โรงแรมที่พักในญี่ปุ่นมีให้เลือกหลายราคา ตั้งแต่ที่พักราคาประหยัดสำหรับเน้นเฉพาะการค้างคืน โรงแรมราคาปานกลางซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไปจนถึงโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความหรูหราซึ่งบางแห่งก็มีบ่อแช่น้ำแร่ในห้องพัก สำหรับรูปแบบโดยทั่วไปของโรงแรมและที่พักในญี่ปุ่นสามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้
ค้นหาโรงแรมและที่พักในญี่ปุ่น
ใส่ชื่อเมืองหรือชื่อโรงแรม พร้อมข้อมูลเข้าพักเพื่อค้นหาดีลราคาพิเศษ
ข้อมูลที่พักแต่ละประเภทในญีปุ่น
แนะนำข้อมูลพร้อมรีวิวโรงแรมและที่พักทั่วญี่ปุ่น
รูปแบบโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น
โรงแรมแคปซูล (Capsule Hotel)
โรงแรมแคปซูลเป็นโรงแรมที่ถือได้ว่ามีราคาถูกสุดในบรรดาโรงแรม เพราะห้องพักมีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กติดๆ กันเป็นแถว ขนาดของแต่ละห้องก็มีพื้นที่เพียงสำหรับที่นอน ความสูงของห้องพักโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1 เมตรจึงไม่สามารถยืนได้ เหมาะสำหรับการนอนค้างคืนเท่านั้น เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหาที่นอนค้างคืนในราคาที่ประหยัด และคนที่ต้องการหาที่พักแบบฉุกเฉินในกรณีที่ไม่สามารถหาที่พักได้ เพราะโรงแรมแคปซูลส่วนใหญ่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงและไม่ต้องจองล่วงหน้า
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักของโรงแรมแคปซูลโดยปกติแล้วประกอบด้วยที่นอนสำหรับ 1 คน หมอน ผ้าห่ม โคมไฟ นาฬิกาปลุก ปลั๊กไฟ บางแห่งอาจมีโทรทัศน์ขนาดเล็กติดตั้งไว้ด้านในห้องด้วย สามารถนำสัมภาระขนาดใหญ่ไปเก็บในตู้ล็อคเกอร์ที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ ซึ่งโดยมากจะอยู่ตรงบริเวณหน้าห้องพัก ส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำนั้นก็เป็นแบบห้องน้ำรวม สำหรับของใช้ต่างๆ นั้นก็ขึ้นอยู่กับบริการของแต่ละโรงแรม ซึ่งอาจมีให้ฟรีหรือต้องเสียเงินเพิ่มเติมจากค่าที่พัก
ราคาที่พักแบบโรงแรมแคปซูล (Capsule Hotel)
โฮสเทล (Hostel) และ เกสเฮาส์ (Guest House)
โฮสเทลและเกสเฮาส์เป็นที่พักราคาประหยัดซึ่งพบได้ในย่านท่องเที่ยวทั่วญี่ปุ่น เป็นรูปแบบที่พักซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) หรือนักท่องเที่ยววัยหนุ่มสาวที่ต้องการที่พักซึ่งมีความสะดวกสะบายแต่มีราคาประหยัดกว่าโรงแรมทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นกลุ่มเพื่อน เพราะสามารถนอนในห้องเดียวกันได้หลายคน
ห้องพักของโฮสเทลและเกสเฮาส์โดยทั่วไปนั้นมีให้เลือก 2 แบบ คือ “แบบห้องส่วนตัว (Private Room)” รองรับผู้เข้าพัก 1-2 คน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และ “แบบห้องพักรวม (Dormitory)” ซึ่งมีเตียงนอนหลายเตียงอยู่ในห้องพักเดียวกันและอาจต้องแชร์ห้องพักร่วมกับผู้เข้าพักอื่นๆ ที่เราไม่รู้จัก ส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำนั้นก็เป็นแบบใช้ร่วมกัน ทำให้ราคาห้องพักประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก
