Cover Photo: tokei-net21.com
สวัสดีค่า ห่างหายกันไปนานสำหรับการแชร์ประสบการณ์ในประเทศญี่ปุ่น วันนี้เรากลับมาพร้อมกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นกันค่ะ แต่ครั้งนี้เราขออนุญาตเจาะจงไปที่ร้าน 7-11 นะคะ นั่นก็เพราะว่า เราจะมาเปรียบเทียบ 7-11 ญี่ปุ่นและ 7-11 ไทยกันค่า ไปดูกันเลยไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง!
9 ความแตกต่างระหว่างร้าน 7-11 ญี่ปุ่นและไทย
1. เครื่องถ่ายเอกสาร
เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นไม่มีร้านบริการถ่ายเอกสารเหมือนเมืองไทย อีกทั้งเป็นประเทศที่ร้านปริ้นเอกสารหายากมาก แต่ความสะดวกนั้นหาได้ที่ 7-11 นั่นเอง ใครว่าเซเว่นเมืองไทยมีแทบทุกอย่าง อย่างน้อยนี่ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ไม่มีใช่มั้ยล่ะคะ เป็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดมากระหว่าง 7-11 ญี่ปุ่นกับของไทยเลยค่า
2. เครื่องจองบัตรคอนเสิร์ตหรืออีเวนท์ต่างๆ
Photo:blog.livedoor.jp // Photo:kamiyo.blog.so-net.ne.jp
ตัวอย่างบัตรคอนเสิร์ตที่รับจาก 7-11 และเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติ
นอกจากเครื่องถ่ายเอกสารแล้วยังมีเจ้าเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติด้วยนะคะ เมืองไทยมีระบบการจ่ายเงินผ่านเค้าเตอร์เซอร์วิสใช่มั้ยคะ แต่ 7-11 ญี่ปุ่นนั้นจะมีเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติให้บริการไว้เลยค่ะ เราสามารถจิ้มได้แบบสดๆ สำหรับคนที่ไม่สะดวกรับตั๋วที่บ้านก็มีบริการรับตั๋วคอนเสิร์ตหรือตั๋วงานอีเวนท์ต่างๆ ได้ที่ 7-11 ใกล้บ้านอีกด้วย
3. ถังขยะ
Photo[small]: weloveshopping
หลายท่านอาจจะสงสัยว่าไทยเราก็มีถังขยะนะ แต่ว่า 7-11 ของญี่ปุ่นนั้นจะมีขยะเฉพาะประเภทเท่านั้นค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นขยะสำหรับทิ้งขวด กระป๋อง และภาชนะใส่เบนโตะ บางสาขาจะมีถังขยะแบบเผาไม่ได้ให้ทิ้งด้วย สำหรับเมืองไทยจะเป็นขยะใบเดียวใช่มั้ยล่ะคะ นี่เป็นความแตกต่างเล็กๆ น้อย ถ้าบ้านเรามีแบบญี่ปุ่นบ้างก็ดีนะคะ
4. เครื่องทำกาแฟสด
Left photo: mansaku-blog.jp
Right photo: mintjellie.com
คือ 7-11 ที่ญี่ปุ่นเขาไปไกลมากค่ะ ด้วยความที่คนญี่ปุ่นชอบดื่มกาแฟกันมากพอๆ กับการสูบบุหรี่ ขนาดที่ว่าลูกค้าสามารถชงกาแฟสดได้ด้วยตัวเอง แถมราคาไม่แพงด้วยนะคะ มีทั้งแบบร้อนและเย็น เมืองไทยเองก็มีกาแฟเซเว่นใช่มั้ยคะ แต่ว่าจะเป็นเฉพาะกาแฟเย็นที่ไปเมื่อไหร่ก็สินค้าหมดตลอด(ฮา)
5. โซนอาหารและขนมที่ทำสดๆ แบบวันต่อวัน
