จะเดินทางขึ้นไปทางเหนือ
- ย่านอาซากุสะ (Asakusa): เป็นย่านที่ตั้งของวัดชื่อดังของโตเกียวและเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เต็มไปด้วยโฮสเทล เกสเฮาส์ และโรงแรมราคาประหยัด
- สถานีโตเกียว (Tokyo): เป็นศูนย์รวมของชินคันเซ็นที่จะไปทางตะวันตกอย่าง โอซาก้า หรือจะขึ้นเหนือไปทางภูมิภาคโทโฮคุ รวมทั้งมีรถไฟด่วนวิ่งตรงจากสนามบินนาริตะ
บทความแนะนำ:
● [รีวิว] Sutton Place Hotel Ueno โรงแรมใกล้สถานี JR ย่านอุเอโนะ
● [รีวิว] 3 เรียวกัง 3 สไตล์ใจกลางเมืองโตเกียว กับกิจกรรมท่องเที่ยว
ค้นหาและเทียบราคาที่พักในโตเกียว
บทความเที่ยวโตเกียว
- คู่มือเที่ยวโตเกียว (Tokyo) แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวสุดฮิต
- วิธีการดูแผนที่รถไฟในโตเกียว & การเที่ยวโตเกียว ขึ้นรถไฟไม่ให้ผิดสาย
- JR TOKYO Wide Pass บัตรรถไฟเที่ยวรอบโตเกียวสุดคุ้มใน 3 วัน
› การเดินทาง
- สนามบินนาริตะ (Narita Airport) และวิธีเดินทางเข้าเมืองโตเกียว
- สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) และวิธีเดินทางเข้าเมืองโตเกียว
- [รีวิว] สายการบิน ANA กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (NRT)
- [รีวิว] สายการบิน Thai Airways กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (NRT)
- [รีวิว] สายการบิน Japan Airlines กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (HND)
- [รีวิว] Keisei Skyliner เดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว
› เที่ยวจุดชมวิวและสวนสาธารณะ
- [รีวิว] โตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE) + TOKYO Solamachi
- [รีวิว] สวนอุเอโนะ (Ueno Park) เที่ยวสวนสาธารณะแห่งวัฒนธรรม
- [รีวิว] สวนอุเอโนะ (Ueno Park) ชมอุโมงค์ซากุระที่สวนใจกลางโตเกียว
- [รีวิว] สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง
- [รีวิว] สวนชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ชมซากุระแรกแย้ม
- [รีวิว] สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ชมซากุระริมโค้งน้ำ
- [รีวิว] สวนสุมิดะ (Sumida Park) ชมซากุระที่สวนเลียบแม่น้ำ
- [รีวิว] สวนโชวะ เมมโมเรียล พาร์ค (Showa Memorial Park) ชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลัง
- [รีวิว] ภูเขาทาคาโอะ (Mt. Takao) ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ชานกรุงโตเกียว
- [รีวิว] เที่ยวโตเกียวกลางคืน ชมสีสันของแสงไฟในยามค่ำ
› เที่ยววัดและศาลเจ้า
- [รีวิว] ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine / Meiji Jingu) ที่ย่านฮาราจูกุ
- [รีวิว] วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดอาซากุสะชื่อดังของโตเกียว
- [รีวิว] ศาลเจ้าคาเมโดะ เท็นจิน (Kameido Tenjin Shrine) ชมดอกวิสทีเรีย
- [รีวิว] ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine) ชมดอกอาซาเลียหลากสี
- [รีวิว] ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ชมซากุระที่ศาลเจ้าเก่าแก่
› เที่ยวแหล่งช้อปปิ้ง
- [รีวิว] ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market) เที่ยวแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมย่านอุเอโนะ
- [รีวิว] ยานากะกินซ่า (Yanaka Ginza) เที่ยวย่านช้อปปิ้งเก๋ๆ ในใจกลางโตเกียว
- [รีวิว] จิยูกาโอกะ (Jiyugaoka) เดินเที่ยวชิลๆ แวะชิมของหวานที่ Sweets Forest
› เที่ยวสวนสนุก
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com