โฮสเทลและเกสเฮาส์ในปัจจุบันนั้นถือได้ว่าเป็นที่พักที่มีการตกแต่งอย่างมีสไตล์ บรรยากาศดี มีห้องครัวส่วนกลางทำให้สามารถทำอาหารเองได้ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โทรทัศน์ ห้องนั่งเล่น ซึ่งมักจัดอยู่ในพื้นที่ส่วนรวม ทำให้สามารถมาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เข้าพักจากชาติต่างๆ ได้
ราคาที่พักแบบโฮสเทลและเกสเฮาส์
โรงแรมธุรกิจ (Business Hotel) / โรงแรมราคาประหยัด
โรงแรมธุรกิจเป็น “โรงแรมมาตรฐานระดับ 3 ดาว” ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในญี่ปุ่น ทำเลที่ตั้งของโรงแรมมักอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟตามเมืองต่างๆ เพื่อความสะดวกในการเดินทางสำหรับนักธุรกิจรวมถึงนักท่องเที่ยว ซึ่งเครือโรงแรมที่รู้จักดีก็มี Toyoko Inn, APA Hotels & Resorts, Super Hotel, Hotel Villa Fontaine, Hotel Mystays เป็นต้น ห้องพักของโรงแรมธุรกิจนั้นมีขนาดไม่กว้างขวางนัก แต่ก็สามารถเข้าพักได้อย่างสบาย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักโดยส่วนใหญ่ประกอบด้วย โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องฟอกอากาศ กาต้มน้ำ รวมถึงห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำในตัว และอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำ เช่น สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าขนหนู ตลอดจนเสื้อคลุมสำหรับใส่นอน เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบที่พักที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ก็ยังมีโรงแรมราคาประหยัดระดับ 2 – 3 ดาว ซึ่งภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกและของใช้ต่างๆ เพียบพร้อม ซึ่งบริการต่างๆ นั้นแทบไม่ต่างจากโรงแรมธุรกิจ เพียงแต่ไม่ได้เป็นเครือโรงแรมที่มีชื่อเสียงและมีสาขาอยู่หลายที่เท่านั้น
ราคาที่พักแบบโรงแรมธุรกิจ
โรงแรมสไตล์ตะวันตก (Western-style Hotels) / โรงแรมหรู
โรงแรมสไตล์ตะวันตกมีการตกแต่งอย่างสวยงามทันสมัย ห้องพักมีเตียงนอนยกสูงแบบตะวันตก ขนาดห้องกว้างกว่า มีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกหลากหลายกว่าโรงแรมธุรกิจ (Business Hotel) และมีห้องอาหารในโรงแรมซึ่งสามารถมาดินเนอร์ในตอนค่ำได้ รวมระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่าโรงแรมรูปแบบอื่นๆ แน่นอนว่าย่อมมาพร้อมกับค่าที่พักที่สูงกว่านั่นเอง
ราคาโรงแบบสไตล์ตะวันตก
เรียวกัง (Ryokan) / โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักของเรียวกังนั้นมีไม่ต่างจากโรงแรมสมัยใหม่ทั่วไป แต่บางแห่งที่มีความเก่าแก่มากๆ อาจไม่มีห้องน้ำหรือห้องอาบน้ำในห้องพัก แต่ถ้าเป็นเรียวกังที่สร้างใหม่ก็จะมีห้องน้ำและอ่างอาบน้ำในห้องพักให้พร้อม นอกจากนี้ที่เรียวกังยังมีอาหารเย็นและอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นให้บริการ และมีชุดยูกาตะซึ่งเป็นชุดคลุมสไตล์ญี่ปุ่นให้ผู้เข้าพักได้สวมใส่ เรียวกังเรียกได้ว่าเป็น “ที่พักที่ไม่ควรพลาด” สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังญี่ปุ่น ซึ่งจะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศและบริการในแบบฉบับญี่ปุ่นที่จะทำให้ประทับใจอย่างแน่นอน