ข้อนี้แตกต่างกับบ้านเราค่อนข้างมากทีเดียว เบนโตะหรือข้าวใน 7-11 ญี่ปุ่นต้องบอกว่าฝากท้องได้ทุกวันแบบไม่เบื่อเลยค่ะ อีกทั้งเป็นอาหารสดๆ ที่เขาทำแบบสดๆ ทุกวัน รวมไปถึงขนม เค้ก ขนมปัง พุดดิ้ง ของหวานนานาชนิดที่มีเมนูไม่ซ้ำกันด้วยนะคะ แต่ 7-11 เมืองไทยนั้นจะเป็นอาหารแช่แข็ง (โป๊ก) ใช่มั้ยคะ ส่วนตัวเราก็ชอบทานอาหารที่ทำแบบสดๆ มากกว่า (ตอนดึกๆ ก็ลดราคาด้วย)
6. ห้องน้ำสำหรับลูกค้า
หลายท่านอาจจะทราบกันบ้างสำหรับห้องน้ำใน 7-11 ที่ญี่ปุ่น แต่เราเองก็ยังไม่เคยใช้บริการเีสียที เพื่อนๆ คนไหนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองดูนะคะ แต่ที่ 7-11 ที่เมืองไทยเราเคยข้าศึกบุกจนต้องขอใช้บริการอยู่ครั้งหนึ่ง คาดว่าบ้านเราคงแล้วแต่พี่พนักงานจะกรุณาละกันนะคะ อิอิ
7. เคาท์เตอร์สำหรับนั่งทานอาหาร
Photo: okimideiko.blog.fc2.com
7-11 ของญี่ปุ่นหลายสาขานั้นมีที่นั่งสำหรับทานอาหารแบบร้านอาหารฟาสฟู้ดรวมถึงมีปลั๊กเสียบชาร์ตแบตเครื่องใช้ไฟฟ้าให้บริการด้วย จริงๆ แล้วเราเองเคยเห็น 7-11 เมืองไทยแค่สาขาเดียวคือสาขาหน้าปัญญาภิวัฒน์เท่านั้น และยังเป็นเคาท์เตอร์แบบยืนไม่มีที่นั่งค่ะ ญี่ปุ่นเขาก็ช่างทำให้ลูกค้าสะดวกสบายสมกับการเป็นร้านสะดวกซื้อจริงๆนะคะ
8. WiFi ฟรี
Photo: nikkei.com
เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่ามีนักท่องเที่ยวทราบกันแค่ไหน สำหรับเราเคยได้รับการช่วยชีวิตเวลาไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ไว้จาก 7-11 ญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ ต้องขอบคุณจริงๆ เพื่อนๆนักท่องเที่ยวคนไหนที่ลำบากเรื่องการติดต่อสื่อสาร 7-11 ที่ญี่ปุ่นจะเป็นที่พึ่งได้ดีมาก แต่สำหรับ 7-11 เมืองไทยนั้นคงไม่สามารถทำได้เพราะมีข้อจำกัดหลายๆ ด้านพอสมควร
9. เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
เรื่องนี้คิดว่ามีความแตกต่างกันอย่างมากเนื่องด้วยกฎหมายของแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกัน 7-11 ญี่ปุ่นนั้นวางขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์บนชั้นวางขายธรรมดาและในตู้แช่เย็น สำหรับเมืองไทยจะเห็นว่ามีขายด้านหลังเคาท์เตอร์พนักงานเท่านั้น รวมทั้งการควบคุมช่วงเวลาจำหน่ายด้วย
ส่งท้าย
เป็นยังไงบ้างคะ แม้จะใช้ชื่อเดียวกันแต่พออยู่กันคนละประเทศ ก็มีหลายๆ อย่างแตกต่างแยกย่อยออกไปอีก บางอย่างก็คิดว่าถ้าเมืองไทยมีคงดีไม่น้อย บางอย่างเราก็คิดว่าเมืองไทยก็สะดวกมากกว่า เรียกว่ามีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป สำหรับวันนี้คงมีเพียงเท่านี้แล้วพบกันใหม่ สวัสดีค่า
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com