ราคาที่พักแบบเรียวกัง
บ้านพักตากอากาศ (Pension)
บรรยากาศของบ้านพักตากอากาศโดยทั่วไปจะให้ความรู้สึกที่เป็นกันเองมากกว่า มีห้องพักส่วนตัวและของใช้ส่วนตัวให้ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องนั่งเล่นอาจเป็นแบบส่วนรวมเหมือนกับโฮสเทลหรือเกสเฮาส์ ซึ่งอาจจะต้องแชร์กับเจ้าของบ้านและผู้เข้าพักคนอื่นๆ หรือบางแห่งอาจเปิดให้เช่าบ้านทั้งหลังไปเลยก็ได้เช่นกัน
ราคาที่พักแบบบ้านพักตากอากาศ
มินชุคุ (Minshuku)
ที่พักแบบมินชุคุอาจจะไม่ได้หรูหราและเป็นสัดส่วนเท่าเรียวกัง (Ryokan) แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมไว้ให้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ทั้งนี้บ้านโบราณในญี่ปุ่นมักกั้นห้องด้วยฉากซึ่งไม่สามารถเก็บเสียงได้ ผู้เข้าพักจึงควรระวังเรื่องการส่งเสียงดัง นอกจากนั้นยังมีการกำหนดช่วงเวลาในการใช้ห้องอาบน้ำและการรับประทานอาหารอีกด้วย
ราคาที่พักแบบมินชุคุ
Airbnb (แอร์บีเอ็นบี)
- บ้านพักทั้งหลัง (Entire home) เป็นบ้านทั้งหลังหรืออพาร์ตเมนต์ทั้งห้อง ไม่ต้องแชร์ห้องพักร่วมกับคนอื่น ซึ่งคล้ายกับการเข้าพักในโรงแรม แต่มีพื้นที่ครัวในการทำอาหารได้อย่างสะดวก
- ห้องส่วนตัว (Private room) เป็นที่พักที่มีห้องนอนของตัวเองแต่ใช้พื้นที่บางส่วนร่วมกันกับเจ้าของบ้าน หรือผู้เข้าพักคนอื่น
- ห้องรวม (Shared room) เป็นห้องที่แชร์ร่วมกับผู้เข้าพักคนอื่นทั้งห้องนอนและพื้นที่ส่วนอื่น มีความเป็นส่วนตัวน้อยที่สุด แต่ก็สามารถประหยัดค่าที่พักได้มากขึ้น
ในแต่ละที่พักนั้นก็มีรายละเอียดและกฎในการเข้าพักที่แตกต่างกัน หากมีข้อสงสัยก็สามารถแช็ทผ่านเว็บ Airbnb ไปถามเจ้าของบ้านซึ่งเรียกว่าโฮสได้ ในการจองนั้นต้องรอทางโฮสยืนยันก่อน ทาง Airbnb จะกันวงเงินบัตรเครดิต แล้วส่งอีเมลมาแจ้ง การจองจึงจะสมบูรณ์
ราคาที่พักของ Airbnb
ข้อควรระวังในการจองที่พักกับ Airbnb
ทั้งนี้ในการจองที่พักกับ Airbnb มักมีปัญหา เช่น โฮสยกเลิกที่พักหรือที่เรียกว่า “โดนเท” ที่พักจริงไม่ตรงกับรูปในเว็บไซต์ ห้องพักสกปรก โฮสไม่ยอมมาทำความสะอาด ติดต่อโฮสไม่ได้ เป็นต้น จึงควรพิจารณาเลือกจองที่พักกับโฮสที่ได้เป็น “เจ้าของที่พักดีเด่น (Superhost)” ซึ่งเป็นโฮสที่มีความน่าชื่อถือ รวมถึงพิจารณาจากรีวิวของผู้เข้าพัก ตลอดจนความรวดเร็วในการตอบคำถามของโฮส ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ที่พักอื่นๆ ในญี่ปุ่น
นอกจากรูปแบบโรงแรมที่พักที่กล่าวมาแล้ว ในญี่ปุ่นนั้นยังมีสถานที่อื่นๆ ซึ่งสามารถค้างคืนได้และเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการค้างคืนชั่วคราวในราคาที่ประหยัด เช่น โซนที่จัดไว้ของสนามบินซึ่งสามารถนอนพักได้ฟรี ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ หรือมังงะคาเฟ่ (คาเฟ่หนังสือการ์ตูน) ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการนั่งรถบัสกลางคืน (Overnight Bus) ซึ่งจะออกเดินทางในช่วงกลางคืนและจะมาถึงที่หมายในตอนเช้า เป็นต้น
คำแนะนำในการจองที่พักที่ญี่ปุ่น
1. เปรียบเทียบราคาห้องพักกับเว็บไซต์ต่างๆ
โรงแรมและที่พักโดยทั่วไปในญี่ปุ่นนอกเหนือจาก Airbnb.com สามารถจองได้โดยตรงกับเว็บไซต์ของที่พักนั้นๆ หรือผ่านเว็บไซต์เอเจนท์ที่รับจอง เช่น Agoda.com, Booking.com, Trip.com, Expedia.co.th, Hotels.com เป็นต้น หากต้องการเปรียบเทียบราคาของโรงแรมที่พักจากเว็บไซต์ต่างๆ เหล่านี้ สามารถเช็คได้ที่นี่
2. เลือกจองที่พักกกับเอเจนท์ที่น่าเชื่อถือ
อย่าเลือกจองเพียงเพราะเป็นเอเจนท์ที่เสนอราคาให้ถูกที่สุด แต่ควรเลือกจองจากเอเจนท์ที่เป็นที่รู้จักเพื่อให้มั่นใจในเรื่องบริการ หรือเลือกเอเจนท์ที่มีสาขาในไทยเพื่อให้สามารถติดต่อได้สะสวก เช่น เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหวหรือไวรัสระบาด ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแผนการเข้าพักหรือต้องยกเลิกห้องพัก รวมทั้งการขอเงินคืน อาจจะทำให้ติดต่อไม่ได้และสูญเงินที่จองไปโดยเปล่าๆ
3. เลือกทำเลที่สะดวกต่อการท่องเที่ยว
ในการพิจารณาเลือกที่พักในญี่ปุ่น นอกจากราคาแล้ว ทำเลที่ตั้งก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สะดวกในการเดินทางจากที่พักและการใช้บริการขนส่งสาธารณะ
- หากเป็นที่พักที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว โอซาก้า ก็ควรเลือกทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 5 นาที หรือประมาณ 500 เมตร ซึ่งจะทำให้ไม่เหนื่อยมากนักในการเดินและการลากกระเป๋าเดินทางไปยังที่พัก
- หากเป็นเมืองที่อยู่ในต่างจังหวัดหรือคนที่มีแพลนเดินทางท่องเที่ยวระหว่างเมือง การพักใกล้กับสถานีรถไฟหลักของเมืองนั้นๆ จะสามารถเดินทางไปได้สะดวกโดยไม่ต้องต่อรถในเมืองให้ยุ่งยากและวุ่นวาย ทั้งนี้โรงแรมที่พักที่อยู่ตรงสถานีใหญ่ๆ นั้นมักมีราคาสูงกว่าที่อยู่ในบริเวณที่ห่างออกไป
4. ตรวจสอบที่พักก่อนจอง
เมื่อค้นหาจนได้ที่พักที่ถูกใจแล้ว ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้เข้าพักจริงจากหลายๆ แหล่งก่อนตัดสินใจจอง และอยากให้ลองใช้ Google Map ดูสภาพแวดล้อมในบริเวณรอบๆ ว่าเป็นย่านแบบไหน ปลอดภัยและเหมาะที่เราจะไปพักหรือไม่ การเดินทางจากสถานีรถไฟมายังที่พักเป็นอย่างไร รวมถึงมีร้านค้าอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหาร ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกเวลาเข้าพักจริงได้เป็นอย่างดี
เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงค่อยกดจอง สำหรับโรงแรมบางแห่งนั้นสามารถยกเลิกได้ฟรีก่อนวันเข้าพักหรือได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนที่จองผ่าน Airbnb นั้นอาจถูกหักเงินหรือไม่สามารถขอคืนเงินได้หากเราเป็นผู้ขอยกเลิกการจอง ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโฮส จึงอยากให้ตรวจสอบให้ดีก่อนจอง
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com